ต่อภัสสร์: พ่อครับ พ่อเคยไปรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐแล้วได้รับประสบการณ์ดีๆหรือแย่ๆมาบ้างไหมครับ
ต่อตระกูล:เคยสิ และเคยไปรับบริการมาหลากหลายรูปแบบด้วย ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องที่ต้องจัดการในฐานะวิศวกรที่ปรึกษาโครงการก่อสร้าง และเรื่องตามหน้าที่ที่คณะกรรมการชุดต่างๆโดยอำนาจรัฐมอบหมายให้ ทำให้เคยได้รับประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ดีมากๆก็พบบ่อย เช่น บางแห่งมีเจ้าหน้าที่มาคอยให้คำแนะนำ ดูแลอย่างใส่ใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปจนพ้นพื้นที่สำนักงานนั้นออกมา แบบนี้อยากแสดงความชื่นชมให้คนอื่นได้รู้ทั่วกันมากกว่าแค่คำขอบคุณที่ให้ไปในวันนั้น
แล้วก็มีอีกพวกหนึ่ง ที่เหมือนจะไม่อยากให้บริการประชาชนเลย ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่รู้สึกได้ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป นอกจากเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่จะไม่สนใจแล้ว ส่วนที่เหลือยังส่งสายตาบ่งบอกความรำคาญใจเสียอีก มากไปกว่าความรู้สึกไม่ต้อนรับ การให้บริการยังช้า ข้อมูลก็ไม่มีให้ บางทีต้องให้กลับบ้านไปเอาเอกสารเล็กๆ น้อยๆ มาเพิ่มเติม กว่าจะกลับมาถึงอีกทีก็ปิดทำการเสียแล้ว
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการรับบริการจากหน่วยงานรัฐบางแห่งยังไม่จบแค่นี้ เพราะเมื่อมีความขัดข้อง หรือความล่าช้าแล้ว ก็จะมีคนในบางกลุ่มที่รอหาประโยชน์ เรียกรับสินบนเพื่อเร่งกระบวนการหรือปล่อยให้ไม่ต้องมีเอกสารครบก็ผ่านได้ โดยอาจจะร่วมมือกับคนนอกให้ไปเรียกรับค่าบริการอยู่หน้าสำนักงานเลยว่า ถ้ายอมจ่ายคนนี้เพิ่ม รับรองผ่านแน่และผ่านเร็วด้วย เป็นการเอาเปรียบประชาชนคนอื่นๆที่ทำถูกต้องตามระเบียบ
สำหรับใบอนุญาตโครงการใหญ่ๆที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมากๆ บางแห่งก็มีการดึงเรื่องด้วยวิธีต่างๆ เช่น บอกว่าเอกสารไม่ครบ มีจุดบกพร่องขอให้เขียนเพิ่มหนึ่งคำ ต้องกลับไปแก้ไข หรือรอผู้ใหญ่ลงนาม ฯลฯ แต่เมื่อไหร่ที่ยอมจ่ายสินบน ข้อแย้งต่างๆเหล่านี้ก็จะหายไป เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เอกสารผ่านการอนุมัติด้วยความรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้ ดูเหมือนสินบนจะเป็นทางออกง่ายๆสำหรับสังคมแบบนี้ แต่ต้องอย่าลืมว่าเงินทุกบาทที่จ่ายออกไป มันเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เพราะใบอนุญาตต่างๆ ถ้าผู้ขอรับทำตามเกณฑ์ที่กำหนดได้แล้ว ก็ต้องได้รับการอนุมัติโดยรวดเร็ว ไม่ต้องจ่ายสินบน แบบนี้ทำให้นักลงทุนไม่อยากมาลงทุนด้วยเพราะต้นทุนมันสูง สุดท้ายผู้รับผลกระทบคือระบบเศรษฐกิจชาติ และคนไทยทุกคน
ต่อภัสสร์: ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้ว พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการพ.ศ.2548 ที่มีเนื้อหาให้ทุกหน่วยราชการต้องจัดทำเอกสารแสดงถึงขั้นตอนและเวลาในการพิจารณา เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ ชัดเจน มีความสะดวกในการยื่นคําขออนุญาตดําเนินการต่างๆสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ไปได้บ้างไหมครับ
ต่อตระกูล: แน่นอน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯเป็นความหวังของชาติเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนี้ถ้าใครไปขอรับบริการหน่วยงานรัฐที่ไหน สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเอกสาร ขั้นตอน ค่าธรรมเนียม และระยะเวลา ได้หมด ผ่านทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน หรือแอพลิเคชั่น “คู่มือประชาชน” ที่สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์จัดทำขึ้นมา
แต่แค่นี้ก็ยังไม่พอ เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้เขียนขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน เราจะรอให้รัฐบาลมาสนับสนุนแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ประชาชนต้องลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันเองด้วย ล่าสุดพ่อได้เห็นประชาสัมพันธ์เปิดตัว โครงการ “สังคมดี๊ดี 2 นาทีง่ายๆ” โดยจะช่วยสนับสนุน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯนี้ มันเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อยสิ
ต่อภัสสร์:โครงการนี้ก็เป็นการร่วมมือกันของประชาชนและภาคเอกชนที่ต้องการจะพัฒนาปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงานรัฐ โดยให้ผู้รับบริการจากรัฐแสดงความคิดเห็นและความพึงพอใจผ่านแบบสอบถามออนไลน์ โดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ทุกคนมีอยู่ในมือนี่ล่ะครับ
แนวคิดโครงการนี้ก็มาจากประสบการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีอย่างที่พ่อเล่ามาข้างต้น เมื่อมี พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯออกมาบังคับใช้แล้ว ข้อมูลต่างๆก็มีมากขึ้น แต่ประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ ด้วยความไม่รู้หรือเข้าถึงได้ยากของตัวข้อมูลเอง เครื่องมือที่รัฐบาลให้มาเพื่อช่วยประชาชนก็ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เราอยากแนะนำหน่วยงานรัฐ แต่ช่องทางคือ เขียนใส่กระดาษแล้วใส่กล่องรับความคิดเห็นใสๆตั้งอยู่กลางสำนักงาน ใครหยอดไปเจ้าหน้าที่ก็รู้หมด ครั้งหน้ามารับบริการ มีหวังโดนไล่ไปคิวสุดท้ายแน่ๆ หรือแม้กระทั่งสายด่วนต่างๆ ที่มีอยู่หลายสิบเบอร์ ติดป้ายอยู่ทั่วสำนักงาน เริ่มต้นก็ไม่รู้จะแจ้งใครแล้ว และโทร.ไปมักจะสายไม่ว่าง มากไปกว่านั้นก่อนจะร้องเรียนได้ ต้องแจ้งชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชนอีก ไม่รู้เขาจะเอาไปทำอะไร เพราะคนที่เราร้องเรียนด้วยก็เจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันทั้งนั้น สุดท้ายก็ต้องปล่อยผ่านไป
ต่อจากนี้ ข้อมูลชมเชยและคำแนะนำต่างๆจะถูกบริหารจัดการโดยประชาชนด้วยกันเองและเปิดเผยสู่สาธารณะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินด้วย เพื่อกดดันให้หน่วยงานรัฐนั้นๆ ต้องปรับตัว ผ่านโครงการ “สังคมดี๊ดี 2 นาทีง่ายๆ” ซึ่งชี้แจงขั้นตอนการใช้งานง่ายๆว่า ให้ประชาชนใช้ “วิธีสแกน QR Code ที่ติดอยู่ที่หน่วยงานที่ไปใช้บริการ นำไปสู่การตอบแบบสอบถามสั้นๆ ที่ใช้เวลาเพียง 2 นาที โดยผู้ตอบสามารถให้คะแนนความพึงพอใจของบริการที่ได้รับ ระบุถึงความประทับใจ และอุปสรรคที่พบจากการใช้บริการ รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายสินบนด้วย ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามสามารถให้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ต้องเปิดเผยตัวตน และสามารถติดตามผลการประเมินได้ตลอดเวลา”
ตอนนี้โครงการเริ่มทดสอบระบบแล้วกับ 5 หน่วยงานรัฐ ได้แก่ 1.ฝ่ายทะเบียน กรมขนส่งทางบก 2.ศูนย์รับขอใบอนุญาตสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 3.สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร 4.สำนักงานที่ดินสาขาห้วยขวาง และ 5.สำนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรี โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย (TMRS) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และ HAND Social Enterprise โดยการประสานงานผ่านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
ผู้สนใจสามารถติดตามโครงการได้ที่เว็บไซต์ http://www.easyfeedback.org นะครับ
ต่อตระกูล: โครงการแบบนี้ต้องให้การสนับสนุนให้สามารถขยายผลได้ และประชาชนควรจะได้ไปใช้จริงด้วย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและผลประโยชน์ของเราเอง จะได้ร่วมกันสร้างสังคมที่ “ดี๊ดี” ผมเองก็คงต้องขอไปทดลองใช้สักครั้งหนึ่งด้วยแล้วครับ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี