วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
กรณียกเลิกสัญญาหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มาซาทาดะ อิชิอิ
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง
บางส่วน หยิบเอาความชื่นชมในผลงาน และแนวทางปฏิบัติของโค้ชอิชิอิมาชื่นชม และเห็นต่างว่าไม่ควรยุติสัญญา ควรทำงานต่อ
บางส่วน ชื่นชมโค้ชอิชิอิ แต่ยอมรับว่าผลงานไม่ดีพอสำหรับเป้าหมายของทีมชาติไทย สนับสนุนการตัดสินใจยุติสัญญา
บางส่วน หยิบเอาความหมั่นไส้มาดามแป้ง ในเรื่องอื่นๆ มาผสมโรงปั่นกระแสต่อต้านด้วยก็มี
บางส่วน หยิบเอาความไม่พอใจที่มีต่อโค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ และโค้ชตุ๊ก ปิยะพงษ์ มาผสมโรงด่าด้วยก็มี
บางส่วน พยายามปั่นกระแสโจมตีไปถึงขนาดไล่นายกสมาคมฯ มาดามแป้ง ออกจากตำแหน่ง !?!
ฯลฯ
ประเด็นสาระสำคัญของเรื่องการยกเลิกสัญญา คือ อะไร?
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้ข้อมูลแจกแจง ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ข้อเท็จจริง คือ ตอนที่สมาคมฯ ให้โค้ชอิชิอิ มาทำทีมชาติไทย ได้กำหนดเป้าหมายของการทำทีม คือ การพาทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 3 ให้ได้
นี่คือเป้าหมายสำคัญตอนที่ตกลงจ้างโค้ชอิชิอิเข้ามาทำงาน
2. การยกเลิกสัญญาครั้งนี้ ผ่านการประเมินผลการทำงาน และข้อเสนอแนะตามหลักวิชาการ โดยใช้สถิติของฝ่ายเทคนิคมาอย่างละเอียดรอบคอบ
3. ยกเลิกสัญญา เป็นไปอย่างถูกต้องตามสิทธิของผู้ว่าจ้าง และสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย
โดยได้ปฏิบัติต่อโค้ชอิชิอิอย่างสุภาพ และเป็นไปตามสัญญาอันชอบธรรมที่โค้ชมีไว้กับสมาคมฯ
สมาคมฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ อิชิอิ เป็นมูลค่าครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่จะได้รับทั้งหมดจนสิ้นสุดสัญญา
4. สมัยอดีตโค้ชที่มาดามแป้งเคยเลือก “มาโน่ โพลกิ้ง”
Winning ratio ของมาโน่ อยู่ที่ คือ 56% (ชนะกี่เปอร์เซ็นต์จากจำนวนนัดแข่งขันทั้งหมด)
แต่มาโน่ต้องพ้นหน้าที่โดยถูกยกเลิกสัญญา เพราะเราตั้งเป้าผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกเข้าไปในรอบที่ 3
ย้อนกลับไปวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 มาโน่คุมทีมชาติไทย แพ้จีน 1-2ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จึงมีความกดดันที่ว่าจะต้องหาโค้ชที่ดีกว่ามาโน่ เพื่อนำพาทีมชาติไทยไปสู่รอบที่ 3 ให้ได้
นั่นเป็นที่มาของการแต่งตั้งอิชิอิ ซึ่งในขณะนั้นนั่งเป็นผู้อำนวยการทีมชาติไทย
และก็มีเป้าหมายตกลงกันไว้ชัดเจน คือ เพื่อนำพาทีมชาติไทยผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ให้ลึกมากที่สุด และต้องการจะพาทีมเข้าไปในรอบที่ 3 ให้ได้
5. สมาคมฟุตบอลฯ ตั้งความหวังในการที่จะพาฟุตบอลทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ให้ลึกมากที่สุด และต้องการจะพาทีมเข้าไปในรอบที่ 3
ในการเข้ารอบ 3 นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ที่ผ่านมา มีโค้ชเพียง 2 คน ที่เคยพาฟุตบอลทีมชาติไทยเข้าไปสู่ฟุตบอลโลกรอบที่ 3 ได้
นั่นคือ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ โค้ชซิโก้ ซึ่งเป็นขวัญใจของคนไทยมาโดยตลอด Winning ratio ของโค้ชซิโก้ในขณะนั้น อยู่ที่ 50% แต่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากมาย
อีกท่านที่นำทีมเข้าสู่รอบ 3 ได้ ก็คือ ปีเตอร์ วิธ ในปี 2002
4. มาดามแป้ง ยืนยันว่า ตั้งแต่วันแรกที่ โค้ชอิชิอิ เข้ามาคุมทีมชาติไทย
.jpg)
ในฐานะนายกสมาคมฯ และฝ่ายเทคนิค ได้สนับสนุนและให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่
“แต่สิ่งที่กระทบกระเทือนหัวใจ แป้ง และสมาคมฯ รวมถึงเชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยมากที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ ได้เพียง 3-1 ขาดไปเพียงลูกเดียว ที่แป้งพูดเสมอว่า “ลูกเดียววันนั้นหมายถึงอีก 4 ปีที่ทีมชาติไทย ต้องรอคอยโอกาสในการลุ้นไปฟุตบอลโลก ครั้งต่อไป”
นอกจากนั้น ทีมชาติไทย ยังพลาดการคว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียนในปี 2024 ทำให้น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรักษาแชมป์ 2 สมัยเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ผลงานของ อิชิอิ ผลงานหนึ่งที่ทำสำเร็จ คือ การคว้าแชมป์คิงส์คัพที่จ.สงขลา ซึ่งต่อมาในปีนี้ อิชิอิ ก็ไม่สามารถรักษาแชมป์ที่ จ.กาญจนบุรี ได้ตามเป้าหมาย
ขณะนี้ เราแทบจะไม่มีอะไรเหลือให้ลุ้นอีกต่อไป สำหรับทีมชาติไทยชายชุดใหญ่ เหลือเพียงทัวร์นาเมนท์เดียว คือ เอเชี่ยนคัพ 2027 แน่นอนว่าเราต้องการเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ซาอุดีอาระเบีย
ในวันนั้น ฝ่ายเทคนิคได้ขอเข้ามาประชุมกับแป้ง ว่าต้องการเปลี่ยนโค้ช ตั้งแต่หลังจบเกมแพ้ เติร์กมินิสถาน 3-1 แต่ขณะนั้นเหลือเวลากระชั้นชิดมากที่จะถึงเวลาการแข่งขัน และเรายังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้โค้ชคนไหน อิชิอิ จึงยังคงทำหน้าที่โค้ชต่อไป
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ โดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวินผู้ที่เคยนำทีมชาติไทยชนะซีเกมส์ 4 สมัย และเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้โค้ชยอดเยี่ยมแห่งเอเซีย และ นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เคลีก เกาหลีใต้ และเป็นดาวซัลโวเคลีก ในปี 1985 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติของนักเตะไทยคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมด้วยผู้บริหารสมาคมฯ
ได้เชิญ อิชิอิ เข้ามาพูดคุย และได้ชี้แจงถึงผลงาน และขอยกเลิกสัญญาให้พ้นจากตำแหน่ง
โดยสมาคมฯ ได้ปฏิบัติต่อ อิชิอิ อย่างสุภาพ และเป็นไปตามสัญญาอันชอบธรรมที่โค้ชมีไว้กับสมาคมฯ
โดยสมาคมฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ อิชิอิ เป็นมูลค่าครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่จะได้รับทั้งหมดจนสิ้นสุดสัญญา”
5. มาดามแป้ง ย้ำว่า ในวงการฟุตบอล การปลดโค้ชเป็นเรื่องธรรมดา และ “ฟุตบอลระดับทีมชาติ ไม่ใช่ห้องทดลอง เรามีเกมให้เล่นเพียงแค่ครั้งเดียวใน 90 นาทีเท่านั้น แพ้ ชนะ เสมอ มีผลต่อความรู้สึกของแฟนบอล และมีผลต่อความสำเร็จของสมาคมฯ ซึ่งมีนายกสมาคมฯ รับผิดชอบอยู่
ไม่ว่าจะเทคนิคอะไรก็ตาม ทุกเกมมีความสำคัญ
ยืนยันว่า ใช้ตัวเลขที่เป็นวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งชี้วัด ไม่มีอคติใดๆ
เคารพในความเป็นมืออาชีพของโค้ชทุกคน
เคยร่วมงานกับโค้ชมากมาย การปลดโค้ชเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล ถ้าผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์หรือไม่สมกับความคาดหวัง
อย่าลืมว่า ทีมชาติไทยคือหน้าตาของประเทศไทย ที่ต้องแข่งขันเพื่อผลลัพธ์ในสนาม และความเชื่อมั่นของแฟนบอล
6. นายก มาดามแป้ง ชี้แจงว่า เมื่อพิจารณาถึงการแข่งขันที่เหลืออยู่ เป็นช่วงเวลาสำคัญและกระชั้นชิด จึงตัดสินใจแต่งตั้ง “แอนโธนี ฮัตสัน” อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมฯ (ตำแหน่งคล้ายๆ อิชิอิก่อนโน้น) เข้ามาทำหน้าที่แทนทันที
ผ่านมา แอนโธนี ฮัตสัน เปรียบเสมือนคนที่อยู่กับฟุตบอลไทยมาในทุกระดับ ทั้งประสบการณ์คุมทีมสโมสร และในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิค ที่สำคัญ ยังมีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ ทั้งการเป็นอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ 3 ประเทศ อย่าง ทีมชาติสหรัฐอเมริกา, ทีมชาตินิวซีแลนด์ และ ทีมชาติบาห์เรน
เชื่อว่า เป็นคนที่เหมาะสมมากที่สุดในเวลานี้
7. หลังคำชี้แจงของมาดามแป้ง ก็มีทั้งคนที่เข้าใจเหตุผล และสนับสนุนการตัดสินใจ
เมื่อทำไม่ได้ตามเป้าหมาย แม้จะทำทีมดีกว่าเดิม แต่ต้องถือว่าดีไม่พอ ต้องเปลี่ยนแปลง
แต่ก็มีแฟนบอลอีกจำนวนไม่น้อยที่คาใจ ติดใจ และไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของสมาคมฟุตบอลฯ ก็จะต้องรับผิดชอบต่อผลงานที่ตามมาหลังจากนี้
จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมาย
พร้อมๆ กับการแก้ปัญหาหมักหมม สะสม ทั้งเรื่องการเงิน เรื่องหนี้สินที่นายกสมาคมฯ มาดามแป้งเข้ามาจัดการอยู่ในขณะนี้
8. ในความเป็นจริง ต้องยอมรับว่า การที่ฟุตบอลไทยจะไปถึงระดับบอลโลกได้นั้นหากไม่ใช้วิธีหานักเตะแปลงสัญชาติมาเล่นแบบเฉพาะหน้า มันจะต้องใช้เวลาสร้างพื้นฐานระบบในวงการฟุตบอล
ไม่ว่าจะเป็น ลีกอาชีพ สโมสร การฝึกนักเตะ พัฒนานักเตะของสโมสร
โค้ชทีมชาติ การเลือกแท็กติก การเลือกผู้เล่นติดทีมชาติที่ไม่มีระบบเส้นสาย เอาคนที่มีผลงานดีที่สุด
การบริหารงานสนับสนุนของสมาคมฯ
การสนับสนุนของคนดู คนเชียร์ ทั้งในลีก และระดับทีมชาติ
บรรยากาศโดยรวม ระบบแรงจูงใจ ความเป็นมืออาชีพ ธุรกิจ พาณิชย์
การพัฒนาระดับเยาวชน เพื่อความยั่งยืนในอนาคต ฯลฯ
ทั้งหมด ล้วนแต่มีความสำคัญ
ทีมชาติไทยเราไม่ทันไปบอลโลกฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก เป็นเจ้าภาพ
แต่บอลโลกปี 2030 ที่โมร็อกโก โปรตุเกส และสเปน จะเป็นเจ้าภาพ เราก็ต้องพยายามเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อฝ่าฟันไปให้ได้ไกลที่สุด ลึกที่สุด หรืออย่างน้อยรอบ 3 รอบคัดเลือก
ในอนาคต ปี 2034 ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพ (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) เราก็อาจจะพยายามต่อไป
ถึงวันนั้น นายกสมาคมฯ ก็คงไม่ใช่มาดามแป้งแล้ว
แต่ทีมชาติไทย คือ ทีมที่คนไทยร่วมใจกันเชียร์ สู้เพื่อประกาศศักยภาพของฟุตบอลไทยให้ดีสุด เต็มความสามารถที่สุดต่อไป
สารส้ม

เขมรเหลี่ยมทุกดอก! 'วันวิชิต'เปิดเบื้องหลังGBC ไทยสู้ยิบตา ไม่ยอมให้ถูกบิดเบือน
'ดร.วิรไท'ชี้ 8 ข้อเร่งด่วนปฏิรูประบบราชการไทย ลั่น 'คอร์รัปชัน' คือกระดุมเม็ดแรกที่ต้องจัดการก่อน
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง'ถามควรดีใจกับผลการประชุม 'จีบีซี' ไหม ชี้น่าจะกดดันได้มากกว่านี้
สื่อฮ่องกงเอาด้วย! เปิดโปง'เฉิน จื้อ'ฟอกเงินข้ามชาติ มีบ้านหรู-ตึงสูงย่านจิมซาจุ่ย
วงเหล้าเดือด! ท้าทายคาแก้ว คว้ามีดแทงเพื่อนรักดับสลด ยืนรอมอบตัว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี