วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ปรีชา'ทัศน์
ปรีชา'ทัศน์

ปรีชา'ทัศน์

วันศุกร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 02.00 น.
การทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญต้องไม่ขัดกับกฎตรรกะ

ดูทั้งหมด

  •  

ในคำวินิจฉัยที่ ๔/๖๔ ของศาลรัฐธรรมนูญเรื่อง “กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖(๑)” ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า....

“รัฐสภามีอำนาจและหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนลงประชามติจะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ต้องให้ประชาชนลงมติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”


ต่อประเด็นดังกล่าว ผมได้เคยตั้งข้อสังเกตเรื่อง การลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๐ นั้นขัดกับ กฎแห่งตรรกะ อย่างไร

.......ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ ได้มีการจัดออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๔ วรรคห้า บัญญัติไว้ ดังนี้

“การจัดให้มีการออกเสียงประชามติให้ออกเสียงประชามติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนั้นทั้งฉบับ....”

อย่างไรก็ตาม ตามหลักตรรกศาสตร์แล้ว การที่ประชาชนจะต้องออกเสียง “เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ “ทั้งฉบับ” นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไป
ไม่ได้ ซึ่งวิเคราะห์ตามกฎตรรกะได้ ดังนี้

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๖๐ มีทั้งหมด ๒๗๙ มาตรา และมีประเด็นที่เกี่ยวข้องนับเป็นร้อยๆ กว่าประเด็น

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าหากว่าประชาชนผู้จะต้องออกเสียงลงประชามติที่จะต้องพิจารณาบางประเด็น บางมาตราของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้นั้นจะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถูกใจและไม่ถูกใจ

ไม่ใช่เรื่องแปลก หากว่าบางคนจะเห็นด้วยในบางมาตรา บางประเด็น และมีอีกบางประเด็นหรือบางมาตราที่ไม่เห็นด้วยในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และความจริงก็ควรที่จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนี้

แต่การที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๕๙ บัญญัติว่า “....ให้ออกเสียงประชามติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนั้นทั้งฉบับ....”

ถ้าอ่านกันอย่างผิวเผินๆ ก็อาจนึกว่าเป็นเพียงพลความ แต่ความเป็นจริงแล้ว คำว่า “ทั้งฉบับ”เป็นใจความที่เน้นไว้ในมาตรานี้อย่างชัดเจน แต่ที่เน้นคำนี้ไม่อาจที่จะหยั่งทราบถึงเจตนาที่แท้จริงได้แต่ข้อความ “ทั้งฉบับ” นี้ มีความชัดเจนอยู่ในบัตรการออกเสียงลงประชามติ (โปรดดูตัวอย่างบัตรการลงประชามติ)

แต่เป็นการบัญญัติให้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นการพ้นวิสัย ด้วยเหตุผลทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักตรรกะ ดังนี้

๑. ร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่จะประชาชนออกเสียงประชามติมีสองประเด็น คือ

ประเด็นที่ ๑ ได้แก่ “ให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... “ทั้งฉบับ”

ประเด็นที่ ๒ ที่มีความว่า......“ท่านเห็นชอบหรือไม่ว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเกิดความต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ สมควรกำหนด ไว้ในบทเฉพาะกาลว่า ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”

ในประเด็นที่ ๒ นี้มีข้อสังเกตว่า ได้เพิ่มเติมเข้ามาภายหลังและแม้จะเป็นประเด็นเดียว แต่ก็มีความไม่ชัดเจนและกำกวม คลุมเครือ ข้อสำคัญมีความหมายได้หลายนัย

ขอย้อนกลับมาในประเด็นที่ ๑ การให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ “ทั้งฉบับ” ย่อมประกอบด้วย คำปรารภที่มีหมวดและ ส่วนต่างๆ และบทเฉพาะกาลด้วย

หมวดต่างๆ แต่ละหมวด ย่อมประกอบด้วยมาตราต่างๆ

มาตราต่างๆ แต่ละมาตรานั้น แต่ละมาตราย่อมประกอบด้วยวรรคต่างๆ

วรรคต่างๆ แต่ละวรรคนั้น แต่ละวรรคย่อมประกอบด้วยประพจน์หรือประโยค (Statement) ต่างๆ

ประพจน์หรือประโยคต่างๆ แต่ละประพจน์หรือประโยคอาจเป็นสิ่งที่คนเห็นชอบหรือสิ่งที่คนไม่เห็นชอบ เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้เท่านั้น

เป็นไปไม่ได้เลยที่ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ จะเห็นชอบทุกประพจน์หรือทุกประโยค ซึ่งก็คือทุกมาตรา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นชอบทุกหมวด ทั้งฉบับ

อีกทั้งเป็นไปไม่ได้เลยที่ จะไม่เห็นชอบทุกประพจน์หรือทุกประโยค ซึ่งก็คือทุกมาตรา จึงเป็นไปไม่ได้ที่ไม่เห็นชอบทุกหมวด ทั้งฉบับ

บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา ตรงนี้จึงบัญญัติในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นการพ้นวิสัยผลคือการนั้นตกเป็นโมฆะ

เพราะบัญญัติในสิ่งที่ไม่ดำรงอยู่จริง

ผลคือบัญญัติในสิ่งที่เป็นเท็จ ย่อมทำลายตัวเองใช้บังคับไม่ได้ ไม่ว่าผลการออกเสียงประชามติจะเป็นอย่างไร

๒. พิจารณาจากกฎตรรกะ (Logic)

(๒.๑) สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ใครบัญญัติสิ่งที่เป็นไปไม่ได้คือผู้ที่บัญญัติสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หรือบัญญัติความเป็นเท็จ

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่มาจากบทบัญญัติ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เฉพาะในส่วนดังกล่าวนี้ มาจากสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง นั่นก็คือรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในส่วนนี้มาจากบทบัญญัติความเป็นเท็จ ประกาศใช้เมื่อใด ก็เป็นเท็จเมื่อนั้น ย่อมไม่มีผลใช้บังคับได้

(๒.๒) ทั้งฉบับ คือ ทั้งเซต (set)

หมวด คือ อนุเซต (subset) ของทั้งฉบับ

มาตรา คือ อนุเซตของหมวด

ประพจน์หรือประโยค คือ อนุเซตของมาตรา

เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบทั้งฉบับ = เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบทุกประพจน์หรือทุกประโยค ซึ่งมีเป็นร้อยๆ พันๆ ประพจน์หรือประโยค

เป็นไปไม่ได้ หรือเป็นการพ้นวิสัยที่บุคคลจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบทุกประพจน์หรือทุกประโยค

ดังนั้น ข้อเสนอแนะก็คือ...ถ้าจะมีการยกเลิกหรือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและจะต้องมีการทำประชามติ

ถ้าการเป็นว่าต้องการให้ “เห็นชอบ” หรือ “ไม่เห็นชอบ” ที่ไม่ขัดต่อหลักกฎหมายและกฎตรรกะก็ตามทีโดยตัดคำว่า “ทั้งฉบับ” ออกไป เหลือเพียงให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในรัฐธรรมนูญ เพียงเท่านี้จะมีคำว่า “ทั้งฉบับ” ตามมาไม่ได้

เช่น ในมาตรา ๑๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่บัญญัติในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายของวุฒิสภาจะต้องให้ความ “เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ” เท่านั้น ไม่มีคำว่า“ทั้งฉบับ” แต่อย่างใด เป็นการบัญญัติที่ถูกทั้งหลักกฎหมายและกฎตรรกะ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่สมาชิกทุกคนจะต้องเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ร่างงบประมาณรายจ่ายทุกวงเงินและทุกรายการที่มีหลากหลาย

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา สุวรรณทัต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
17:59 น. ‘ผบ.ตร.’สั่งเร่งประสานญี่ปุ่น รับตัว‘ด.ญ.’วัย 12 ปีกลับไทย เผยแม่อยู่ไต้หวัน
17:37 น. ‘กรมชลประทาน’เตือน‘11 จังหวัด’ริมน้ำ เฝ้าระวัง‘เขื่อนเจ้าพระยา’ปรับเพิ่มการระบายน้ำ
17:28 น. DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ
17:19 น. ‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์
17:19 น. นักวิจัยชี้'โลกร้อน'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 2-8 พ.ย.68
โป๊ะแตก!!! 'นักเขียนดัง' แฉเบื้องหลัง 'นิสิตจุฬาฯ' ชูป้ายด่า'อภิสิทธิ์'
ขอบคุณ'คุณจ๋า'! ภรรยานายกฯอนุทิน เลือกใช้ 'กระเป๋า' ฝีมือคนไทยสู่สายตานานาชาติ
'โบว์ ณัฏฐา'โพสต์'อภิสิทธิ์'ตอบชัดทุกปม ซัดนิสิตจุฬาฯการรับฟังแย่มาก
ปลดฟ้าผ่า! มิสแกรนด์ราชบุรี-หนองคาย 2026 พร้อมเผยสาเหตุ
ดูทั้งหมด
บุคคลแนวหน้า : 8 พฤศจิกายน 2568
MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน
วิชามารทางการเมือง
ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?
บุคคลแนวหน้า : 7 พฤศจิกายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ผบ.ตร.’สั่งเร่งประสานญี่ปุ่น รับตัว‘ด.ญ.’วัย 12 ปีกลับไทย เผยแม่อยู่ไต้หวัน

DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ

ไม่ใช่ผู้ชาย! 'บิ๊กโจ๊ก'ตีวงแคบ แฉอดีตนายกฯ ตั้งฐานในต่างประเทศ รับเคลียร์พนันออนไลน์

‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์

นักวิจัยชี้'โลกร้อน'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี

'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์

  • Breaking News
  • ‘ผบ.ตร.’สั่งเร่งประสานญี่ปุ่น รับตัว‘ด.ญ.’วัย 12 ปีกลับไทย เผยแม่อยู่ไต้หวัน ‘ผบ.ตร.’สั่งเร่งประสานญี่ปุ่น รับตัว‘ด.ญ.’วัย 12 ปีกลับไทย เผยแม่อยู่ไต้หวัน
  • ‘กรมชลประทาน’เตือน‘11 จังหวัด’ริมน้ำ เฝ้าระวัง‘เขื่อนเจ้าพระยา’ปรับเพิ่มการระบายน้ำ ‘กรมชลประทาน’เตือน‘11 จังหวัด’ริมน้ำ เฝ้าระวัง‘เขื่อนเจ้าพระยา’ปรับเพิ่มการระบายน้ำ
  • DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ
  • ‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์ ‘ผบ.ตร.’ยันไม่ปวดใจ‘บิ๊กโจ๊ก-อัจฉริยะ’โจมตีตร. ไม่ได้แต่งตั้งเพื่อนร่วมรุ่น 41 หาผลประโยชน์
  • นักวิจัยชี้\'โลกร้อน\'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี นักวิจัยชี้'โลกร้อน'ต้นเหตุพายุ-ไต้ฝุ่นถล่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รุนแรงขึ้นทุกปี
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

การเมืองของชีวิตประจำวัน

การเมืองของชีวิตประจำวัน

7 พ.ย. 2568

บันทึกความเข้าใจร่วม vs. หนังสือสัญญาระหว่างประเทศ

บันทึกความเข้าใจร่วม vs. หนังสือสัญญาระหว่างประเทศ

31 ต.ค. 2568

ขบวนการไม่เอาทรัมป์

ขบวนการไม่เอาทรัมป์

24 ต.ค. 2568

รัฐธรรมนูญ กับ สังคมไทย  ปัญหาความสัมพันธ์ว่าด้วยรูปแบบกับเนื้อหา

รัฐธรรมนูญ กับ สังคมไทย ปัญหาความสัมพันธ์ว่าด้วยรูปแบบกับเนื้อหา

17 ต.ค. 2568

การย้ายพรรคของนักเลือกตั้ง

การย้ายพรรคของนักเลือกตั้ง

10 ต.ค. 2568

สปีชของทรัมป์ (จบ)

สปีชของทรัมป์ (จบ)

3 ต.ค. 2568

สุนทรพจน์ของทรัมป์

สุนทรพจน์ของทรัมป์

26 ก.ย. 2568

สัมผัส พึ่งประดิษฐ์ : ทนายความเพื่อประชาชน

สัมผัส พึ่งประดิษฐ์ : ทนายความเพื่อประชาชน

19 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved