วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ทวนกระแสข่าว
ทวนกระแสข่าว

ทวนกระแสข่าว

สุทิน วรรณบวร
วันศุกร์ ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
สถานการณ์ผลักดันให้ ภท.เป็นรัฐบาลอีกสมัยโดยไม่แก้รธน.

ดูทั้งหมด

  •  

ปรากฏการณ์พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่เป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ ตั้งแต่ยุวชน เยาวชนจนไปถึงคนสูงวัย เกษียณแล้วท่านไม่หายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนชุดทหารใส่สูทสากล เป็นที่ปรึกษาผบ.ทบ. จึงพูดได้ว่าท่านยังเป็นขวัญใจคนไทยไปอีกนาน

นานแล้วไม่ได้เห็นคนไทยรักศรัทธา นิยมทหารอย่างนี้โดยเฉพาะ เยาวชนคนหนุ่มสาวในสถาบันการศึกษา นิยมศรัทธาเชิญแม่ทัพไปบรรยาย “ความจริงจากชายแดน” ทั้งระดับชั้นประถมถึงระดับอุดมศึกษา แม่ทัพได้รับความศรัทธา คำบรรยายง่ายๆ ได้รับเสียงกรี๊ดและตั้งคำถามชนิดที่ติ่งพรรคส้มหันหลังฟังไม่ได้


แม่ทัพภาคที่ 2ได้เปลี่ยนทัศนคติต่อเยาวชนให้หวงแหนอธิปไตย ยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ชนิดที่พรรคส้มคาดไม่ถึงว่า ฐานเสียงของพวกเขา เปลี่ยนได้ถึงขนาดนี้

ด้วยความกลัวว่า เยาวชนที่เคยถูกพรรคส้ม ล้างสมองใช้เป็นเครื่องมือ ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ เปลี่ยนจากที่คลั่งไคล้พรรคส้มไปนิยมทหาร และคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปคนรุ่นใหม่อาจหันหลังให้พรรคส้ม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคส้มถึงกับสำรอกออกมาว่า

#ผมตกใจถึงการกลับมาของการไว้วางใจทหาร อันนี้น่ากังวลมาก ทหารไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ และต้องฟังพลเรือน การใช้สถานการณ์สร้างอารมณ์ ความรู้สึกชาตินิยมล้นเกินจะนำไปสู่ความเกลียดชังในสังคม”

นายธนาธร อาจหมายถึงสิ่งที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชาปล่อยให้ทหารตัดสินใจ นอกจากนั้นนายธนาธร คงกังวลที่แม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับเชิญบรรยายในสถาบันศึกษาคิวยาวไปปีหน้า พ้นจากตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 สิ้นเดือนกันยายน พลโทบุญสิน เพิ่มความถี่การบรรยายในสถาบันศึกษามากขึ้น ในฐานะที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก

“แม่ทัพบุญสิน” ผู้ชายสไตล์บ้านๆ จุดไฟชาตินิยมให้ลุกโชนกลางใจคนรุ่นวัย Gen Z (16 ถึง 28 ปี ) พ่วงด้วย Gen Alpha (1-14 ปี) ชนิดโลกตะลึง

ช่วงปี 2563-2564 ปรากฏการณ์ “สามนิ้ว” แพร่ระบาดอย่างน่าตกใจ ในกลุ่มรุ่นวัย Gen Z และ Gen Alpha และเมื่อเกิดนักกิจกรรมหัวก้าวหน้าในนามกลุ่มราษฎร กลุ่มทะลุวัง กลุ่มทะลุแก๊ส กลุ่มดาวดิน ฯลฯ ปรากฏการณ์การแสดงออกทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ ได้ทำให้ “พรรคก้าวไกล” เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และชนะเลือกตั้งในปี 2566

ภาพการเมืองสีส้มเต็มแผ่นดิน ส่งผลให้ “ชนชั้นนำ” รู้สึกวิตกทุกข์ร้อน หวาดหวั่นกระแสคนรุ่นใหม่ จึงทำให้เกิด “ดีลลับข้ามขั้ว” ระหว่างทักษิณและชนชั้นนำ

พลันที่มีวิกฤตการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568 มาพร้อม “ปรากฏการณ์บุญสิน” แม่ทัพภาคที่ 2 เดินสายทอล์กโชว์รายวัน ตามสถานศึกษาทั่วประเทศ กลายเป็น อินฟลูเอนเซอร์ขวัญใจวัยรุ่น

ความนิยมในตัวพลโทบุญสิน ในฐานะตัวแทนกองทัพไทยยิ่งสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ความตกต่ำของพรรคส้มกับพรรคสีแดงย่ำแย่ลงมากเท่านั้น จึงพูดได้ว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลสี่เดือนครั้งนี้ เพื่อเตรียมเป็นรัฐยาวนานจากการเลือกตั้งครั้งต่อไป

พรรคส้มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการเลือกตั้งปี 2566 การเลือกตั้งครั้งต่อไปราวๆ ต้นปีหน้า ถึงวันนั้นพรรคส้มได้ สส.ครึ่งหนึ่งของการเลือกตั้งปี’66 ก็นับว่าปาฏิหาริย์

ปรากฏการณ์ความนิยมในกองทัพ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาของพรรคส้ม ประกอบกับพรรคส้มตกต่ำ เพราะไม่มีผลงาน โจมตีทหาร ไม่ลดละเรื่อง
เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน

เลวร้ายที่สุด คือ คนรุ่นใหม่ซึ่งฐานเสียงของพรรคส้มเริ่มหูตาสว่าง แกนนำรุ่นแรกติดคุก 100 กว่าคน อยู่ระหว่างดำเนินคดีกว่า 150 คน หนีไปต่างประเทศอย่างน้อย 10 คน แกนนำคนรุ่นใหม่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อปากท้องประชาชน แต่คนรุ่นใหม่ที่เป็นฐานเสียงพรรคส้มเคลื่อนไหวเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันฯ และด้อยค่าทหาร เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป พรรคส้มจึงไม่เหลือความนิยม

ส่วนพรรคเพื่อไทย ที่เป็นรัฐบาล 2 ปี ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง 2 คน ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกฯที่พ้นจากตำแหน่งคนหลัง ยังถูกคนไทยประณามว่าขายชาติ ที่ไปบอกอริราชศัตรูว่า แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล เพื่อไทยและรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเป็นเหตุให้นายกฯ ตกจากเก้าอี้ ทั้งๆ ที่ตกต่ำ ก่อนหน้านี้เนื่องจากไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความรู้ ความสามารถ ไร้วุฒิภาวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะบิดาจัดให้

เมื่อศาลฯมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร กลับเข้าคุก 1 ปี เมื่อวันที่ 9 กันยายน พรรคเพื่อไทยจึงไม่ต่างอะไรกับพรรคผีหัวขาด น.ช.ทักษิณที่เคยใช้อิทธิพลบารมี ตอนหนีคุก และอยู่โรงพยาบาล 180 วัน สามารถบริหารจัดการหลังฉากให้พรรคเพื่อไทยได้ แต่การเข้าคุกครั้งนี้ น.ช.ทักษิณไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆ ทางการเมืองได้

พรรคภูมิใจไทยจึงบริหารประเทศไทย ตามข้อตกลงกับพรรคประชาชนได้อย่างราบรื่นโดยไม่ผิดข้อตกลงใดๆ อันดับแรก คือ ยุบสภาภายใน 4 เดือน ข้อนี้พรรคภูมิใจไทยยุบสภาได้ก่อน 4 เดือนยิ่งดี เพราะนับจากนี้มีนักการเมืองแห่กันมาสมัครเข้าพรรคภูมิใจไทยไม่ต่ำกว่า 50 คน

ในเวลาเดียวกัน เกิดอาการเลือดไหลครั้งใหญ่จากเพื่อไทย นักการเมืองบ้านใหญ่ ทิ้งเพื่อไทยไม่น้อยกว่า 30 คน หากนับรวมกับสส.ที่ไหลจากพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคประชาธิปัตย์ มารวมกับพรรคภูมิใจไทย การเลือกตั้งต้นปีหน้า พรรคภูมิใจไทย อาจได้ สส.เข้าสภาถึง 150 คน

พรรคส้มกับพรรคแดง ซึ่งเป็นคู่แข่งพรรคภูมิใจไทยได้สส.เข้าสภาไม่เกินพรรคละ 80 คน พรรคประชาธิปัตย์ หากขจัดปรสิตออกจากพรรคได้ มีเลือดเนื้อเชื้อไขที่มีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์เข้ามาบริหาร ก็เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะได้ สส.เข้าสภามากกว่าการเลือกตั้งครั้งปี 2566

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเฉพาะกิจ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เหมือนกับพรรคเฉพาะกิจทั่วไปที่ล้มหายตายจากไปแล้วไม่น้อยกว่าสามร้อยพรรค

จึงพูดได้ว่ารัฐบาลภูมิใจไทยทำตามข้อตกลงกับพรรคประชาชนได้อย่างราบรื่น เนื่องจากสถานการณ์อำนวยการยุบสภาภายใน 4 เดือน ไม่มีการบิดพลิ้ว เพราะพรรคภูมิใจไทยมีแต่ได้กับได้ รัฐบาลนายอนุทิน ได้มีกำหนดจะแถลงนโยบายต่อสภาเมื่อวันที่ 29-30 กันยายนนั้น หมายความว่า 4 เดือน ก่อนยุบสภานับหนึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม

หลังจากแถลงนโยบายต่อสภาเชื่อว่า รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้า คือนโยบาย“คนละครึ่ง” รัฐบาลเริ่มโดยนโยบายคนละครึ่งที่คนส่วนใหญ่พอใจ และทำนโยบายคนละครึ่งให้รูปธรรมได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 วัน ในห้วงเวลานั้นพรรคเพื่อไทยกระเหี้ยนกระหือรืออย่างไรก็ไม่กล้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

วันที่ 31 ตุลาคม ปิดประชุมสภาสมัยสามัญ 3 เดือน สรุปว่า 4 เดือนรัฐบาลเฉพาะกาล ไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แถมไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เนื่องจากในระหว่างการหารืออย่างไม่เป็นทางการของ 3 พรรคการเมือง มีการระบุถึงกรอบเวลาในการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาไว้ ดังนี้

1.ภายในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกันยายน 3 พรรคเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15 ต่อประธานรัฐสภา

2.เดือนตุลาคม รัฐสภาพิจารณาและผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1

3.เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพิจารณาร่าง (ช่วงปิดสมัยประชุมสภา)

4.เดือนธันวาคม รัฐสภาพิจารณาและผ่านความเห็นชอบในวาระ 2 และวาระ 3

5.ปลายเดือนมกราคม 2569 ยุบสภาตามเงื่อนไขที่ระบุใน MOA ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน

6.ปลายเดือนมีนาคม 2569 จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป พ่วงกับการออกเสียงประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลนายอนุทิน ยินดีทำตามกรอบเวลาทุกประการ แต่หากมองจากความเป็นจริง ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไม่มีสภาชุดไหนแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญได้ตามกรอบเวลาที่นักการเมืองกำหนด มักมีเงื่อนไขอุปสรรคหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างทาง

โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญปี’60 ต้องทำประชามติสามครั้ง ครั้งที่ 1 กับ ครั้งที่ 2 อาจรวมกันได้โดยพรรคการเมืองตั้งเป้าหมาย ให้ทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2569

พิเคราะห์จากความจริงที่ว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง ที่มีปัญหากับนักการเมืองคอร์รัปชั่น ไม่มีธรรมาภิบาล ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงเท่านั้น รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่มีมาตราใดสร้างความเดือดร้อนให้คนไทยทั่วไป

จึงทำนายล่วงหน้าว่า ประชาชนส่วนใหญ่กว่า 50% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ลงมติให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 แล้วตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อเอาใจนักการเมือง สรุปว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือนสร้างความนิยม เพื่อยุบสภาชนะเลือกตั้งแล้วกลับมาเป็นรัฐบาลอยู่นานอาจครบวาระสี่ปี

สุทิน วรรณบวร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:07 น. 'นเรศ'เปิดประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ อปท. ย้ำ 4 แนวทางบริหารสู่ความยั่งยืน
21:49 น. กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน
21:41 น. ‘ปธ.รัฐสภา’ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบเงิน 1.1 แสนบาทช่วยน้ำท่วม
21:17 น. บุรีรัมย์เคลื่อนทัพ ระดมกำลังเปิดศูนย์พักพิง รับผู้อพยพ3.5หมื่นคน รับมือสถานการณ์ปะทะ
20:48 น. ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ
ดูทั้งหมด
เปิดประวัติ นานา ไรบีนา พี่ใหญ่แห่งแก๊งนางฟ้า ตัวแม่ตัวมัมของเมืองไทย
ทรงเป็นแบบอย่าง! สมเด็จพระราชินี เก็บขยะเกาะราชาใหญ่ หลังแข่งคิงส์คัพรีกัตต้า (คลิป)
เปิดประวัติ เวย์ ไทยเทเนี่ยม แร็ปเปอร์ดังคู่ชีวิตดาราสาว นานา ไรบีนา
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
ดูทั้งหมด
อียิปต์ที่เต็มไปด้วยคำถาม (ตอน7)
ความดีที่ทุกคนทำได้ในแต่ละวัน
‘การเมือง’ กำลัง ‘สาดสีเทา’ เข้าใส่กัน
เบน, ทักษิณ, อนุทิน, แพทองธาร
ก๊วน แก๊ง หลักสูตรอภิสิทธิ์ชน กับการทุจริตในสังคมไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน

ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ

อรรถกร แจงดราม่าป้ายซีเกมส์ เป็นของท้องถิ่น-เอกชนไม่ได้ใช้งบกกท.

หลักฐานชัด!!! กัมพูชายิงทหารไทย บาดเจ็บ 2 นาย

ชาวบ้านกรวด บุรีรัมย์ ขนของขึ้นรถ หลังปะทะชายแดนเดือด แห่เติมน้ำมันแน่นปั๊มอพยพทันที

'นายกฯ-บิ๊กเล็ก'บินด่วน ลงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา 8 ธ.ค.นี้

  • Breaking News
  • \'นเรศ\'เปิดประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ อปท. ย้ำ 4 แนวทางบริหารสู่ความยั่งยืน 'นเรศ'เปิดประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ อปท. ย้ำ 4 แนวทางบริหารสู่ความยั่งยืน
  • กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน กลาโหมประณามกัมพูชา เปิดฉากยิงพื้นที่ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน
  • ‘ปธ.รัฐสภา’ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบเงิน 1.1 แสนบาทช่วยน้ำท่วม ‘ปธ.รัฐสภา’ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบเงิน 1.1 แสนบาทช่วยน้ำท่วม
  • บุรีรัมย์เคลื่อนทัพ ระดมกำลังเปิดศูนย์พักพิง รับผู้อพยพ3.5หมื่นคน รับมือสถานการณ์ปะทะ บุรีรัมย์เคลื่อนทัพ ระดมกำลังเปิดศูนย์พักพิง รับผู้อพยพ3.5หมื่นคน รับมือสถานการณ์ปะทะ
  • ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ ต๊ะ นารากร ติงสื่อ! เปิดเผยชีวิตส่วนตัว นัทปง ไม่เกรงใจญาติ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เวียดนามสร้างถนนเชื่อมเกาะปิดกั้นคลองฟูนันเตโช

เวียดนามสร้างถนนเชื่อมเกาะปิดกั้นคลองฟูนันเตโช

6 ธ.ค. 2568

โพลภาคใต้นายอภิสิทธิ์ ปชป.มาอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ได้เพราะโชคช่วย

โพลภาคใต้นายอภิสิทธิ์ ปชป.มาอันดับหนึ่ง ไม่ใช่ได้เพราะโชคช่วย

5 ธ.ค. 2568

ยุบสภาจะมาหลังน้ำลด

ยุบสภาจะมาหลังน้ำลด

2 ธ.ค. 2568

น้ำท่วมภาคใต้ทำได้แค่ให้กำลังใจไม่โทษใครไม่มีบทเรียนให้ถอด

น้ำท่วมภาคใต้ทำได้แค่ให้กำลังใจไม่โทษใครไม่มีบทเรียนให้ถอด

29 พ.ย. 2568

อันวาร์ สมคบ ฮุน มาเนต ทำเรื่องเลวร้ายเพื่อผลประโยชน์นายทุนมาเลเซีย

อันวาร์ สมคบ ฮุน มาเนต ทำเรื่องเลวร้ายเพื่อผลประโยชน์นายทุนมาเลเซีย

28 พ.ย. 2568

นายกฯอนุทินได้ทีขี่แพะไล่ ในจังหวะพรรคฝ่ายค้านอ่อนแอ

นายกฯอนุทินได้ทีขี่แพะไล่ ในจังหวะพรรคฝ่ายค้านอ่อนแอ

25 พ.ย. 2568

ยึดสวนปาล์มเอกชนรัฐบาลมหาโจรหรือโจรโดนรัฐบาลริบทรัพย์ที่ปล้นมา

ยึดสวนปาล์มเอกชนรัฐบาลมหาโจรหรือโจรโดนรัฐบาลริบทรัพย์ที่ปล้นมา

22 พ.ย. 2568

นายชวน หลีกภัย กังวลเงินเทาเข้ามาทำลายการเมืองสุจริต

นายชวน หลีกภัย กังวลเงินเทาเข้ามาทำลายการเมืองสุจริต

21 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved