พรรคประชาชนได้เสนอ “ร่างพระราชบัญญัติ ยกเว้นความผิดให้แก่บุคคลที่ได้รับความเสียหาย หรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านป่าไม้และที่ดิน พ.ศ. ....”
พรรคประชาชาติได้เสนอ “ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทวงคืนผืนป่า”
ทั้ง 2 ร่างกฎหมายดังกล่าว ได้เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรได้รับหลักการแล้ว
ร่างกฎหมายมีเจตนารมณ์ที่จะนิรโทษกรรม และให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่อยู่อาศัยและทำมาหากินในพื้นที่ก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่าไม้ ซึ่งถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
แม้ร่างกฎหมายจะมีเจตนารมณ์ ที่ดี แต่เป็นปัญหาที่เกิดการโต้เถียง และข้อสงสัยว่า เป็นการล้างบาง หรือช่วยเหลือนายทุน ที่รุกเขตพื้นที่ป่า ย้อนหลังไปนานหลายสิบปี หรือไม่ ?
นอกจากนี้ กลไกและขั้นตอนตามร่างกฎหมาย อาจซ้ำซ้อนกับหน่วยงานราชการ ที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อยู่แล้ว หรือไม่ ?
ร่างกฎหมายให้ความสำคัญต่อประชาชนผู้ไม่มีเจตนารุกเขตป่า เพราะได้อยู่อาศัยในพื้นที่มาก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่า จึงถือว่าไม่ได้กระทำความผิด
ในประเด็นเรื่องเจตนา โดยหลักของกฎหมายที่มีโทษทางอาญา ถือเป็นหลักทั่วไปที่ต้องพิจารณาก่อนเบื้องต้นว่า ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด มีเจตนากระทำความผิดหรือไม่ ? หากไม่มีเจตนารุกเขตป่า เพราะได้อยู่ในพื้นที่มาก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่า ย่อมไม่ถือว่าเป็นความผิดโดยหลักของกฎหมายอาญาทั่วไปอยู่แล้ว
ในทางปฏิบัติ รัฐบาลที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาประชาชนที่ไม่มีที่ทำกิน ให้สามารถอยู่ในที่ดินของรัฐได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อเนื่องกันมา
เช่น โครงการ สทก. หรือสิทธิทำกิน ซึ่งเป็นที่ดินในเขตป่าสงวนหรือป่าไม้เสื่อมโทรม ที่ได้ทำประโยชน์หรืออาศัยอยู่แล้ว ไม่สามารถซื้อขายได้ แต่ตกทอดเป็นมรดกแก่ทายาทได้
ที่ดิน ส.ป.ก. เป็นเอกสารแสดงการครอบครองที่ดิน ที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ออกให้แก่ประชาชนในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งไม่สามารถซื้อขายได้ ต้องใช้เพื่อเกษตรกรรม ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ เปลี่ยนผู้ทำประโยชน์ได้ โดยให้เปลี่ยนมือได้ระหว่างเกษตรกรที่มีคุณสมบัติตามกฎหมายที่กำหนด
สิทธิ คทช. คือสิทธิในเรื่องการจัดที่ดินทำกินให้ประชาชน ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซึ่งเป็นสิทธิในการทำประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน เป็นการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของรัฐ นำไปสู่การจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนได้อยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ตามร่างกฎหมาย ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการนิรโทษกรรม หรือยกเว้นการกระทำความผิด ซึ่งเมื่อมีคำวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ให้ยุติคำสั่งไม่ฟ้อง สิ้นสุดการรับโทษ พ้นจากการคุมประพฤติ ในกระบวนการดำเนินคดีทุกชั้น ตามหลักการในด้านกฎหมาย ทำให้เป็นประเด็นว่า ฝ่ายบริหารได้ใช้อำนาจแทรกแซงซ้ำซ้อนกับอำนาจตุลาการหรือไม่ ? และเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ?
ประเด็นที่สำคัญคือ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ตามร่างกฎหมาย อาจไม่ได้เป็นผู้ที่เป็นเกษตรกรตัวจริง แต่เป็นเจ้าของ บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท โฮมสเตย์ ซึ่งประกอบธุรกิจอย่างอื่นที่ไม่ได้เป็นเกษตรกรรม จะถือว่า เป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่มุ่งจะให้ผู้ที่เป็นเกษตรกรได้รับประโยชน์ หรือไม่ ?
ร่างกฎหมายนี้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก หากรัฐบาลเสียงข้างน้อยของ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล ยุบสภาภายใน 4 เดือน ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับพรรคประชาชน กฎหมายฉบับนี้อาจไม่ทันผ่านวาระที่ 3 ของสภาผู้แทนราษฎร หรือ หากผ่านไปได้ อาจติดปัญหาที่วุฒิสภา เนื่องจากผู้ที่เป็นสมาชิกหลายคนที่มีประสบการณ์ และภูมิหลังเกี่ยวกับการทำงานรักษาป่า ได้แสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ซึ่งอาจชักนำให้สมาชิกวุฒิส่วนใหญ่ให้มีความเห็นคล้อยตามไปด้วย
แนวโน้ม ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมรุกป่าทั้ง2 ฉบับ จะผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาด้วยความยากลำบาก จนแทบจะเป็นไปไม่ได้หากผ่านไปได้ ต้องถือว่า โชคช่วยแบบเฉียดฉิวมาก
ดร.รุจิระ บุนนาค
กรรมการผู้จัดการ
Marut Bunnag International Law Office
rujira_bunnag@yahoo.com
Twitter : @RujiraBunnag
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี