วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
รัฐธรรมนูญ จากปี ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๖๐.... ยังต้องแก้อีกหรือ

ดูทั้งหมด

  •  

“ในหลวงทรงพระกรรแสง เมื่อเห็นพระยาศรีวิสารวาจา(หุ่น ฮุนตระกูล) และตรัสว่า “ตาหุ่น แกรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าฉันจะให้รัฐธรรมนูญ ทำไมจึงต้องทำให้ฉันอับอายเขาถึงเช่นนี้” พระยาศรีวิสารฯก็ร้องไห้ ทูลตอบว่า“ข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้รู้เห็นด้วยเลยจริงๆ” และมีหลายคนที่อายในหลวงจนร้องไห้เหมือนกัน

ข้อความดังกล่าวนี้ คือถูกบันทึกไว้ในหนังสือ“สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น” อันเป็นคำบอกเล่าของหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล


ข้อความดังกล่าวนั้นเป็นคำตรัสของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่คณะราษฎรได้ทำการปฏิวัติ ในขณะที่พระองค์ทรงแปรพระราชฐานอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล หัวหิน

การปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ ภายใต้การนำของพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา โดยได้นำกำลังทหารและพลเรือนมาชุมนุม ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อประกาศแถลงการณ์ของคณะราษฎร และยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน โดยหัวหน้าคณะราษฎร คือ นายปรีดี พนมยงค์ หรือหลวงประดิษฐ์มนูธรรม

เรื่องการพระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่ปวงชนชาวไทยนั้น ได้มีบันทึกของเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์) ไว้ว่า “เมื่อทรงรับราชสมบัติ ก็มั่นพระราชหฤทัยว่า เป็นหน้าที่ของพระองค์ที่จะให้ constitution แก่สยามประเทศ.... ครั้นได้ข่าวเรื่องนี้ก็ปรากฏว่าช้าไปอีก ที่คณะราษฎรทำไปไม่ทรงโกรธกริ้วและเห็นใจเพราะไม่รู้เรื่องกัน พอทรงทราบเรื่องก็คาดแล้วว่าคงจะเป็นเรื่องการปกครอง เสียพระราชหฤทัยที่ได้ช้าไป ทำความเสื่อมเสียให้เป็นอันมากในวันนั้นได้ทรงฟังประกาศของคณะราษฎรทางวิทยุทรงรู้สึกเสียใจ และเจ็บใจมากที่กล่าวหาร้ายกาจมากมายอันไม่ใช่ความจริงเลย.....”

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นแก่ความสงบของบ้านเมืองมากกว่าสิ่งอื่นใด ทรงยอมรับเป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยพระองค์แรก

หลังจากปฏิวัติแล้ว คณะราษฎรได้ร่างข้อกฎหมายที่เรียกว่าพระราชบัญญัติธรรมนูญปกครองแผ่นดินสยาม โดยผู้ร่างคือนายปรีดี พนมยงค์ และคณะกรรมการบางส่วนขึ้นทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวในวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ เพื่อให้พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย

พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยโดยเติมพระอักษร“ชั่วคราว” ต่อท้ายพระราชบัญญัติฉบับนั้น และมีพระราชกระแสรับสั่งแก่คณะราษฎรว่า ให้ใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการชั่วคราวและให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรตั้งอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเพื่อปรับปรุงข้อกฎหมายและข้อบังคับต่างๆให้มีความเสถียรภาพมากขึ้น

พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ซึ่งคณะราษฎรได้เลือกให้เป็นผู้นำระบอบใหม่ และยังเป็นประธานอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญด้วยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้พระองค์ทรงพอพระราชหฤทัย โดยได้มีการเข้าเฝ้าเพื่อปรึกษาหารืออย่างสม่ำเสมอ และมักดำเนินการให้สอดคล้องกับพระราชประสงค์ทั้งเรื่องใหญ่โตไปจนถึงเรื่องปลีกย่อย จนนำไปสู่ความสำเร็จในร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้กำหนดพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญโดยได้เสนอให้ใช้พระที่นั่งอนันตสมาคมและให้เชิญคณะทูตานุทูตเข้าร่วมชมพระราชพิธีด้วยโดยให้โหรหลวงประจำราชสำนักเป็นผู้หาฤกษ์สำหรับพระราชทานรัฐธรรมนูญ และโดยที่เห็นว่ารัฐธรรมนูญนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็นของที่ควรจะขลัง พระองค์จึงมีรับสั่งให้มีการบันทึกเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ลงใส่สมุดไทย

ยังมีการเขียนคำประกาศที่ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญ ความตอนหนึ่งกล่าวถึงที่มาของรัฐธรรมนูญว่า “ข้าราชการทหาร พลเรือน และอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระมหากรุณาขอพระราชทานรัฐธรรมนูญ ประชาชนชาวสยามได้รับพระบรมราชบริหารในวิถีความเจริญนานาประการโดยลำดับจนบัดนี้มีการศึกษาสูงขึ้นแล้วมีข้าราชการประกอบด้วยวุฒิปรีชาในภัฏฐาภิปาลโนบายสมควรแล้วที่จะพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ข้าราชการและประชาชนของพระองค์ได้มีส่วนมีเสียงตามความเห็นดีเห็นชอบในการจรรโลงประเทศสยาม จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรัฐธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามตามความประสงค์”

พิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร จึงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๕

นับตั้งแต่นั้นก็ถือว่าประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาโดยตลอด แต่การมีรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมอาณาอารยประเทศ มีเศรษฐกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีสังคมที่ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และมีระบบการเมืองที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด

มีความพยายามแผ่ขยายและกระจายอำนาจ เพื่อหวังที่จะเป็นใหญ่และปกครองประเทศอย่างยาวนาน แก่งแย่งชิงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งการสร้างสมัครพรรคพวกทั้งในภาคราชการและเอกชนอย่างมากมายมหาศาล แต่เรื่องที่เลวร้ายที่สุดคือการกระทำทุจริตประพฤติมิชอบคอร์รัปชั่นต่อบ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งกลายเป็นโรคเรื้อรังอันยากที่จะแก้ไข

สิ่งที่เรียกว่าระบอบประชาธิปไตย บางครั้งก็ถูกคุกคามโดยผู้มีอำนาจที่หวังจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยเกิดความเอือมระอา เริ่มมีการเรียกร้องต่อสู้หาความเป็นธรรมในสังคมมากขึ้น

เรื่องต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุของการกระทำปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งหลังจากการกระทำดังกล่าวแต่ละครั้ง ก็มักจะเริ่มต้นประเทศด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นไปตามแนวทางที่ผู้มีอำนาจในขณะนั้นอยากจะให้เป็น โดยประชาชนอาจจะมีส่วนร่วมไม่มากนัก

พรรคการเมืองบางพรรค บางตระกูล ก็มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะสืบทอดการบริหารบ้านเมืองให้อยู่ในกำมือของพวกตนอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย

ทั้งการแก่งแย่งชิงดีที่จะบริหารบ้านเมืองรวมทั้งกระบวนการคอร์รัปชั่นอย่างมากมายมหาศาลของนักการเมืองบางส่วนที่มีอำนาจมากขึ้นนี่เอง จึงทำให้การรัฐประหารในประเทศไทยเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา นับจนถึงปัจจุบันนี้มีการรัฐประหารไปแล้ว ๑๓ ครั้ง และมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เกิดขึ้นเป็นจำนวน ๒๐ ฉบับ โดยฉบับสุดท้ายคือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งมีคนบางกลุ่มบางกล่าวว่าเป็นผลพวงจากการทำรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๕๗ แต่โดยความจริงรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีคณะกรรมการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางด้านกฎหมายจำนวนมากและเป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เป็นโรคเรื้อรังของบ้านเมือง คือการทุจริตโกงกินและประพฤติมิชอบจากการ จึงมีบทลงโทษที่รุนแรง จนถูกเรียกว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงอันเป็นสิ่งที่นักการเมืองส่วนหนึ่งไม่สามารถจะยอมรับได้

ความพยายามที่จะแก้ไขหรือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยอ้างว่ารัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่นี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านการทำประชามติโดยประชาชนซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ถึง ๖๑.๓๕% หรือมากกว่า ๑๖ ล้านเสียงให้ความเห็นชอบ ได้เกิดขึ้นมาโดยตลอด และชัดเจนว่าพรรคการเมืองบางพรรคถือเป็นนโยบายที่สำคัญอย่างยิ่ง ถึงขนาดใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของประเทศไทย ต้องถือว่าเป็นวิถีทางการเมืองที่แปลกประหลาด ตลอดจนการอภิปรายในการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีท่านใหม่พรรคการเมืองดังกล่าวก็ยังกล่าวย้ำถึงเรื่องนี้

เนื้อแท้ของการอยากแก้ไขหรือจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่นั้นคือการต้องการลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ และการลดบทลงโทษนักการเมืองที่ทำผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญฉบับแรกนั้นเกิดขึ้นจากการที่พระมหากษัตริย์ทรงเล็งเห็นแล้วว่าการบริหารบ้านเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยประชาชนมีส่วนร่วม จึงได้ลงพระปรมาภิไธยพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับแรกให้ในปีพ.ศ.๒๔๗๕

ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองใดๆ ที่มักอ้างประชาชน คิดที่จะแก้หรือจัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามแนวความคิดในเชิงดูหมิ่นหรือลดพระราชอำนาจสถาบัน และลดบทลงโทษนักการเมืองที่ทำผิด เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาลงประชามติ รัฐธรรมนูญฉบับนั้นจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่อย่างแน่นอน เป็นการเสียงบประมาณจำนวนมากของชาติโดยเปล่าประโยชน์

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
06:00 น. ‘แม่ทัพ1’สั่งลุยกู้ทุ่นระเบิดก่อนส่งมอบ ปชช. ปกป้องแผ่นดินถึงที่สุด
06:00 น. ‘เวียร์-ศุกลวัฒน์’ครั้งแรกก้าวสู่ ‘จักรวาลขุนพันธ์’กับบท ‘เสือฝ้าย’วัยหนุ่ม
06:00 น. ปรับแผนใช้เครนหุ่นยนต์ รื้อถอนอาคารสน.สามเสน
06:00 น. ภท.ถกพรรคร่วมฯแก้รธน. ไม่แตะหมวด1-2 ให้เอกสิทธิ์สส.โหวตลงมติ
06:00 น. อุตุฯเตือนทั่วไทย ฝนตกหนัก37จว.เฝ้าระวังน้ำท่วม พิจิตรน้ำเริ่มเน่า
ดูทั้งหมด
'ปราชญ์ สามสี'งัดความรู้ฉะหน้าเขมร ลั่นนี่คือ'ประวัติศาสตร์ที่กัมพูชาอยากลืม'
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
ตาสว่างทันที! 'ทูตจีนประจำกัมพูชา'โพสต์สนับสนุนเขมร จุดไฟคนไทยเดือดทั้งโซเชียล
'องคมนตรี'เป็นผู้แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
ทัวร์ลงฉ่ำเฟซบุ๊กทูตจีน! หลังโพสต์สนับสนุนกัมพูชา คนไทยคอมเมนต์แรงตีสองหน้า
ดูทั้งหมด
กัปตันเรือมือด้วน
แก้รัฐธรรมนูญเพื่อ...?
หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ราคาของการหาเสียงการเมือง ราคาของความล่าช้า
บุคคลแนวหน้า : 14 ตุลาคม 2568
โลกล้อมกัมพูชา เมื่อสหรัฐกำหนดให้เป็นรัฐสนับสนุนการค้ามนุษย์
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ถึงคนเมือง!!! 'ชัยวัฒน์'เล่าเรื่อง'ป่า'อยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด

นางรำนับร้อยชีวิต รำเทียนน้อมรำลึก 'ในหลวง ร.9' หน้าวังไกลกังวล

ทภ.1 สรุปสถานการณ์บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เดินหน้าปฎิบัติการจิตวิทยา

'เกลือ'ดึงสติชาวเน็ต หลังเริ่มแซะเปรียบเทียบไลฟ์สด'เจนนี่' ลั่นเป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคน

ปชช. แห่กราบไหว้ฤาษีเณร เจิมเปิดดวงเศรษฐี

'เกาหลีใต้'แจ้งปชช.ห้ามเดินทางไปเขมร หลังยอดคนถูกหลอก-กักขังทรมานพุ่งสูง

  • Breaking News
  • ‘แม่ทัพ1’สั่งลุยกู้ทุ่นระเบิดก่อนส่งมอบ ปชช. ปกป้องแผ่นดินถึงที่สุด ‘แม่ทัพ1’สั่งลุยกู้ทุ่นระเบิดก่อนส่งมอบ ปชช. ปกป้องแผ่นดินถึงที่สุด
  • ‘เวียร์-ศุกลวัฒน์’ครั้งแรกก้าวสู่ ‘จักรวาลขุนพันธ์’กับบท ‘เสือฝ้าย’วัยหนุ่ม ‘เวียร์-ศุกลวัฒน์’ครั้งแรกก้าวสู่ ‘จักรวาลขุนพันธ์’กับบท ‘เสือฝ้าย’วัยหนุ่ม
  • ปรับแผนใช้เครนหุ่นยนต์ รื้อถอนอาคารสน.สามเสน ปรับแผนใช้เครนหุ่นยนต์ รื้อถอนอาคารสน.สามเสน
  • ภท.ถกพรรคร่วมฯแก้รธน. ไม่แตะหมวด1-2 ให้เอกสิทธิ์สส.โหวตลงมติ ภท.ถกพรรคร่วมฯแก้รธน. ไม่แตะหมวด1-2 ให้เอกสิทธิ์สส.โหวตลงมติ
  • อุตุฯเตือนทั่วไทย ฝนตกหนัก37จว.เฝ้าระวังน้ำท่วม พิจิตรน้ำเริ่มเน่า อุตุฯเตือนทั่วไทย ฝนตกหนัก37จว.เฝ้าระวังน้ำท่วม พิจิตรน้ำเริ่มเน่า
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อธิปไตย อย่าให้ใครรุกราน

อธิปไตย อย่าให้ใครรุกราน

13 ต.ค. 2568

รัฐธรรมนูญ จากปี ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๖๐.... ยังต้องแก้อีกหรือ

รัฐธรรมนูญ จากปี ๒๔๗๕ ถึง ๒๕๖๐.... ยังต้องแก้อีกหรือ

6 ต.ค. 2568

รัฐบาลต้องมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

รัฐบาลต้องมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

29 ก.ย. 2568

รัฐบาลใหม่ต้องมุ่งรักษาอธิปไตย

รัฐบาลใหม่ต้องมุ่งรักษาอธิปไตย

22 ก.ย. 2568

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

15 ก.ย. 2568

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

8 ก.ย. 2568

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

1 ก.ย. 2568

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

18 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved