วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

ดูทั้งหมด

  •  

ประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่ได้มีการกล่าวถึงเรื่องของการรบระหว่างไทยกับ ขอม ซึ่งน่าจะเป็นต้นกำเนิดของเขมรนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้นในสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทอง ซึ่งแต่เดิมนั้นเคยมีสัมพันธไมตรีกับ อาณาจักรอยุธยา ต่อมาเมื่อพระบรมลำพงศ์ได้ขึ้นครองราชย์ได้แปรพักตร์ไม่เป็นไมตรีดังแต่ก่อน พระเจ้าอู่ทองจึงให้พระราเมศวร พระราชโอรสที่ครองเมืองลพบุรี ยกทัพไปตีนครธมในปี พ.ศ.๑๘๙๕ แต่ไม่สามารถเอาชนะได้ จึงโปรดให้ขุนหลวงพะงั่ว ซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระมเหสียกทัพไปช่วย และสามารถตีพระนครหลวงคือเมืองนครธมแตกได้ โดยพระบรมลำพงศ์สวรรคตในศึกครั้งนั้น กองทัพอยุธยาได้กวาดต้อนเอาผู้คนและทรัพย์สมบัติของเขมรกลับมาเป็นจำนวนมาก

หลังจากพระเจ้าอู่ทองสวรรคต พระราเมศวรได้ขึ้นครองราชย์แทน แต่ไม่สามารถปกครองบ้านเมืองได้ดีขุนหลวงพะงั่วที่ครองเมืองสุพรรณบุรีอยู่จึงยกทัพขึ้นมายังกรุงศรีอยุธยา ทำให้พระราเมศวรต้องยอมถวายราชสมบัติให้ขุนหลวงพะงั่วขึ้นปกครองแผ่นดินแทนในนามสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑


ในปี พ.ศ ๑๙๑๕ เขมรได้แข็งข้อ จึงทำให้ขุนหลวงพะงั่วต้องยกทัพไปปราบเขมรอีกครั้งหนึ่ง พระเจ้าธรรมโศกราชกษัตริย์เขมรสวรรคตในระหว่างการรบ ขุนหลวงพะงั่ว ได้โปรดให้พระอินทราชาพระโอรสของพระเจ้าธรรมโศกราชขึ้นครองราชย์แทน แต่ในระยะต่อมากองทัพญวนก็เข้ามารุกรานเขมร และสามารถยึดครองได้

อยุธยาสามารถยึดเขมรได้อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.๑๙๗๔ ในสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ หรือเจ้าสามพระยา ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสำคัญ ทำให้เขมรต้องย้ายเมืองหลวงจากนครธมไปอยู่ที่พนมเปญ และอ่อนแอจนสูญเสียอำนาจที่เคยมีในภูมิภาคนี้ไปในที่สุด

ในปี พ.ศ. ๒๐๑๙ รัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระองค์ได้รับการร้องขอจากผู้ปกครองเขมรในช่วงนั้น ในเรื่องของการก่อกบฏภายใน ทำให้พระองค์ต้องยกทัพไปเองเพื่อปราบกบฏที่เกิดขึ้นจนสำเร็จเรียบร้อย และเขมรต้องส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายกรุงศรีอยุธยาอยู่นานพอสมควร

หลังจากที่อยุธยาต้องเสียอิสรภาพให้กับอาณาจักรหงสาวดีในปี พ.ศ.๒๑๑๒ ทำให้อาณาจักรอ่อนแอลง เขมรได้ยกทัพมารุกรานหลายครั้ง ทั้งในปี พ.ศ.๒๑๑๓ และต่อมาอีกอย่างน้อย ๒ ครั้ง คือในปี พ.ศ.๒๑๑๘ และ ๒๑๑๙ กวาดต้อนผู้คนกลับไปยังเขมรจำนวนหนึ่ง

ก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะกู้เอกราชของชาติกลับคืนมาโดยการ ประกาศอิสรภาพในปี พ.ศ.๒๑๒๗ นั้น เขมรยังคงยกทัพมารุกรานชาติไทยอยู่ตลอดเวลาโดยเพชรบุรีเป็นหัวเมืองที่ถูกรุกรานถึง 2 ครั้ง ประชาชนถูกกวาดต้อน ไปพร้อมกับทรัพย์สมบัติจำนวนมาก

ปี พ.ศ.๒๑๓๖ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้กรีธาทัพเข้าบุกเขมร ยึดเมืองต่างๆ จนเข้าไปถึงเมืองละแวกซึ่งในช่วงนั้นเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเขมร สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 หรือนักพระสัตถากษัตริย์เขมร ได้ทรงช้างเพื่อจะกระทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระนเรศวร แต่เมื่อช้างทรงของนักพระสัตถาเห็นช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรก็เกรงขามและวิ่งเตลิดหนีไป สมเด็จพระนเรศวรจึงยกทัพเข้าทำลายเมืองละแวกจนย่อยยับ กษัตริย์พม่า พระเชษฐา และพระราชบุตร ประชวรสิ้นพระชนม์ที่เมืองสตึงแตรงทัพของกรุงอยุธยาได้ชัยชนะพร้อมกับกวาดต้อนชาวเขมรมายังกรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนำพระอนุชาของนักพระสัตถากลับมาด้วย หลังจากนั้นสงครามระหว่างไทยกับเขมรก็ลดน้อยลงจนเกือบจะหมดไป เขมรตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอาณาจักรอยุธยา

เขมรแข็งเมืองอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ซึ่งทำให้พระองค์ต้องยกทัพไปตีเขมร และสามารถปราบปรามได้ ทำให้เขมรกลับมาเป็นประเทศราชของไทยอีกครั้ง

กล่าวได้เลยว่าสัมพันธไมตรีระหว่างเขมรตั้งแต่ยุคของขอมจนมาถึงยุคปัจจุบันนี้ไม่เคยมีความแน่นแฟ้น มีสงครามสู้รบกันอยู่เสมอ ซึ่งไทยก็จะได้ชัยชนะทุกครั้ง

อาณาจักรอยุธยาแต่งตั้งกษัตริย์ปกครองเขมรมาหลายพระองค์ จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ก็ยังทรงแต่งตั้งกษัตริย์ปกครองเขมร ต่อมาเขมรเริ่มหันไปฝักใฝ่กับญวน ทำให้พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ ต้องส่งกองทัพไปขับไล่ญวนออกจากเขมร เกิดความขัดแย้งกันนานถึง ๑๔ ปี แต่สุดท้ายเขมรก็ตกเป็นประเทศราชร่วมของทั้งอาณาจักรรัตนโกสินทร์และญวน จนถึงยุคล่าอาณานิคมที่เขมรตกเป็นของฝรั่งเศส

ไทยและเขมรมีปัญหากระทบกระทั่งกันครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.๒๕๐๔ กรณีเขาพระวิหาร ซึ่งในที่สุดไทยต้องเสียดินแดนส่วนนี้จากคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งใช้หลักกฎหมายการยอมรับโดยปริยาย เนื่องจากรัฐบาลไทยไม่โต้แย้งแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นตามคำขอของรัฐบาลสยามเอง

หันกลับมาดูสถานการณ์ระหว่างไทยและเขมรในปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะเข้าใจในสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันกำลังดำเนินการอยู่ในเรื่องของเขตแดนที่อยู่ติดกัน โดยเมื่อ ๖-๗ เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการนำเรื่องของเกาะกูดซึ่งเป็นแผ่นดินของไทยเข้าสู่การเจรจากับเขมร ในเรื่องของการแบ่งทรัพยากรใต้ทะเลคือแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่บริเวณเกาะกูด ว่าจะต้องจัดสรรปันส่วนกับเขมรอย่างไร โดยยกเอาเรื่อง MOU ๔๔ ที่รัฐบาลสมัยนายกฯนักโทษชั้น ๑๔ ได้ทำไว้กับเขมร ในเรื่องของพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เพื่อแบ่งผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น และดูเหมือนว่ารัฐบาลนางสาวแพทองธาร บุตรสาวของอดีตนายกฯนายนั้น ก็ดำเนินนโยบายในลักษณะที่จะโอนอ่อนผ่อนปรนให้มีการเจรจาดังกล่าว แต่เนื่องจากเสียงคัดค้านของประชาชนคนไทยที่รักแผ่นดิน ตลอดจนนักวิชาการ รวมทั้งเหล่าทหารที่มีหน้าที่ปกป้องรักษาชาติได้ออกมารณรงค์ต่อสู้ ไม่ยอมให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ เรื่องจึงเงียบหายไป

น่าแปลกที่ว่าตลอดระยะเวลา ๘ ปี ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เขมรไม่ได้มีท่าทีที่จะทำการใดๆ อันเป็นเสมือนการรุกรานประเทศไทยเลย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นใน
ปี พ.ศ.๒๕๕๔ ที่มีนายกฯหญิงคนแรกเกิดขึ้น ได้เกิดเหตุการณ์การรบต่อสู้ระหว่างทหารเขมรและทหารไทยที่ดูแลพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๘ แล้ว โดยเขมรได้ยกกำลังทหารบุกรุกเข้ามา จนเกิดการสูญเสียของทหารทั้งสองฝ่าย โดยเขมรเป็นฝ่ายสูญเสียมากกว่า

ในช่วงเวลาประมาณ ๒ เดือนที่ผ่านมานี้ได้มีข่าวเรื่องทหารเขมรพาประชาชนชาวเขมรจำนวนหนึ่งขึ้นมาบริเวณปราสาทตาเมือนธม และชักธงชาติตลอดจนร้องเพลงชาติเขมร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะกระทำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ทหารไทยบริเวณนั้นต้องดำเนินการขับไล่โดยสันติวิธี

หลังจากนั้นทหารเขมรก็มีพฤติกรรมในลักษณะยั่วยุมาโดยตลอด และยังคงนำประชาชนเขมรเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเสมอ ตลอดจนสื่อในประเทศเขมรก็ได้ออกข่าวในลักษณะที่ทำให้ชาวเขมรเชื่อว่าปราสาทตาเมือนธมนั้นเป็นของเขมร

ทั้งๆ ที่ประเทศไทยถูกรุกราน แต่รัฐบาลไทยโดยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ก็ยังคงให้ข่าวในลักษณะที่ว่าได้มีการเจรจากับฝ่ายเขมร และมีความเข้าใจกันดี โดยอ้างเอา MOU ๔๔ เรื่องเขตแดนที่ยังไม่ชัดเจนมาเป็นเหตุผลชี้แจงว่าทั้งสองฝ่าย จะต้องร่วมมือเจรจากันในการปักเขตแดน

ถึงกระนั้นกองกำลังทหารฝ่ายเขมรก็ยังคงปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ใช่ในลักษณะของฉันมิตรแต่อย่างใด ทำให้กองทัพภาคที่ ๒ ต้องปฏิบัติการอย่างเข้มแข็งและเข้มงวดมากขึ้น
เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยผืนนี้

และเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีข่าวเรื่องกองกำลังทหารเขมร ได้รุกรานชายแดนไทยบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีการขุดคูเล็ดหรือหลุมเพาะตลอดแนวด้วย

เป็นไปได้หรือไม่ว่า จากความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของอดีตนายกฯนักโทษชั้น ๑๔ กับผู้นำของเขมร จึงทำให้เขมรกล้าแสดงออกถึงพฤติกรรมที่พร้อมจะรุกรานประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา

ก็ได้แต่หวังว่า รัฐบาลชุดนี้ซึ่งอ่อนแอในการบริหารบ้านเมืองเป็นอย่างมาก จะไม่อ่อนแอในการบริหารเรื่องความมั่นคงของชาติ รวมทั้งนโยบายต่างประเทศ หลงกลเจรจากับเขมรหรือดำเนินการใดๆ จนกระทั่งทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดนเพิ่มเติมให้กับเขมรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวไทยผู้รักชาติคงไม่อาจจะอดทนกับรัฐบาลชุดนี้ได้อีกต่อไป

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:12 น. ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม.
21:44 น. มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้
21:34 น. ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา
21:25 น. (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส
21:20 น. ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน
ดูทั้งหมด
'สนามบินเตโช'มีผู้โดยสารเทียบเท่า'สุวรรณภูมิ' 2พ่อลูกตระกูลฮุนยันไม่ได้กู้เงินจีนสร้าง
‘เกาหลีใต้’บอมบ์‘ฮุน มาเนต’กลางวงทูตทั่วโลก หมดสภาพผู้นำ
ลดราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตร-เบนซิน 30 สตางค์/ลิตร มีผลพรุ่งนี้
ฟ้าผ่าบอลไทย! ปลด'อิชิอิ'พ้นกุนซือช้างศึก
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 19 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ดูทั้งหมด
บุคคลแนวหน้า : 24 ตุลาคม 2568
ทรัมป์ไม่เหมาะเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชา
‘คนกับระบบ’
ยำใหญ่‘รัฐบาลหนูชั่วคราว’
ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา

(คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส

ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน

'ฮุน มาเนต'บิดเบือน! กต.ยันประชุม JBC ไม่ได้หารือแผนที่ 1:200,000

ร่างตัวประกันชาวไทยที่เสียชีวิตในกาซาถึงไทยแล้ว กต.ร่วมพิธีรับร่าง-ไว้อาลัย

'พลอย เฌอมาลย์'เปิดใจครั้งแรก! ตรวจพบมะเร็งเต้านม น้ำหนักฮวบ13โล-ฉายแสงจนหน้าอกไหม้

  • Breaking News
  • ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม. ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม.
  • มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้ มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้
  • ส่งกำลังใจ! \'เต๊ะ ศตวรรษ\'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา
  • (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส
  • ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

จากการพนันสู่แก๊งสแกมเมอร์ อันตรายของชาติ

จากการพนันสู่แก๊งสแกมเมอร์ อันตรายของชาติ

20 ต.ค. 2568

อธิปไตย อย่าให้ใครรุกราน

อธิปไตย อย่าให้ใครรุกราน

13 ต.ค. 2568

รัฐธรรมนูญ จากปี ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๖๐.... ยังต้องแก้อีกหรือ

รัฐธรรมนูญ จากปี ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๖๐.... ยังต้องแก้อีกหรือ

6 ต.ค. 2568

รัฐบาลต้องมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

รัฐบาลต้องมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

29 ก.ย. 2568

รัฐบาลใหม่ต้องมุ่งรักษาอธิปไตย

รัฐบาลใหม่ต้องมุ่งรักษาอธิปไตย

22 ก.ย. 2568

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

15 ก.ย. 2568

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

8 ก.ย. 2568

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

1 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved