การเมืองยิ่งนับถอยหลังใกล้เข้ามาเท่าไหร่ การต่อสู้ช่วงชิงความได้เปรียบยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งในสถานการณ์พิเศษแบบนี้ การเมืองบ้านเรายิ่งชวนให้จับตาทุกฝีก้าวอย่างล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี หอบหิ้วคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่ ลงพื้นที่ไปดูหน้างานชายแดนที่ จ.สุรินทร์ ก็ต้องชมว่า อ่านสถานการณ์ขาด
นายกฯอนุทิน ได้พารัฐมนตรีหลายคนไปฝากเนื้อฝากตัวกับชาวบ้าน มีทั้งรัฐมนตรีที่เป็นลูกหลานคนบ้านเดียวกัน และในละแวกจังหวัดใกล้เคียงที่รู้ซึ้งถึงผลกระทบจากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เอาไปพูดจาภาษาเดียวกัน แต่ที่เน้นเป็นพิเศษคือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ที่เน้น 2 คนนี้เป็นพิเศษเพราะนายกฯต้องการจะพาลงไปสร้างความมั่นใจเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนชายแดนทั้งด้านความมั่นคง และเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็น 2 เรื่องหลักที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดนที่กินเวลายาวนานมาแล้วหลายเดือน และตั้งความหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้จะมีทางออกที่ชัดเจนให้กับพวกเขาสามารถใช้ชีวิตปกติ และทำมาหากินได้บ้างในระดับหนึ่ง
สิ่งที่นายกฯ รับปากกับชาวบ้านว่าจะนำกลับไปหาทางช่วยเหลือนั้น มีหลายเรื่อง ทั้งการเยียวยา ซึ่งอันนี้ชัดเจนว่า เงินน่าจะเข้ากระเป๋าภายในสัปดาห์นี้เรื่องความปลอดภัย ปัญหาเรื่องหนี้สิน-ปากท้อง เรื่องการทำมาค้าขาย และราคาสินค้าเกษตร เหล่านี้คือ เรื่องที่จังหวัดชายแดนกำลังประสบปัญหาอยู่
ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้แต่หวังว่าทุกอย่างมันคงจะดีขึ้นในเร็ววัน แต่ก็ยังมองไม่เห็นทางออกชัดเจนนัก เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนนั้นไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย ทุกวันเวลาพร้อมจะเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงได้ตลอด การใช้ชีวิตตั้งอยู่บนความวิตกกังวลที่ต้องพร้อมเสมอสำหรับการอพยพหนีตายไปยังหลุมหลบภัย หรือสถานที่อันปลอดภัย
มากไปกว่านั้นก็คือ คนชายแดนพวกเขาไม่รู้เลยว่า จะปิดด่านยาวนานไปถึงเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าถ้าสถานการณ์มันไม่ดีขึ้น ก็ไม่สมควรจะเปิด และเข้าใจดีด้วยว่า หากฝ่ายกัมพูชายังสร้างความเดือดร้อน ยังเป็นพิษเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศไทยอยู่แบบนี้ ก็ไม่มีใครว่าอะไรถ้าจะต้องปิดด่านกดดันกันแบบยาวๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าคนไทยจะมีไม่มีที่ทำมาหากิน
ก็อย่างที่นายกฯ ได้สอบถามประชาชนในพื้นที่นั่นแหละว่า จะให้เปิดด่านหรือไม่ ซึ่งประชาชนยกมือบอกปิดด่าน แล้วนายกฯจึงถามกลับว่าถ้าหากคนเปิดด่านจะเจอมือหรือตีน ชาวบ้านตอบกลับทันทีว่าเจอตีน ซึ่งจะว่าไปก็เป็นคำถามและคำตอบธรรมดาภาษาบ้านๆ เข้าใจกันง่ายๆ แต่แสดงออกถึงความจริงใจและบ่งบอกถึงความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของลูกหลานไทยอย่างอุ่นระอุ
ดังนั้นการเสียสละของคนชายแดน จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องใส่ใจช่วยเหลือด้วยความจริงใจเป็นกรณีพิเศษเช่นกัน ปิดด่านได้แต่ก็ต้องมีทางออกให้เขาด้วย เมื่อรับปากอย่างไรไว้ก็ควรเร่งทำให้ได้ภายในเวลาจำกัดนี้ หรืออย่างน้อยปูทางไว้ให้ชัดเจนเพราะพวกเขาคือคนหน้าด่านที่ได้รับผลกระทบสูงสุด สุ่มเสี่ยงชีวิตมากสุด และสะสมความรู้สึกมานานมากแล้ว
การยกคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ของนายกฯอนุทินครั้งนี้ แม้เข้าใจได้ว่านี่คือการหาเสียงตักตวงคะแนนนิยมเพื่อหวังผลเลือกตั้งรอบหน้า แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ การจุดความหวังใหม่ของประชาชนที่กำลังมองหาความปกติสุขในชีวิตประจำวัน และยังเป็นความหวังใหม่บนความอดทนที่มีขีดจำกัด หากทำให้ต้องผิดหวังซ้ำซากอีก เลือกตั้งครั้งหน้าก็คงจะรู้ดีว่าชาวบ้านจะให้คำตอบว่าอะไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี