วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ระยะเวลาการทำสงครามยูเครน-รัสเซีย ใกล้จะครบ 4 ปีแล้ว แต่สถานการณ์กลับดูเชื่องช้าคลุมเครือ ไม่มีการเร่งรีบ เร่งเร้า เพื่อที่จะให้รู้แพ้รู้ชนะกัน จึงกลายเป็นสงครามที่ดูแปลกประหลาด เพราะปล่อยให้การสูญเสียทั้งชีวิตผู้คน และทรัพย์สินเป็นไปอย่างไม่อนาทรร้อนใจ
ฝ่ายรัสเซียผู้รุกรานก็ค่อยๆ ตีเขยิบกินแดนไปทีละนิด ขณะที่ฝ่ายยูเครนก็ทำการต่อต้านไปให้นานมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ ด้วยการช่วยเหลือสนับสนุนทั้งทางด้านการเงิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และข่าวกรองจากฝ่ายยุโรปตะวันตก และสหรัฐอเมริกา
การที่ฝ่ายรัสเซียไม่เลือกทำการรบแบบเบ็ดเสร็จเพื่อเอาชัยชนะ ทั้งๆ ที่มีพละกำลังมากกว่า ก็คงเพราะต้องการจะถนอมกำลังและลดความสูญเสียให้มากสุดในขณะที่ฝ่ายยูเครนนั้นไม่ได้มีพละกำลังเพียงพอที่จะขับไล่ หรือเอาชนะฝ่ายรัสเซียได้ ทำให้ฝ่ายรัสเซียคงคิดว่าการบีบคั้นฝ่ายยูเครนไปเรื่อยๆ เช่นนี้ สุดท้ายฝ่ายยูเครนก็คงจะถอดใจหมดแรงไปเสียเอง ในขณะที่ฝ่ายยูเครนก็คิดว่าถ้าต้านทานฝ่ายรัสเซียไว้ให้ได้นานพอการคว่ำบาตรรัสเซียโดยประเทศพันธมิตรและประเทศผู้สนับสนุน ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา และประเทศสมาชิกทั้งองค์การนาโตและสหภาพยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เดนมาร์ก อังกฤษ และอื่นๆ อย่างเช่น แคนาดาและญี่ปุ่น จะสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายรัสเซียจนยอมเลิกราไป เนื่องจากความสูญเสียโดยเฉพาะการขาดรายได้จากการทำมาค้าขาย จากการถูกอายัดบัญชีธนาคาร และการถูกขับออกจากระบบการร่วมกันใช้เงินสกุลดอลลาร์นั้น จะทำให้ชาวรัสเซียเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง และคงจะออกมาร่วมประท้วงขับไล่ ล้มล้างรัฐบาลภายใต้การนำพาของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ในท้ายที่สุด
แต่จนบัดนี้ ความคาดหวังคาดการณ์ของฝ่ายยูเครนและกลุ่มประเทศพันธมิตร ก็ยังไม่เห็นเป็นผลออกมาแต่อย่างใดจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังเผชิญความย่อยยับต่อไปเรื่อยๆ และบรรดาประเทศพันธมิตรเองกลับประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตตกต่ำ
จัดได้ว่าการสู้รบระหว่างกัน และการใช้กลไกการคว่ำบาตรเป็นเครื่องมือดังกล่าวนั้นเป็นการเผชิญหน้า แต่นั่นมิใช่วิถีทางเดียวที่มนุษย์จะข้องแวะกัน การเจรจาหารือกันก็เป็นอีกวิถีทางหนึ่งที่มนุษย์ผู้เลิศด้วยปัญญาจะพึงนำมาใช้ได้ เพื่อยุติประเด็นปัญหาต่างๆ กันด้วยสันติวิธี
ที่ไปที่มาของการขัดแย้งที่นำไปสู่การสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียก็คือ การที่ฝ่ายองค์การนาโตต้องการขยายจำนวนประเทศสมาชิกให้รวมยูเครนและจอร์เจียเข้าไปด้วย ขณะที่ฝ่ายรัสเซียไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอม เพราะเห็นว่าการจะขยายตัวขององค์การนาโตดังกล่าว มาประชิดเขตแดนของรัสเซีย เป็นการคุกคามความมั่นคงปลอดภัยของรัสเซียเป็นที่สุด และฝ่ายรัสเซียเห็นว่ายูเครนจะต้องเป็นประเทศเป็นกลาง (Neutral) เท่านั้น อีกทั้งฝ่ายยูเครนและประเทศพันธมิตรก็ต้องยอมรับการยึดครองดินแดนส่วนหนึ่งของยูเครนโดยฝ่ายรัสเซีย ซึ่งเป็นดินแดนที่ประชากรประกอบด้วยชาติพันธุ์รัสเซียเป็นหลัก ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 18% ของพื้นที่ของยูเครนทั้งหมด ทั้งนี้ก็รวมถึงเขตไครเมียอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายรัสเซียก็มีความประสงค์ที่จะรื้อฟื้นแนวคิดเกี่ยวกับการเสริมสร้างความเป็น “มิตรคู่คิด คู่ค้า” ในระดับยุโรป (European Partnership)ที่รัสเซียเข้าเป็นส่วนหนึ่งด้วย
เมื่อสภาพการณ์หรือลาดเลาของการได้เห็นสงครามแบบแพ้ชนะอย่างเด็ดขาดดูจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน ทุกฝ่ายก็สมควรต้องหันหน้ากลับสู่โต๊ะเจรจา เพื่อนำเอาท่าทีและเงื่อนไขของแต่ละฝ่ายมาเริ่มพูดจาหารือกัน โดยต่างตระหนักว่าจะไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดบรรลุเป้าหมายของตนเองได้ทั้งหมด จำเป็นต้องอะลุ้มอล่วยต่อกันและกัน
การจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นพูดจากัน ไม่เป็นเรื่องยากลำบากแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับการมีสตินึกคิดว่า การต่อกรกันก็มีแต่ความเสียหายเท่านั้น และฉะนั้นก็ต้องตัดสินใจที่จะเจรจาต่อรองกันเพื่อนำเอาสันติภาพและการอยู่ร่วมกันกลับมาเป็นวิถีทางให้กับชีวิต
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

เจาะลึกโครงสร้างปอยเปต เมื่ออาณาจักรสแกมเมอร์ถูก ถอดปลั๊ก เริ่มกลายเป็นเมืองร้าง
รุดเยี่ยมครอบครัว 'จ่าเหิน' ทหารกล้า เหยียบระเบิดขาขาด รายที่ 8
สนามบินสุวรรณภูมิ ประชุมด่วน หลังพบโดรนเข้าพื้นที่ เตรียมจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันทันที
มหานครคนรวย เปิด 20 อันดับเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก กรุงเทพฯผงาดติดโผ
'อดีต สว.'ชวนฟังคลิปนาทีหนีตายปอยเปต ชี้มีคนไทยสั่งการ หนีระเบิดปืนใหญ่ไทยชัดเจน (คลิป)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี