แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ความสุจริต ท่านจะต้องสุจริตต่อบ้านเมืองสุจริตต่อประชาชน และสุจริตต่อหน้าที่ ณ บัดนี้ ข้าพเจ้าใคร่จะให้คติเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง คือนอกจากความรู้และความสุจริตประจำตัวแล้ว ท่านควรมีหรือตั้งจุดหมายให้แน่วแน่ในการงานที่จะกระทำนั้น แล้วใช้ความคิดไตร่ตรองว่าจะทำอะไรบ้าง กิจการที่กระทำหรือดำเนินอยู่นั้นจึงจะเจริญก้าวหน้าเกิดประโยชน์งอกงามยิ่งขึ้น การหัดใช้ความคิดให้เป็นระเบียบตรงตามแนวทาง หรือจุดหมายที่ได้ตั้งไว้นั้น เป็นความต้องการอยู่ในปัจจุบันนี้ ถ้าไม่ใช้ความคิด ผลงานเคยได้อย่างไรก็จะได้เพียงแค่นั้นเอง เป็นงานที่ล้าหลัง ตัวท่านเองก็จะเป็นคนล้าหลังประเทศชาติของท่านก็จะไม่ก้าวหน้าให้ทันสมัย และการใช้ความคิดดั่งว่านี้จำเป็นต้องใช้สติควบคุม มิฉะนั้น ก็จะเป็นความคิดที่ฟุ้งซ่าน ซึ่งประเทศชาติไม่พึงปรารถนา... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7 กรกฎาคม 2498)
...nn อนุทินชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี (พรรคสี) ส้มหล่นทับเท้า คงจะไม่รอจนถึงวันสุดท้ายของการอยู่ในอำนาจรัฐ ดังนั้น จึงมีเสียงวิพากษ์ว่าอนุทินน่าจะยุบสภาก่อนครบ 4 เดือน เพราะหากอนุทินฝืนอยู่ในอำนาจจนถึงเดือนมกราคม 2569 อาจมีหวังถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วอาจจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทยที่ตกเก้าอี้นายกฯ กลางสภาเพราะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอบอกไว้เลยว่าอนุทินไม่ได้โดดเดี่ยวทางการเมือง เพราะเขามี back up ดีเด่นดังแข็งปั๋งชื่อ เนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งคอการเมืองมองว่าเนวินจะปั้นพรรคฯ ของเขาให้ยิ่งใหญ่โด่งดังกว่าพรรคเพื่อไทยได้โดยไม่ยาก แต่ที่น่าเป็นห่วงอยู่สำหรับพรรคภูมิใจไทย คือ พรรคประชาชน เพราะยังน่าจะยากที่พรรคภูมิใจไทยจะเอาชนะพรรคประชาชนได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พรรคภูมิใจไทยก็ยังต้องพยายามทำให้พรรคฯ ที่มีเก้าอี้ สส. ไม่น้อยกว่า 100 ที่นั่ง ให้จงได้ แต่ส่วนที่พรรคประชาชนคุยโวโม้ระเบิดไว้ว่าจะได้ สส. เกิน 250เสียงนั้น บอกได้เลยว่าฝันกลางแดด แล้วเป็นฝันสลายอย่างแน่นอน
...nn พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ย้อนกลับมาเปิดหน้ากับพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว หลังจากหายหน้าหายตาไปหลายปี ส่วน แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่อ้างตัวว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เป็น Gen Y กลับไม่มีเพื่อนๆ กลุ่มเด็กสร้างบ้านเข้าไปยืนเป็นไม้ประดับให้ แต่ที่มันสุดแสนแปลกประหลาดคือภาพที่ปรากฏเมื่อสองวันก่อน เพราะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยชูให้สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้จัดการการเลือกตั้งของพรรค ขอย้ำว่างานนี้มีแต่นักการเมืองหน้าเก๊าเก่า ยืนเป็นแผงรายล้อม แพทองธาร แต่ไม่ปรากฏภาพคนรุ่นใหม่ Gen Y ของแพทองธารแม้แต่คนเดียว
...nn มีคำถามว่า เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ คนเคยเดินตามติดแพทองธารเสมือนเงา หายหน้าหายตา หายศีรษะไปไหนเสียเล่า แล้วเหตุใดจึงมีแต่คนแก่หน้าเก่ารุ่นเพื่อนทักษิณ ชินวัตร กลับมายืนเต็มหน้ากระดาน โดยมีภาพ“เสี่ยเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ คนเก่าคนแก่ของพรรคการเมืองของทักษิณกลับมาปรากฏตัวอีก
...nn เรื่องการ return พรรคเพื่อไทย โดย พงษ์ศักดิ์ ทำให้คอการเมืองตั้งคำถามว่าต่อไปพรรคเพื่อไทยจะไม่ใช่พรรคของคน Gen Y อีกแล้วหรือ หรือว่าพรรคเพื่อไทยสำนึกสำเหนียกแล้วว่าแก๊งเด็กสร้างบ้าน ที่หลายคนเรียกว่าแก๊งนาตาชา หรือแก๊งทอฟฟี่คือตัวการที่ทำให้พรรคเพื่อไทยเกือบพบความล่มสลาย เหมือนทำนองว่าคบเด็กสร้างบ้าน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงกลับตัวโดยพลัน หันกลับไปคบกับคนเก่าคนแก่เพื่อนทักษิณ เพราะหากปล่อยให้แก๊งเด็กสร้างบ้านคุมพรรคเพื่อไทยต่อไป มีหวังพรรคฯ ต้องถึงกาลอวสานอย่างไม่ต้องสงสัย
...nn เมื่อคบเด็กสร้างบ้านแล้วพรรคฯ จะพัง ก็จึงทำให้พรรคเพื่อไทยต้องดึงเพื่อนๆ ทักษิณกลับมาดูแลพรรคฯ โดยไม่ปล่อยให้แก๊งนาตาชาหรือแก๊งทอฟฟี่เล่นบทนำพรรคฯ อีกต่อไป และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เห็นว่าทำไมพรรคเพื่อไทยจึงต้องปล่อยให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ทำหน้าที่ผู้จัดการการเลือกตั้ง สส. ครั้งหน้า แล้วทำไมจึงต้องดึงให้“เพ้ง” พงษ์ศักดิ์ กลับไปยืนเป็น wallpaper ให้พรรคเพื่อไทย
...nn ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกคอการเมืองวิพากษ์ว่าช่างสร้างภาพเก่งจังเลย ทุกวันนี้หากดูจากเรื่องราวบนสื่อฯ social media ก็จะพบปรากฏการณ์ ศุภจีฟีเวอร์ อย่างครึกโครม ดังจะพบว่ามีสารพัดฟีดของ ศุภจี บนsocial media มากมายเหลือคณานับ ภาพที่ ศุภจี กล่าวในสภาเมื่อวันแถลงนโยบายทำให้ภาพของ ศุภจี ดูดีมากจริงๆ จนหลายคนวิพากษ์ว่าสร้างภาพเก่งมาก
...nn เมื่อศุภจีถูกมองว่าสร้างภาพเก่ง ก็ทำให้ถูกจับจ้องมองต่อไปว่า แล้วเมื่อได้ลงไปทำงานจริงๆ จะทำงานได้เก่งเหมือนภาพที่ถูกบรรจงสร้างขึ้นหรือไม่ เรื่องนี้ต้องมองกันต่อไป เพราะคนบางคนสร้างภาพเก่ง แต่ทำงานไม่เอาอ่าว แต่คนบางคนสร้างภาพเก่ง แต่ก็ทำงานเก่ง ทำงานดีจริงๆ แต่ก็มีคนบางคนไม่สร้างภาพเลย แต่ทำงานได้สุดวิเศษ ก็ต้องรอดูกันว่า ศุภจี จะอยู่ในคนกลุ่มไหนในสามกลุ่มที่กล่าวมาในข้างต้น
...nn แต่ที่ต้องชม ศุภจี ว่าเก่งมากๆ กับการสร้างภาพให้เป็นข่าว แต่หากคลิปไหนเป็นข่าวดีสำหรับ ศุภจี คลิปนั้นจะถูกฝังไว้ใน social media ต่อไป แต่หากคลิปไหนไม่เป็นผลดีต่อ ศุภจี คลิปนั้นจะปลิวหายไปโดยพลัน เรื่องนี้ทำให้มีคำถามว่าคลิปที่ ศุภจี แนะนำให้ชาวนาปลูกกล้วยหอมทองเพื่อเสริมรายได้ เพราะกล้วยหอมทองเป็นสินค้าที่ญี่ปุ่นต้องการ แต่ทำไมอยู่ๆ คลิปนี้หายไปแล้ว แต่ที่น่าสนใจมากกว่าคือเรื่องให้ชาวนาปลูกกล้วยหอมทองนั้น เป็นเรื่องที่ พิชัย นริพทะพันธ์ุ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยรัฐบาลแพทองธารเคยพูดมาก่อน แต่เมื่อพิชัยพูดเรื่องนี้ กลับทำให้สังคมด่าพิชัยอย่างหนัก แต่ครั้นเมื่อศุภจีพูดเรื่องเดียวกัน ทำไมไม่ถูกด่าเหมือนครั้งที่พิชัยพูด ทั้งๆ ที่มันก็เรื่องเดียวกัน คือเรื่องกล้วยหอมทอง
...nn เรื่องกล้วยหอมทองนั้นน่าจะมาจากความคิดของข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ เพราะสิ่งที่ศุภจีพูดกับเรื่องที่พิชัยพูดมันเรื่องเดียวกัน ข้อมูลเดียวกัน แต่เมื่อพิชัยเห็นเรื่องนี้ ก็จึงออกมาโวยว่า เฮ้ย! ทำไมเวลาตรูพูดเรื่องกล้วยหอมทอง แล้วตรูถูกด่าแต่ทำไมศุภจีพูดแล้วได้รับคำชม แต่ศุภจีก็นกรู้มาก เพราะอาจจะเกรงว่าเสียมวยในอนาคตหากปล่อยคลิปกล้วยหอมทองไว้ต่อไป ดังนั้น คลิปศุภจีพูดเรื่องกล้วยหอมทองจึงปลิวหายไปจาก social media เสียแล้ว
...nn เศรษฐกิจไทยไม่ดี เรื่องนี้เป็นความจริงที่ไม่ต้องปฏิเสธ เพราะไม่ดีมาอย่างน้อยตั้งแต่ช่วงเกิดโควิด-19 แล้วก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ แม้โควิด-19 จะผ่านไปหลายปีแล้ว เศรษฐกิจไทยก็ยังอยู่ในหุบเหวต่อไป ในขณะที่หลายประเทศในเอเชียก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ไปได้แล้ว และก็คงทราบผลตัดสินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ออกมาเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมแล้วว่ามีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเพราะประเมินแล้วพบว่ามีแนวโน้มที่เศรษฐกิจไทยชะลอการขยายตัวทั้งปีนี้และปีหน้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าคาดการณ์ ดังนั้น จึงเห็นควรให้นโยบายการเงินไว้ที่ระดับผ่อนคลายต่อไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ยังค่อนข้างเปราะบางเช่นนี้ สาเหตุที่ยังคงนโยบายการเงินไว้ก็เพราะราคาพลังงานเชื้อเพลิง และราคาอาหารสดลดลง และคาดว่าในปี 2570 เงินเฟ้อจะค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาวะตามกรอบเป้าหมายปกติ และยืนยันว่าปัจจุบ้นยังไม่มีปัญหาสภาวะเงินฝืดในไทย เพราะราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป และสินค้าในหมวดบริการในกลุ่มต่างๆ ยังไม่ได้ปรับลดลง แต่ก็น่าประหลาดที่ กนง.บอกว่าไม่มีปัญหามากนัก แต่สำหรับประชาชนทั่วไปบ่นตรงกันว่าสินค้าแพงมากขึ้น ค่าครองชีพแพงมากกว่าเดิม เรื่องนี้จะเข้าทำนองสองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองต่างจากอีกคนหนึ่ง หรือไม่...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี