วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ดูทั้งหมด

  •  

สังคมใดๆ ก็ตามที่มีคนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ย่อมจะต้องมีกฎระเบียบให้ทุกคนปฏิบัติตาม เพื่อให้เกิดความสงบสุขและสันติ ซึ่งกฎระเบียบต่างๆ นั้นก็คือที่มาของกฎหมาย และเมื่อมีกฎหมายก็ต้องมีผู้บังคับใช้กฎหมายซึ่งก็คือศาล

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ได้ให้ความหมายของคำว่ากฎหมายไว้ว่า คือกฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น หรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือเพื่อใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม หรือเพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ


คำว่ากฎหมายในสมัยโบราณกับปัจจุบันมีความแตกต่างกัน สมัยโบราณกฎหมายคือธรรมะโดยถือว่ากฎหมายกับธรรมะเป็นเรื่องเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ แต่ในปัจจุบันกฎหมายคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนิติบัญญัติ มีการตรากฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษร

วิวัฒนาการของกฎหมายของไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย โดยในช่วงนั้นกฎหมายคือหลักธรรมและจารีตประเพณีในสังคม เป็นเหตุผลธรรมดาของสามัญชนหรือสามัญสำนึกเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติ เป็นลักษณะกฎหมายแบบชาวบ้าน เช่นในเรื่องของกรรมสิทธิ์ก็ระบุว่าใครสร้างเรือก นาไร่ สวนก็ให้เป็นของของคนคนนั้น สมบัติที่พ่อแม่สร้างไว้ก็ให้ตกเป็นของลูกของหลาน อย่างนี้ เป็นต้น

ในสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก็จัดให้มีการแขวนกระดิ่งไว้ที่ปากประตูพระราชวัง ใครผู้ใดมีเรื่อง“เจ็บท้องข้องใจ” ก็ให้ไปสั่นกระดิ่ง ซึ่งเมื่อพระองค์ท่านได้ยิน ก็จะให้มีการสอบถามและตัดสินความ

เมื่อล่วงมาถึงสมัยอาณาจักรอยุธยา ก็มีวิวัฒนาการของการใช้กฎหมายในการตัดสินคดีความ หรือรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม โดยกฎหมายหลักนั้นมีรากฐานมาจากคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ที่มาจากอินเดีย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ใช้อำนาจสูงสุด เริ่มมีการใช้บทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น เช่นการประหารชีวิต การเฆี่ยนตี การประจานหรือแม้แต่การตัดมือตัดเท้า ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาพราหมณ์ ในส่วนของคดีทางแพ่งนั้น มีการลงโทษปรับสินไหมตามศักดินา ส่วนทางอาญามีการลงโทษโดยจำคุกหรือล่ามโซ่หรือใส่กรงขัง

วิธีการพิจารณาคดีนั้น เริ่มมีการให้บุคคลทำหน้าที่ต่างๆ เช่น มีตระลาการซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาคดี ทำหน้าที่สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วส่งสำนวนให้กับผู้พิพากษา การสืบพยานนั้นจะไปสืบที่บ้าน ไม่มีศาลที่เป็นสถานที่สืบพยาน

มีผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่ชี้ข้อกฎหมายเพื่อส่งให้กับลูกขุน และมีคณะลูกขุนทำหน้าที่ชี้ข้อกฎหมายและชี้ขาดว่าฝ่ายใดชนะคดีและฝ่ายใดแพ้คดี

โดยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้นจะเริ่มต้นจากโจทก์ที่ประสงค์จะฟ้องต้องไปร้องต่อศาล โดยทำป็นหนังสือถ้อยคำให้พนักงานศาลประทับรับฟ้อง เมื่อมีการรับฟ้องแล้ว ตระลาการของศาลนั้นจะออกหมายเรียกจำเลยมาถามคำให้การ แล้วส่งคำสั่งฟ้องไปยังลูกขุน เพื่อให้ลูกขุนตรวจคำฟ้องว่าข้อใดรับกัน ข้อใดต้องสืบพยาน ก็จะส่งให้ธุรการสืบพยานตามคำของลูกขุน แล้วส่งกลับไปให้ลูกขุนอีกครั้งหนึ่งเพื่อชี้ข้อกฎหมายและพิจารณาตัดสินว่าฝ่ายใดแพ้ฝ่ายใดชนะเพราะเหตุใด

ในการตัดสินนั้นหากคู่ความไม่พอใจการพิจารณาสามารถจะทำการอุทธรณ์ คณะตระลาการหรือถวายฎีกาต่อพระเจ้าอยู่หัวได้ โดยการอุทธรณ์นั้นจะเป็นลักษณะของการฟ้องร้องกล่าวโทษผู้พิจารณาว่ามีการกระทำผิดหน้าที่

เมื่อมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการรวบรวมกฎหมายที่ใช้อยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและมีการปรับปรุงขึ้นใหม่ โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้ราชบัณฑิตเป็นคนดำเนินการ และหลังจากชำระกฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วได้มีการประกาศใช้ เรียกกฎหมายที่จัดทำหรือชำระขึ้นใหม่นี้ว่ากฎหมายตราสามดวงซึ่งจะมีตราประทับเป็นตราพระราชสีห์ ตราพระคชสีห์ และ ตราบัวแก้ว

กฎหมายตราสามดวงนี้เป็นกฎหมายมีอำนาจบังคับใช้ทั่วพระราชอาณาจักร โดยตราพระราชสีห์เป็นตราของผู้มีอำนาจปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ พระคชสีห์ เป็นตราของผู้มีอำนาจปกครองหัวเมืองฝ่ายใต้ ส่วนตราบัวแก้วเป็นตราของผู้มีอำนาจปกครองหัวเมืองชายทะเลตะวันออก และในการนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้เพื่อจะอ้างอิงคำพิพากษาใดๆ จะต้องมีการประทับตราทั้งสามจึงจะสามารถจะดำเนินการได้

วิวัฒนาการของกฎหมายไทยมีต่อเนื่องมาโดยตลอด จนกระทั่งภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.๒๔๗๕ จึงมีออกกฎหมายซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่สุดของประเทศคือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อันเป็นหลักใหญ่ของกฎหมาย และมีการออกกฎหรือระเบียบย่อยซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ

มีการกล่าวกันว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปี พ.ศ.๒๕๔๐ น่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด แต่ก็พบว่าอาจจะเอื้อต่อนักการเมืองในการที่จะแก้ไข ฉะนั้นหลังการรัฐประหารในปี พ.ศ.๒๕๕๗ จึงได้มีการออกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปี พ.ศ.๒๕๖๐ ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีรายละเอียดที่ชัดเจน และให้อำนาจองค์กรอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งยังมีบทลงโทษนักการเมือง หรือผู้แทนราษฎรที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองไว้อย่างชัดเจน จึงเป็นเรื่องที่นักการเมืองทั้งหลายเมื่อได้เข้ามาบริหารประเทศจึงพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อตัวเองให้มากที่สุด

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ลงมติเมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ให้นายกรัฐมนตรี นางแพทองธารพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ เนื่องจากประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากหน้าที่ด้วย และต่อมาเมื่อวันที่ ๙ กันยายนที่ผ่านมานี้ ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ได้ตัดสินให้อดีตนายกฯนายทักษิณที่ศาลตัดสินจำคุก ๘ ปี และได้ขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอภัยลดโทษเหลือเพียงแค่ ๑ ปี แต่กลับปรากฏว่าได้มีกระบวนการต่างๆ ทำให้คำสั่งศาลที่ให้ถูกจำคุก ๑ ปีนั้น ไม่ได้ถูกปฏิบัติตามที่ควรจะเป็น

การตัดสินคดีของศาลทั้ง ๒ ศาลนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ได้เห็นแล้วว่า กระบวนการยุติธรรมยังมีอยู่ และเป็นกระบวนการที่จะปกป้องและรักษาไว้ซึ่งระบอบยุติธรรมของประเทศได้นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

เมื่ออดีตนายกฯที่ประชาชนคนไทยเรียกว่านักโทษชั้น ๑๔ ถูกศาลสั่งว่าต้องกลับไปจำคุกใหม่ให้ครบ ๑ ปีนั้น ก็มีนักการเมืองที่สนับสนุนนายกฯชั้น ๑๔ อยู่ ได้พยายามสร้างกระแสให้เห็นว่า การที่นักโทษชั้น ๑๔ มีโอกาสที่จะหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ตัดสินใจไม่ไปและยอมรับโทษนั้น เป็นการกระทำเยี่ยงวีรบุรุษ

คำว่าวีรบุรุษนั้น เป็นคำที่ควรจะถูกนำมาใช้เฉพาะผู้ที่กล้าหาญ เข้มแข็ง ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ด้วยความรับผิดชอบและเกิดผลดีต่อประเทศชาติ ไม่ควรอย่างยิ่งในการที่จะถูกนำมาใช้กับนักโทษชั้น ๑๔ ซึ่งถึงแม้จะมีผลงานในการบริหารประเทศอยู่บ้าง แต่โดยเนื้อแท้แล้วผลงานที่มีการพูดถึงกันมาก เช่น โครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค ก็ไม่ได้เป็นผลงานที่เกิดจากความคิดของตนเองแต่อย่างใด แต่เป็นผลงานโดยตรงของอดีตผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและคณะกลุ่มหนึ่งที่ได้ทำเรื่องนี้ขึ้น โดยก่อนจะมาเป็นโครงการ ๓๐ บาทนั้น ได้มีการทดลองนำร่องในหลายรูปแบบด้วยกัน ศึกษาข้อดีข้อเสีย จนกระทั่งในที่สุด เห็นว่าเป็นแนวทางที่น่าจะนำมาใช้เพื่อให้คนไทยที่เจ็บป่วยเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น จึงนำเสนอโครงการนี้ให้กับคณะรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศในช่วงเวลานั้นคือคณะรัฐบาลของนักโทษชั้น ๑๔ นั่นเองได้นำไปใช้

แต่สิ่งที่ไม่อาจจะยอมรับให้นักโทษชั้น ๑๔ ถูกเรียกโดยใครก็ตามว่าเป็นวีรบุรุษ ได้ ก็เพราะว่าในช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่ได้กระทำผิดต่อบ้านเมืองอย่างร้ายแรงที่สุด โดยการกระทำทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นคดีความใหญ่หลายคดี แต่ศาลตัดสินว่ามีความผิดและต้องถูกลงโทษนั้นมีอยู่ ๓ คดี ซึ่งรวมระยะเวลาของการที่จะต้องถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา ๘ ปี ซึ่งนักโทษชั้น ๑๔
น่าจะรู้ตัวล่วงหน้าก่อนศาลตัดสิน จึงได้ตัดสินใจหนีออกจากประเทศไทยและไปอาศัยอยู่ต่างแดนเป็นระยะเวลานาน ๑๗ ปี ก่อนที่จะตัดสินใจกลับเข้ามา

การที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯกระทำการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อประเทศชาติที่เป็นแผ่นดินเกิดนั้น ต้องถือว่าเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรง เข้าข่ายที่จะใช้คำว่า ชั่ว ซึ่งถ้าจะใช้คำแทนซึ่งดูเหมือนจะสุภาพมากกว่าก็คือคำว่า “ทุร” นักโทษชั้น ๑๔ คนนี้ จึงควรจะถูกเรียกว่าทุรบุรุษตามที่คอลัมนิสต์บางท่านได้ใช้คำนี้มาแล้ว มิใช่วีรบุรุษอย่างแน่นอน

อีกอย่างหนึ่งที่ควรจะเลิกเสียทีได้แล้วก็คือการใช้คำว่า “นิติสงคราม” อันเป็นวาทกรรมที่ใครบางคนหรือบางกลุ่มชอบนำมาใช้ เพราะหากใครหรือกลุ่มใดๆ นั้นไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย จะมีใครนำกฎหมายมาใช้ลงโทษได้

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:39 น. 'วีซ่า-ภูผา'ชื่นใจแฟนๆแห่ชมซีรีส์ 'ตัวแทน'แปลกใหม่ชวนดู2อีพีสุดท้ายตอน 'แก้บน'เซอร์ไพรส์เพียบ
12:31 น. แม่ค้าผัดไทสุดปวดใจ! โจรเลือกขโมยแค่ ‘พริก-น้ำตาล’ สะท้อนพิษเศรษฐกิจ
12:29 น. 'ณัฐ-ณัฐภัทร'คว้าแชมป์ 'The Golden Song เวทีเพลงเพราะ 7'
12:13 น. ‘2 กมธ.สภาสูง’ชงแนวทางสั้น-กลาง-ยาว แก้ปมร้อน‘อายัดบัญชี’
12:12 น. เลื่อนไต่สวนมูลฟ้อง ‘หมออั้ม’ฟ้องหมิ่น‘อาร์ต พศุตม์’ นัดใหม่ 14 ต.ค.เช้า
ดูทั้งหมด
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
คนไทยตาสว่าง! 'ติ๊กต็อกเกอร์ดัง'เฉลยหลังโซเชียลแห่โยง'ลุงตู่' ปมการบินไทยฝ่าฝูงม็อบที่เนปาล
ดูทั้งหมด
กรมพระศรีสวางคว้ฒน วรขัตติยราชนารี กับหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ (ตอนที่ 1)
‘หนูกู้ชาติ’ดีกว่า‘เพื่อไทยขายชาติ’
‘พ่อขายฝัน อาขายข้าว ลูกสาวขายชาติ เห็นศัตรูเป็นญาติ เห็นรั้วของชาติเป็นศัตรู’
ประชาชนอนุญาตให้เสียสัตย์
สุ จิ ปุ ลิ : หัวใจของนักปราชญ์ การฟัง การคิด การถาม และการเขียน สำหรับเยาวชนไทยในวันนี้ (1)
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ณัฐ-ณัฐภัทร'คว้าแชมป์ 'The Golden Song เวทีเพลงเพราะ 7'

‘2 กมธ.สภาสูง’ชงแนวทางสั้น-กลาง-ยาว แก้ปมร้อน‘อายัดบัญชี’

เลื่อนไต่สวนมูลฟ้อง ‘หมออั้ม’ฟ้องหมิ่น‘อาร์ต พศุตม์’ นัดใหม่ 14 ต.ค.เช้า

ไม่เปลี่ยนแผน! 'อโมริม'ท้า'ผี'ปลดเซ่นฟอร์มห่วย

ชาวเขมรเห่อหนัก! แห่เที่ยวสนามบินเตโชทำรถติดยาวเหยียด

อุทธรณ์แก้ลดโทษ คุก'แฟรงค์ วีโว่'พร้อมพวก เหลือจำคนละ 2 ปี

  • Breaking News
  • \'วีซ่า-ภูผา\'ชื่นใจแฟนๆแห่ชมซีรีส์ \'ตัวแทน\'แปลกใหม่ชวนดู2อีพีสุดท้ายตอน \'แก้บน\'เซอร์ไพรส์เพียบ 'วีซ่า-ภูผา'ชื่นใจแฟนๆแห่ชมซีรีส์ 'ตัวแทน'แปลกใหม่ชวนดู2อีพีสุดท้ายตอน 'แก้บน'เซอร์ไพรส์เพียบ
  • แม่ค้าผัดไทสุดปวดใจ! โจรเลือกขโมยแค่ ‘พริก-น้ำตาล’ สะท้อนพิษเศรษฐกิจ แม่ค้าผัดไทสุดปวดใจ! โจรเลือกขโมยแค่ ‘พริก-น้ำตาล’ สะท้อนพิษเศรษฐกิจ
  • \'ณัฐ-ณัฐภัทร\'คว้าแชมป์ \'The Golden Song เวทีเพลงเพราะ 7\' 'ณัฐ-ณัฐภัทร'คว้าแชมป์ 'The Golden Song เวทีเพลงเพราะ 7'
  • ‘2 กมธ.สภาสูง’ชงแนวทางสั้น-กลาง-ยาว แก้ปมร้อน‘อายัดบัญชี’ ‘2 กมธ.สภาสูง’ชงแนวทางสั้น-กลาง-ยาว แก้ปมร้อน‘อายัดบัญชี’
  • เลื่อนไต่สวนมูลฟ้อง ‘หมออั้ม’ฟ้องหมิ่น‘อาร์ต พศุตม์’ นัดใหม่ 14 ต.ค.เช้า เลื่อนไต่สวนมูลฟ้อง ‘หมออั้ม’ฟ้องหมิ่น‘อาร์ต พศุตม์’ นัดใหม่ 14 ต.ค.เช้า
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

15 ก.ย. 2568

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

8 ก.ย. 2568

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

1 ก.ย. 2568

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

18 ส.ค. 2568

พันท้ายนรสิงห์ กับนักการเมืองในปัจจุบัน

พันท้ายนรสิงห์ กับนักการเมืองในปัจจุบัน

11 ส.ค. 2568

ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

4 ส.ค. 2568

หรือไทยจะต้องพิชิตศึกละแวกอีกครั้ง

หรือไทยจะต้องพิชิตศึกละแวกอีกครั้ง

28 ก.ค. 2568

คนไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานดินแดน

คนไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานดินแดน

21 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved