ทักษิณ ชินวัตร เปิดหน้าชัดเจนว่าต้องการให้ไทยมี entertainment complex โดยไม่ปฏิเสธว่าในนั้นก็ต้องมี casino รวมอยู่ด้วย
ถามต่อไปว่า ถ้าเช่นนั้นหมายความว่าทักษิณ ชินวัตร ต้องการให้มี casino ใช่หรือไม่ คำตอบคือ ใช่ เพียงแต่อาศัยให้entertainment complex เป็นตัวบังหน้า casino
สาธารณชนพบว่าทักษิณได้ย้ำถึงการตั้ง casino แบบถูกกฎหมายเป็นประจำเมื่อเขาได้มีโอกาสพูดบนเวทีต่างๆ ไม่ว่าจะเวทีหาเสียงทางการเมือง และเวทีที่เอกชนบางรายจัดเพื่อหาเงินเข้าองค์กร ในรูปแบบ dinner talk
อันที่จริงสาธารณชนได้ตั้งข้อสังเกตย้อนหลังไป แล้วได้พบว่าตั้งแต่เศรษฐา ทวีสิน เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามของพรรคเพื่อไทย ก็ได้ยินเศรษฐาพูดเรื่อง entertainment complex เป็นระยะๆ พร้อมอ้างว่าจะทำให้ประเทศไทยได้ผลดีทางเศรษฐกิจมากขึ้น
ครั้นเมื่อเศรษฐาตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก็มาถึงยุคแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สาธารณชนสังเกตพบอีกว่าแม้แพทองธารจะไม่ได้พูดเรื่อง entertainment complex แบบตรงๆ ด้วยตัวเองมากนัก แต่ก็พบว่าทักษิณ (ในภาพของนายกรัฐมนตรีตัวจริง) พูดเรื่อง entertainment complex เป็นประจำ โดยที่แพทองธาร (นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด) ไม่เคยคัดค้านสิ่งที่ทักษิณพูด ซึ่งทำให้สาธารณชนเข้าใจตรงกันว่า การพูดโดยทักษิณก็คือการพูดแทนแพทองธาร เพราะแพทองธารไม่น่าจะพูดเรื่องนี้ได้ดีเท่ากับปล่อยให้ทักษิณพูด
นอกจากนั้นจะพบว่าบรรดารัฐมนตรีในสังกัดพรรคเพื่อไทยของทักษิณ ต่างดาหน้าออกมารับลูกเรื่องentertainment complex กันอย่างอึงมี่ ดังพบว่า ภูมิธรรมเวชยชัย คนที่สาธารณะลงความเห็นว่าทำตามคำสั่งทุกอย่างของทักษิณโดยดุษณี ก็ออกมารับลูก entertainment complex อย่างออกหน้าออกตา แบบชนิดที่ว่านายว่าอย่างไร ผมก็ว่าอย่างนั้น ไม่ขัดใจนาย
แต่ entertainment complex ที่ถูกผลักดันโดยทักษิณ ก็ไม่ได้รับความเห็นด้วยจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ดังพบว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่ได้ออกมาสนับสนุนเรื่องนี้ แล้วก็ยังมีบางพรรค เช่น พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านentertainment complex อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ประชาธิปัตย์คัดค้านโดยบอกว่าต้องให้ประชาชนลงประชามติในเรื่องนี้ก่อน ก็ถูกคัดค้านจากภูมิธรรมโดยทันที ทั้งนี้ ภูมิธรรมอ้างว่าเรื่อง entertainment complex คือนโยบายของพรรคเพื่อไทย และนโยบายนี้ผ่านความเห็นชอบโดยรัฐสภาแล้ว แต่ก็มีผู้โต้แย้งโดยพลันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีนโยบาย casino เพราะฉะนั้น อย่าตีขลุมเอา casino เข้าไปไว้ใน entertainment complex
อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างของทักษิณและคนของพรรคเพื่อไทยในการสร้าง entertainment complex ที่มี casino อยู่ด้วยก็คือเพื่อตัดบ่อนใต้ดินให้หมดไป แต่ก็ต้องย้ำว่านั่นเป็นเพียงข้ออ้าง ซึ่งไม่มีทางที่เพื่อไทยจะทำได้สำเร็จ เพราะทุกวันนี้เพื่อไทยก็ไม่สามารถปราบปรามหวยใต้ดินได้ ทั้งๆ ที่มีหวยของรัฐบาลออกขายทุกๆ 15 วัน แล้วที่สำคัญคือทักษิณและเพื่อไทยรู้ดีว่าเมืองไทยมีบ่อน ซ่อง เต็มเมือง แต่ก็ไม่มีปัญญากำจัดให้หมดสิ้นไปได้ แม้ทักษิณจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชนิดที่เรียกได้ว่ากุมอำนาจเบ็ดเสร็จมาแล้วก็ตาม
ยิ่งเมื่อได้ยินทักษิณคุยโวโม้สนั่นว่าตนเองคิดเรื่อง casino ถูกกฎหมายมาก่อนสิงคโปร์ ก็ยิ่งทำให้คนที่รู้ทันทักษิณหัวเราะจนน้ำตาไหล แล้ววิพากษ์ว่าก็พูดเหมือนกับคนที่ขี้คุยทั่วไปที่มักชอบอ้างว่าตนรู้ว่าหวยจะออกเลขอะไร หลังจากประกาศรางวัลที่หนึ่งออกมาแล้ว
หากทักษิณคิดเรื่อง casino ถูกกฎหมายได้ก่อนสิงคโปร์จริง ก็มีคำถามว่าแล้วเหตุใดในยุคที่ทักษิณกุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จจึงไม่ทำโครงการนี้ให้สำเร็จ จะมีประโยชน์อะไรกับการคุยเขื่องเมื่อเห็นสิงคโปร์ทำสำเร็จแล้ว
อย่างไรก็ตาม คนรู้ทันทักษิณก็ยังวิพากษ์ต่อไปว่าเป็นเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อว่าจะทำของผิดกฎหมายทั้งปวงให้กลายเป็นถูกกฎหมาย จะเอาของใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้จากของผิดกฎหมาย ซึ่งก็ต้องย้ำเหมือนเดิมว่าคำโฆษณาชวนเชื่อนี้เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เพราะทุกวันนี้ยังมีของผิดกฎหมายเต็มเมือง แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถปราบปรามได้ เพราะฉะนั้น การอ้างว่ามี entertainment complex แล้วจะทำให้บ่อนการพนันผิดกฎหมายหมดไปจากไทย ก็จึงเป็นเพียงคำคุยโม้เท่านั้น เพราะคนไทยที่รู้ทันทักษิณไม่เคยเชื่อว่าทักษิณจะทำได้จริง
ทักษิณและคนของเพื่อไทยยังอ้างว่าการมี entertainment complex ที่มี casino อยู่ด้วย จะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจำพวกนักพนัน รวมถึงนักลงทุนจำนวนมากไหลเข้าประเทศไทย แล้วจะทำให้มีเงินมหาศาลหมุนเวียน ทำให้คนไทยมีงานทำ มีรายได้ แต่ไม่เห็นว่าทักษิณจะมองถึงผลลบของการมี casino ในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ทักษิณรู้ดีว่าคนไทยเล่นการพนันกันเป็นจำนวนมาก และเมืองไทยก็มีบ่อนการพนันมากมาย แล้วเราก็มีกฎหมายห้ามเล่นการพนัน แต่ก็ไม่เคยพบว่ากฎหมายจะบังคับใช้ได้ผลแม้แต่น้อย แต่ที่น่าปวดหัวมากที่สุดคือเหล่าบรรดาตำรวจ ทหาร นักการเมือง และนายทุนบางรายยังเข้าไปพัวพันกับบ่อนการพนันอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ คือเรื่องที่ทักษิณทราบดีแต่ก็ไม่มีปัญญาจัดการกำจัดให้หมดไป ทั้งๆ ที่ทักษิณเคยมีอำนาจรัฐล้นมือมาแล้ว
มีข้อเท็จจริงปรากฏเสมอๆ ว่า เมื่อมีบ่อนการพนันเกิดขึ้นโดยที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมเล่นพนันให้อยู่ในหลักเกณฑ์ของกฎหมายได้อย่างเคร่งครัด จะนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ตามมา เช่น ผู้คนในประเทศจะติดการพนันมากขึ้น ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ จะเพิ่มขึ้น การค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ การฟอกเงินจะเพิ่มขึ้น และจะมีมาเฟียมากขึ้น แล้วมาเฟียก็จะใช้เงินเข้าไปสู่อำนาจการเมืองมากขึ้น
ทักษิณต้องแย้งว่าทำไมสิงคโปร์ควบคุมปัญหาต่างๆ ได้หากถามเช่นนี้ก็ต้องตอบว่าแล้วทักษิณสามารถทำให้ไทยควบคุมการบังคับใช้กฎหมายได้เหมือนสิงคโปร์หรือ ไม่ต้องคิดอะไรมากมายเกินไป ดูจากการที่แพทองธารขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็พอแล้ว รับรองว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในสิงคโปร์เป็นอันขาด เพราะสิงคโปร์เขาเน้นผลประโยชน์แห่งชาติมากกว่าผลประโยชน์ของครอบครัวนักการเมือง
ถามอีกทีว่า หากมี casino ใน entertainmentcomplex จริง แล้วเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นจริงหรือ บ่อนการพนันที่เปิดกันเป็นดอกเห็ดบานในหน้าฝนในไทยจะหมดไปหรือคนไทยจะได้ประโยชน์จากการมี casino จริงหรือ และใครจะได้ประโยชน์บ้าง
ข้ออ้างของทักษิณ และพรรคเพื่อไทยที่ว่า entertainmentcomplex มีพื้นที่ casino เพียง 3-5 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด และย้ำว่า entertainment complex ไม่ใช่casino แต่ก็ไม่สามารถหนีข้อเท็จจริงที่ว่ามี casino อยู่ในentertainment complex อย่างแน่นอน จึงมีคำถามว่าตกลงแล้วต้องการเปิดอะไรมากกว่ากันแน่ ต้องการ entertainmentcomplex หรือต้องการ casino กันแน่
การที่พรรคเพื่อไทยยกตัวอย่าง Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ โดยระบุว่ามีพื้นที่มากกว่า 5.8 แสนตารางเมตร แต่ทว่า ใช้พื้นที่สร้าง casino แค่เพียง 15,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 2.5 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด ก็เป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณาว่า แล้วไทยกับสิงคโปร์มีความเหมือนและต่างกันในแง่ใดบ้าง เพราะไม่ได้หมายความว่าไทยจะทำได้เหมือนกับสิงคโปร์ทำ และสิงคโปร์ก็ไม่มีวันทำได้เหมือนไทยทำอย่างแน่นอน
การอ้างตัวเลขเศรษฐกิจสิงคโปร์จาก Marina Bay Sands เมื่อปี 2022 ว่ามีสัดส่วนต่อ GDP ของสิงคโปร์ คิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่นมากกว่า 20,000 คน และทำรายได้ในภาพรวมได้ประมาณ 4.4 แสนล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวเข้าไปสิงคโปร์มากกว่า 15 ล้านคน โดยเข้าเยี่ยมชม Marina Bay Sands มากกว่า 4.5 ล้านคน แล้วเก็บภาษีได้กว่า 8 หมื่นล้านบาท เรื่องนี้เป็นการยกตัวเลขที่ไม่ได้ลงรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งก็ต้องถามว่าแล้วนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ไปสิงคโปร์นั้น เขามีเป้าหมายอยู่ที่ casino หรือ หากไม่ใช่ก็แสดงว่าการมี casino ไม่ได้ช่วยเพิ่มรายได้ให้ประเทศอย่างมีนัยสำคัญ แต่เหนืออื่นใดคือต้องบอกว่าการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันคนสิงคโปร์เข้าไปใน casino เคร่งครัดมาก แล้วก็ต้องบอกว่าไม่มีวันที่รัฐบาลไทยจะบังคับใช้กฎหมายกับคนไทยได้เคร่งครัดเท่ากับสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนไม่ได้ปฏิเสธว่ามาเก๊า สิงคโปร์ ประสบผลสำเร็จในการมี casino แต่ก็ต้องถามย้ำว่าแล้วรัฐบาลไทยมั่นใจหรือว่าจะประสบผลสำเร็จเหมือนกับสองแห่งนั้น ผู้เขียนย้ำอีกทีว่าเมืองไทยนั้นเต็มไปด้วยบ่อนการพนัน เรื่องนี้ตำรวจ ทหาร นักการเมือง นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบ่อน และคนเล่นพนันต่างรู้ดี ถามว่าไทยมีกฎหมายห้ามเล่นการพนัน ใช่ไหม แล้วรัฐบาลไทยมีปัญญาบังคับใช้กฎหมายห้ามเล่นการพนันได้หรือไม่ เรื่องเหล่านี้ รัฐบาลไทยรู้ดีอยู่แก่ใจ เพราะฉะนั้นการอ้างว่าจะทำให้สิ่งผิดกฎหมาย สิ่งที่อยู่ใต้ดินหมดไป ก็ต้องนำขึ้นมาไว้บนดินเรื่องนี้เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะต่อให้เมืองไทยมี casinoถูกกฎหมายจริง ก็ไม่ต้องหวังว่าบ่อนใต้ดินจะหมดไป หากจะหมดไปจริง ก็ขอให้รัฐบาลทำเรื่องหวยใต้ดินให้หมดไปก่อน แล้วก็ขอให้รัฐบาลบังคับการขายหวยรัฐบาล (สลากกินแบ่งรัฐบาล) ให้ได้ตามราคาที่กำหนดคือใบละ 80 บาทให้ได้เสียก่อน แล้วค่อยมาคุยโม้เรื่อง casino ถูกกฎหมาย
และขอถามทิ้งท้ายว่า คนที่รัฐบาลจะเลือกให้เข้ามาลงทุนทำ casino เป็นคนที่ไว้ใจได้จริงหรือ มือสะอาดจริงหรือ เป็นมืออาชีพที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐบาล จริงหรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี