การช่วยเหลือคนจนด้วยการพัฒนาให้ช่วยตัวเองได้ด้วยการฝึกอาชีพ จากรัฐบาลภายใต้การนำของรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา ซึ่งแม้ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเพราะเป็นรัฐบาลทหารที่ทำการรัฐประหารจากรัฐบาลประชาธิปไตยจอมปลอมที่ทำให้เกิดความไม่สงบจนเกือบทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐที่ล้มเหลว
การรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. นำความสงบสุข ยุติความแตกแยกได้สำเร็จและบริหารประเทศมากว่า 3 ปี แล้วกำลังนำการปกครองระบอบประชาธิปไตย (แม้จะไม่เต็มใบ)กลับคืนสู่สังคมไทย อย่างไรก็ดี ปัญหาที่คงอยู่ในสังคมไทยในปัจจุบันและอนาคตที่สำคัญ คือ ปัญหาทางเศรษฐกิจ และปัญหาสังคมที่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำของประชาชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย
รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พยายามแก้ไขทั้งด้านนโยบายและด้านบริหาร แต่ปัญหายังคงมีอยู่ แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบมาหลายครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่รับผิดชอบซึ่งประกาศการปรับครม.ใหม่แล้ว คาดว่าเป็นที่ยอมรับต่อสังคม หวังว่าจะแก้ปัญหาถูกทาง เว้นแต่
ผู้รับผิดชอบในเรื่องที่เป็นปัญหาบางคน ที่ยังมีบทบาทสูงในเรื่องดังกล่าวจะยอมรับในแนวทางของผู้ที่จะมารับผิดชอบใหม่
อย่างไรก็ดี แนวคิดในเรื่องที่รัฐบาลพยายามแก้ไขในเรื่องเศรษฐกิจที่ผ่านมา ที่จะช่วยคนจนแต่กลับทำให้เกิด “รวยกระจุกจนกระจาย” แม้รัฐบาลประกาศตัวเลขว่าเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามลำดับ แต่ทำไมคนชั้นกลาง ถึงชั้นล่าง ยิ่งจนลง แสดงว่านโยบายการกระจายรายได้มีปัญหา จนทำให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยคนยากจนซึ่งวิธีการดังกล่าวดูแล้วเหมือนจะเป็นมาตรการที่ดี แต่ผลที่ออกมากลับทำให้คนบางกลุ่มได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ เพราะเงินที่ช่วยคนจนกลับไหลไปสู่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น ส่วนคนจนก็คงยังจนเช่นเดิม
การแจกเงินแต่อย่างเดียว ไม่น่าจะใช่วิธีการช่วยคนจนที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรทำ คือ การทำอย่างไรที่จะให้คนยากจนเหล่านั้นช่วยตัวเองได้ ไม่ใช่แบมือรับความช่วยเหลือจากรัฐอย่างเดียว
การพัฒนาประชาชนผู้ยากไร้ให้ยืนอยู่บนขาของตัวเองเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด การแบมือรับความช่วยเหลือไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกตามหลักวิชา วิธีที่ถูกต้อง คือ การปรับสภาพให้คนเหล่านั้นสามารถช่วยตัวเองได้ให้มากที่สุด ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนยากจน คนพิการทางร่างกาย คนพิการทางสมอง (ปัญญาอ่อน) แต่ถ้ารัฐบาลช่วยเสริมบ้างก็สามารถพัฒนาให้เขาเหล่านั้นช่วยตัวเองได้ แม้จะไม่ทั้งหมด ก็ดีกว่าเป็นขอทาน
สรุปรวมความว่า นโยบายช่วยคนจนนั้นมีหลายวิธีแต่ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องทำให้คนเหล่านั้น มีส่วนช่วยตัวเองด้วย ตามแนวทางพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 ว่า “ต้องยื่นเบ็ดให้ตกปลา แทนการยื่นปลาให้”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี