วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
รัฐบาลชุดใหม่ล่าสุดที่มีนายกรัฐมนตรีชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล จะแก้ปัญหาหลักของบ้านเมืองได้หรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาคอร์รัปชัน ปัญหาอาชญากรรม
คำตอบนี้อยู่ที่มุมมองและข้อมูลของผู้ตอบ เพราะหากผู้ตอบเป็นพวกเดียวกับนักการเมืองลวงโลก เขาก็จะตอบว่าแก้ปัญหาได้แน่นอน แต่หากเป็นคนที่อยู่บนพื้นฐานความจริง ก็จะตอบว่าแก้ปัญหาต่างๆ นั้นได้ค่อนข้างยากเย็น เพราะปัญหามันฝังรากลึกมาก ยากจะขุดรากถอนโคนทิ้งไปได้ แถมคนที่เข้าไปเป็นนักการเมืองในบ้านเรานั้นก็สุดแสนจะประหลาด หลายคนบอกว่าจะเข้าไปแก้ปัญหา ทั้งๆ ที่ตัวเองคือต้นเหตุของปัญหา และอาจจะกล่าวได้ว่าต้นตระกูลของนักการเมืองบางคนคือตัวปัญหาใหญ่ของสังคมด้วยซ้ำไป
ถามถึงเรื่องเขากระโดง เรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์ เรื่องฮั้ว สว. ของพรรคการเมืองทั้งสีน้ำเงินและสีส้ม ฯลฯ เรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดมานาน แต่ทำไมเมื่อครั้งที่พรรคสีแดงกับพรรคสีน้ำเงินร่วมมือกันเป็นรัฐบาลกลับไม่แก้ปัญหานี้ แล้วทำไมจะต้องมาเล่นละครตบตาคนด้วยการเล่นบทกัดกัน หลังจากพรรคสีแดงแตกกับพรรคสีน้ำเงิน ถามอีกครั้งว่าตอนที่พรรคสีแดงร่วมรัฐบาลกับพรรคสีน้ำเงินทำไมไม่จัดการเรื่องที่ดินเขากระโดงให้จบสิ้น ทำไมปล่อยให้ปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์คาราคาซังทำไมเกาหลังกันไปกันมา ทำไมไม่ใช้อำนาจรัฐจัดการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แล้วเมื่อตอนกัดกัน ทำไมจึงประกาศสงครามใส่กัน เรื่องเลวๆ แบบนี้ไม่สามารถเกิดได้เป็นอันขาด หากพรรคทั้งสองไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม และหากเน้นความถูกต้องชอบธรรมจริงๆ แล้ว รับรองจะไม่เกิดเรื่องเลวทรามแบบที่ยังคั่งค้างอยู่เป็นอันขาด
บัดนี้สังคมไทยมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว คืออนุทิน ชาญวีรกูล และมีคณะรัฐมนตรีแล้ว และก็ได้เห็นหน้าค่าตาของคณะรัฐมนตรีชุดล่าสุดกันแล้ว ส่วนเห็นแล้วจะร้องไชโย หรือร้องยี้ หรืออาจจะอ้วกแตกก็แล้วแต่คน คนที่รักใคร่ใยดีนักการเมืองที่ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีก็จะยินดีปรีดา แต่คนที่เห็นความเลวของคนเหล่านั้นก็จะอ้วกแตกกระจายโดยพลันเมื่อเห็นชื่อ ส่วนรัฐมนตรีคนนอกก็เช่นกัน บางคนก็สร้างภาพเก่ง แต่ผลงานไม่ดีเด่นดังแท้จริง แล้วหากเป็นคนที่เคยร่วมงานมาก่อน ก็จะรู้ดีว่าบางคนนอกจากสร้างภาพเก่งแล้ว ยังมีความน่ากลัวมากถึงมากแบบสุดๆ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าเมื่อเขาคนนั้นเข้าไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว จะมีปัญญาทำงานได้ตามคำโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่
ถามว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ต่างจากนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้านี้หรือไม่ ตอบว่ามีส่วนคล้ายและส่วนต่าง ที่คล้ายคือมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างคือนายกรัฐมนตรีคนนี้มีประสบการณ์การเมืองสูงกว่านายกรัฐมนตรีคนที่เพิ่งกระเด็นตกจากเก้าอี้ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าประสบการณ์การเมืองของนายกฯ คนใหม่ก็มาจากการได้เรียนรู้จากการร่วมรัฐบาลกับพ่อของนายกฯ คนที่เพิ่งพ้นตำแหน่งไป ส่วนคนที่ถูกระบุว่ามีผลต่อการชักใยอยู่ข้างหลัง หรือเป็น master mind ของอนุทินก็คือ เนวิน ชิดชอบ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนได้เสียกับที่ดินเขากระโดง
เมื่อมีนายกฯ คนใหม่ และมีรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว ก็หมายความว่าประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ดังนั้นก็เหลือเพียงการเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ ต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วจากนั้นก็แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ละครการเมืองฉากสำคัญในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคือการถูกพรรคเพื่อไทยเปิดฉากถล่มรัฐบาลใหม่กลางสภาอย่างแน่นอน จนหลายคนคาดการณ์ว่าการแถลงนโยบายนี้จะไม่ต่างไปจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลใหม่อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบปาหี่หรือไม่ ก็ต้องรอดูกัน เพราะกำหนดวันแถลงนโยบายแล้วคือ 24 กันยายนนี้
แต่คอการเมืองรับรองว่าในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น รับรองว่าพรรคเพื่อไทยต้องเปิดฉากถล่มธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างหนักเป็นที่แน่แท้ แต่ก็น่าตลกมากตรงที่หากพรรคเพื่อไทยถล่มธรรมนัสหนักมากแค่ไหน ก็จะเท่ากับประจานพรรคเพื่อไทยไปโดยปริยาย เพราะธรรมนัสก็เคยอยู่ร่วมพรรคกับพรรคของทักษิณ ชินวัตร มาก่อน แล้วก่อนจะแตกหักกันในครั้งหลังนี้ ธรรมนัสก็พาทักษิณล่องเรือลอยลำไปพบอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในที่แห่งหนึ่ง ณ กลางทะเล แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าไปพบกันที่แห่งใด เพราะในวันนั้นทักษิณยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกเขตประเทศไทย แต่ก็น่าสนใจและน่าสงสัยมากว่าทักษิณกับอันวาร์ไปพบกัน ณ สถานที่แห่งใดของโลกใบนี้ แต่ทั้งสองก็พบกันไปแล้ว โดยอิทธิฤทธิ์ของธรรมนัส
แต่เมื่อแพทองธารกระเด็นตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ธรรมนัสก็สะบัดก้นไปร่วมจับมือกับอนุทิน ทำให้ทักษิณถึงกับเกิดอาการแค้นคลั่งหนัก จนถึงประกาศว่ามองคนผิด ไว้ใจคนผิด แต่ก็ต้องบอกว่านั่นคือเกมของทักษิณ เพราะทักษิณก็ได้รับผลประโยชน์จากธรรมนัสไปแล้ว และที่สำคัญธรรมนัสก็ไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ทักษิณตลอดเวลา ในเมื่อทักษิณไม่สามารถหยิบยื่นผลประโยชน์ใดๆ ให้ธรรมนัสได้ ซึ่งประเด็นนี้มันก็คือการคบกันด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทนเท่านั้น ผลประโยชน์ลงตัวก็คบกันไป ไม่มีผลประโยชน์ต่อกันก็เลิกรากันไป
แต่อย่างไรก็ตาม คอการเมืองก็ยังเฝ้ารอชมการปะทะกันอย่างดุเดือดกลางสภาในวันแถลงนโยบาย เพราะต้องการดูว่าเพื่อไทยจะขุดอะไรมาเผาธรรมนัส และอนุทิน แล้วก็รอดูด้วยว่าพรรคประชาชนจะขุดอะไรมาเผาพรรคภูมิใจไทย แล้วภูมิใจไทยจะขุดอะไรมาแฉกลับบ้าง อย่าลืมว่าการเมืองไทยนั้นเป็นละครโรงใหญ่ที่แต่ละฝ่ายแสบแสน แสนแสบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะต่างฝ่ายต่างรู้เช่นเห็นชาติของกันและกัน เข้าทำนองไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
ขอกระโดดไปยังเรื่องของพรรคเพื่อไทยในยุคที่ทักษิณยอมเล่นละครติดคุก แล้วตามมาด้วยฉากหญิงอ้อ พจมาน ดามาพงศ์ นายหญิงแห่งจันทร์ส่องหล้า ยอมอุตส่าห์เปิดตัวเป็นข่าวใหญ่เดินทางไปเยี่ยมนักโทษชายทักษิณถึงในคุก แต่ไม่มีคนภายนอกเห็นจริงๆ ว่าทักษิณอยู่ในคุก แต่ก็พยายามจะเชื่อว่าทักษิณอยู่ในคุก เพราะไหนๆ ทักษิณก็ยอมบินกลับจากดูไบเพื่อกลับมารับคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ดังนั้น ต่อให้ไม่เชื่อว่าทักษิณติดคุกจริงๆ ก็ยังพยายามจะหลอกตัวเองให้เชื่อว่าทักษิณอยู่ในคุก แต่ที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าคือพจมานไปที่พรรคเพื่อไทย แล้วกล่าวคำว่า สู้ๆ ค่ะ เพียงเท่านี้ก็ทำให้คนของพรรคเพื่อไทยรู้สึกไปเองว่าเหมือนได้รับน้ำทิพย์ชะโลมใจให้อยู่กับเพื่อไทยต่อไปแต่ส่วนมากคนที่อยู่กับเพื่อไทยคือคนที่ไปไหนไม่รอดแล้ว เป็นเสมือนทาสที่ปล่อยไม่ไป ทาสติดที่ดินที่ต้องอยู่ไปจนตายคาที่ดิน
ตลอดระยะเวลาที่ทักษิณมีอำนาจรัฐ คอการเมืองทุกคนรู้ดีว่าพจมานคือบุคคลที่อยู่เบื้องหลังทักษิณดังนั้นเมื่อทักษิณทำท่าทางเหมือนว่าจะลุยการเมืองต่อ ก็ทำให้พจมานต้องลุยด้วย ส่วนคำถามที่ว่าเมื่อวันที่ทักษิณรุ่งเรืองทางการเมือง เป็นเพราะพจมานหนุนหลัง แล้วในยามที่ทักษิณเพลี่ยงพล้ำทางการเมืองเล่า เป็นเพราะพจมานวางหมากการเมืองให้ทักษิณเดินแล้วพลาดหรือเปล่า
ต้องไม่ลืมว่า แม้ทักษิณจะมีชื่ออยู่บนข่าวการเมืองตลอดเวลาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2544 แต่ก็ต้องย้ำว่าทักษิณก็พลาดพลั้งทางการเมืองหลายครั้งเพราะถูกทำรัฐประหาร แถมทายาทการเมืองของทักษิณก็ไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง เพราะสมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร ก็ล้มเหลวทางการเมืองทุกราย ซึ่งตรงนี้เป็นเครื่องตอกย้ำว่าทักษิณไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง
ล่าสุดมีข่าวว่าทักษิณจะส่งลูกเขย ที่เป็นสามีของพินทองทา คุณากรวงศ์ เข้าไปสู่สนามการเมือง แต่หลายคนบอกว่าเป็นนรกการเมือง เพื่อให้ลูกเขยคนนี้เข้าไปเป็นทายาทการเมืองของทักษิณ ก็ต้องรอดูว่าลูกเขยคนนี้ของทักษิณจะยอมเป็นหมากตัวหนึ่งบนกระดานการเมืองที่บงการโดยทักษิณหรือไม่ แต่ที่มากกว่านั้นคือแล้วหมากการเมืองตัวนี้จะดับดิ้นสิ้นชื่อบนกระดานการเมืองเหมือนทายาทการเมืองทุกคนของทักษิณหรือไม่
อ้อ! มีคำถามทิ้งท้ายคือ ทำไมทักษิณไม่ส่งพานทองแท้ ชินวัตร เป็นทายาทการเมืองของตน ถามย้ำว่าทำไมไม่ใช่พานทองแท้ ทักษิณไม่ส่งพานทองแท้เป็นทายาทการเมืองเพราะอะไรหนอ หรือว่าเห็นจุดอ่อนที่เกินแก้ของพานทองแท้
แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือ เกมการเมืองของทักษิณจำเป็นต้องอาศัยมือพจมานหรือไม่ งานนี้พจมานจะลงสนามสงครามการเมืองด้วยตัวเองหรือไม่ หรือว่ายังพอใจจะอยู่เบื้องหลังไปเรื่อยๆ เพราะหากพจมานลงนามเอง ก็คงไม่รอดเหมือนกับทายาทการเมืองของทักษิณทุกราย

หลอกคนแก่ลงทุน! เพจดังแฉผู้วิเศษรายใหม่อ้างเป็นพระศรีอาริยะ
แฟนบอลเตรียมตัว! เปิดช่องทางชมสด'หมอนทองวิทยา'ดวล'อบจ.ชัยนาท'
เหิม! เด็กแว้นพัทลุงซิ่งป่วนเมือง เฉี่ยวรถชาวบ้านไม่พอยังปิดล้อมรถผู้เสียหายอีก
เริ่มคลี่คลาย! ป่าโมกยังมีน้ำท่วมบางจุด รถใหญ่สัญจรได้
บุกจับ 'นิสิต สินธุไพร' พ่ออดีตรัฐมนตรี หลังหลบหนีคดีล้มอาเซียนซัมมิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี