ครั้งแรกที่รู้ว่าประธานาธิบดีผมเป๋จะไปจิบน้ำชากับพระราชินีที่อังกฤษ ในใจก็แว่วเสียงเพลงชาติอังกฤษคือเพลง God Save the Queen ขึ้นมาทันที พลางนึกเป็นห่วงควีนอลิซาเบธขึ้นมาตงิดๆเพราะชาวโลกรู้กันทั่วหน้าว่าลุงทรัมป์เป็นคนแบบไหน จะยกเว้นก็แต่พวกสาวกขาอวยเหล่าเรดเนคในอเมริกานั่นแหละ ที่ยังหลับหูหลับตาชื่นชมตาลุงผมเป๋ไม่ขาดสายสวนกระแสกับเสียงชาวโลกอย่างสิ้นเชิง แต่ชาวอังกฤษไม่เฉยเป็นจ่าเฉยลงทุนเรี่ยไรกันทำบอลลูนขนาดยักษ์เป็นรูปทารกทรัมป์ใส่ผ้าอ้อม มือเล็กๆถือโทรศัพท์พร้อมทวิตรัวๆ จากนั้นชาวลอนดอนนัดกันมาเป็นแสนคนเพื่อประท้วงพร้อมปล่อยบอลลูนทารกทรัมป์ให้ลอยเท้งเต้งเพื่อแสดงความไม่ต้อนรับลุงแก งานนี้ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอน ไฟเขียวเสียด้วยการประท้วงประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้จำกัดแค่ในลอนดอนเท่านั้นหากแต่กระจายไปในวงกว้าง เช่น ในบริสตอล, นิวคาสเซิล, ลีดส์,เคมบริดจ์ และคาร์ดิฟฟ์ผู้ประท้วงยังมีแผนชุมนุมใกล้กับบ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในสวนสาธารณะรีเจนต์ส ซึ่งเป็นสถานที่พำนักค้างคืนของโดนัลด์และเมลาเนียทรัมป์ ดูเหมือนว่าคนอังกฤษนั้นรักใคร่อยากปาไข่ต้อนรับเหลือเกิน
เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ มาถึงอังกฤษก็โวยใส่ซาดิก ข่านนายกเทศมนตรีลอนดอนทันทีว่าทำไมปล่อยให้ผู้ประท้วงลอยบอลลูนเท้งเต้งหยามกันขนาดนี้ แต่ซาดิกข่านบอกว่านี่คือสิทธิของผู้ชุมนุมการไปเยือนอังกฤษหนนี้ ทรัมป์ไม่ได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ นักแต่ออกแนวกุ๊ยข้างถนนอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการโจมตีว่าข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอเมริกากับอังกฤษอาจ “เป็นไปไม่ได้” ถ้าลอนดอนยังเดินตามแผนของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ หากยังอี๋อ๋อกับสหภาพยุโรป (อียู) ภายหลังเบร็กซิตแถมยังแขวะกัดนางเมย์อีกต่างหากว่าไม่ยอมฟังคำแนะนำของตนเรื่องเบร็กซิต ที่แสบไปกว่านั้นคือกวนโทสะนางเมย์ว่า โบริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ที่เพิ่งยื่นใบลาออกเพราะไม่เห็นด้วยกับนางเมย์นั้น สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่ยอดเยี่ยมได้ พูดแบบบ้านๆคือตาทรัมป์ลากนางเมย์ออกมาตบหน้ารัวๆ กลางสี่แยกเลยทีเดียว ที่แย่ไปกว่านั้นหลังจากตบหน้าจนเต็มเหนี่ยวแล้ว ทรัมป์กลับลูบหลังปะเหลาะตามมาพูดหวานเอาใจนางเมย์ว่าเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งและยอมรับว่าเบร็กซิตเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทำนองตบหัวแล้วลูบหลังนั่นเอง พฤติกรรมแบบนี้ยิ่งทำให้คนอังกฤษยิ่งหลั่งไหลมาประท้วงต่อต้านทรัมป์มากขึ้น สถานการณ์เลวร้ายยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น แม้ว่าคนอังกฤษจะไม่ค่อยชอบโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เรื่องที่ทำให้คนอังกฤษปริ๊ดแตก ถึงขั้นด่ากระหึ่มลั่นโซเชียลมีเดียคือ
วันที่ตาทรัมป์กับเมียไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธ ซึ่งปีนี้มีพระชนมพรรษา 92 พรรษา ถือเป็นวัยคุณย่าหรือคุณทวดได้เลยวันที่โดนัลด์และเมลาเนียทรัมป์เข้าเฝ้าพระราชินีแห่งอังกฤษนั้นเป็นวันดีมาก นั่นคือวันศุกร์ที่ 13 ทั้งคู่แสดงมารยาททรามต่อพระราชินีอังกฤษอย่างไม่น่าเชื่อ เริ่มด้วยการที่สองผัวเมียไม่ยอมคำนับและถอนสายบัวต่อพระราชินีทั้งที่มีการบอกให้ทำ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมทำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสามัญสำนึกแท้ๆคงเพราะยโสถือดีในความเป็นเบอร์ใหญ่ของโลก เลยทำให้ประธานาธิบดีอเมริกากล้าเสียมารยาทต่อพระราชินีอังกฤษ เท่านั้นยังไม่พอ โดนัลด์กับเมลาเนียทรัมป์ ต้องร่วมงานดื่มน้ำชากับพระราชินีอังกฤษ แต่ปรากฎว่าปล่อยให้พระราชินีคอยเป็นเวลานานจนถึงกับต้องยกพระกรขึ้นทอดพระเนตรนาฬิกา คือเอาง่ายๆหากนัดกับหญิงชราอายุ 92 ปี สักคน แม้จะไม่ได้เป็นพระราชินีก็แย่แล้วที่มาสาย แถมให้คุณยายยืนรอแบบนั้น ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ถือเป็นการไม่ให้เกียรติอย่างร้ายแรง อย่าเพิ่งถอนหายใจความไร้มารยาทของทรัมป์ยังไม่จบลงเพียงแค่นี้ ทรัมป์เดินนำหน้าพระราชินีแห่งอังกฤษโดยหันหลังให้พระราชินีจนพระราชินีผู้มีพระชนมายุมากแล้ วต้องเป็นฝ่ายเดินอ้อมหลบทรัมป์ออกไปทางด้านขวา นักวิจารณ์ในอังกฤษถึงกับเอาไปเขียนแซวว่า พระราชินีทำท่าเหมือนสอนหมาให้หัดเดินอย่างมีวินัยประมาณนั้น
ภาพที่ปรากฎต่อตาชาวโลกเรียกเสียงด่ากระหึ่มขึ้นมาทันที กลุ่มผู้ประท้วงชาวอังกฤษส่วนใหญ่ต่อต้านแนวคิดฝ่ายขวาการเหยียดเชื้อชาติผู้อพยพรวมถึงนโยบายที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนและเป็นเผด็จการของทรัมป์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งพอมาเจอมารยาททรามของทรัมป์ยิ่งเหมือนราดน้ำมันลงบนกองเพลิง ผลสำรวจพบว่าชาวอังกฤษราว 77% ของกลุ่มตัวอย่าง 1,648 คน มีทัศนคติด้านลบต่อทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายพรากผู้ลี้ภัย แต่ลุงทรัมป์ก็ยังไม่วายคุยโวว่าคนอังกฤษนั้นชื่นชมตนเองมาก ชาวอังกฤษจำนวนมากไม่พอใจที่ทรัมป์แทรกแซงกิจการภายในตลอดจนตำหนิผู้นำประเทศตนผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากออกมาตำหนิติเตียนทรัมป์ในจำนวนนี้ มีสส.ของอังกฤษหลายคนทั้งที่มาจากพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน ก่นด่าทรัมป์ว่าหยาบคายและจงใจดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถึงโดนัลด์ ทรัมป์จะออกจากอังกฤษไปสก็อตแลนด์อันเป็นบ้านเกิดของแม่ตนเองก็ตาม อย่าคิดว่าจะรอดเพราะการประท้วงผุดสะพรั่งขึ้นมาทันตาเห็นคงต้องรอดูจนจบทริป ว่าตาลุงผมเป๋จะแผลงฤทธิ์อย่างไรจากนี้ไป
......................................................................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี