การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าด้วย “นาฬิกา” กำลังฮอต
หนึ่ง คือ นาฬิกาบนข้อมือของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ ป.ป.ช.เรียกให้ชี้แจงด่วนภายใน 30 วัน
อีกหนึ่ง คือ นาฬิกามูลค่า 2.5 ล้านบาท ตามที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยไปให้การอ้างไว้ในชั้นศาล ซึ่งถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบอยู่ก่อนหน้านี้เป็นปีแล้ว
สองเรื่องนี้ มีทั้งมุมเหมือนและประเด็นต่าง
1.ประเด็นของนาฬิกาบิ๊กป้อม คือ มีอยู่จริง เป็นเจ้าของจริงๆ แต่เจตนาไม่แจ้ง หรือซุกไว้รึป่าว
ส่วนนาฬิกาของนารีปู ประเด็นคือ ไม่มีอยู่จริง แล้วโกหกกับศาลฯ ว่ามี เพื่อหวังผลประโยชน์ทางคดีในตอนโน้น หรือว่ามีนาฬิกาซื้อมา 2.5 ล้านบาท ตามที่อ้างจริงๆ แต่เจตนาไม่แจ้งในบัญชีทรัพย์สิน?
2.กรณีนาฬิกาบิ๊กป้อม
ขณะนี้ ยังไม่รู้จริงๆ ว่ารุ่นไหน ได้แต่คาดการณ์ต่างๆ นานา บ้างก็บอกราคา 3.6 ล้านบาท บ้างก็บอก 10 ล้านบาท บ้างก็ว่าเกินนั้น
ได้มาเมื่อไหร่ ก็ยังไม่รู้ เพราะถ้าได้มาตั้งแต่ก่อนปี 2557 แล้วไม่แจ้งในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นเมื่อคราวเข้าดำรงตำแหน่งในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ปี 2557 ก็อาจจะเข้าข่ายซุกนาฬิกา แต่ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้มาภายหลังจากยื่นบัญชีทรัพย์สินไปแล้ว จะไปกล่าวหาว่าซุกนาฬิกาก็คงไม่ได้
ได้มาอย่างไร บิ๊กป้อมก็ต้องชี้แจง เพราะมีความสำคัญ เอาเงินส่วนไหนไปซื้อ? หรือใครให้มา?
หรือยืมใครมา?
ของจริงหรือของปลอม?
มีพยานหลักฐานอย่างไร?
รอดูคำชี้แจงก่อน ดีกว่าใครจะไปกล่าวหาบนฐานความรู้สึกไม่ชอบหน้าลุงแก ควรให้ความเป็นธรรม
ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีนายทหารระดับบิ๊กเคยถูกชี้มูลเรื่องบัญชีทรัพย์สิน ก่อนหน้านี้มีกรณีพลเอกระดับปลัดกระทรวงกลาโหม เคยถูกชี้มูลว่าจงใจปกปิดทรัพย์สิน ถูกดำเนินคดีจนศาลฎีกาฯ พิพากษาไปแล้ว
3.กรณีนาฬิกาปู
ขณะนี้ ยังไม่รู้จริงๆ ว่า รุ่นไหน หน้าตาอย่างไร นั่นก็เพราะไม่ปรากฏการแจ้งครอบครองนาฬิกามูลค่า 2.5 ล้านบาท ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามที่ยิ่งลักษณ์เคยไปอ้างในชั้นศาล
ที่หนักหนากว่านาฬิกาป้อม คือ คุณยิ่งลักษณ์ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินไปคอบทุกครั้งแล้ว ทั้งตอนเข้ามาเป็นนายกฯ ตอนพ้นจากตำแหน่งนายกฯ และตอนพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี
หากจะอ้างว่า ยังไม่ได้แจ้งรอบที่แล้ว อาจแจ้งตอนยื่นรอบหน้า ก็ไม่ได้แล้ว
แถม ป.ป.ช.เคยให้ชี้แจงและให้ยื่นเพิ่มเติมมาก่อนหน้านี้ หลายครั้ง ให้เวลานานข้ามปี แต่ก็ไม่ปรากฏว่าเธอจะได้ยื่นแสดงเข้ามาแต่อย่างใด
ล่าสุด มีข่าวว่า อนุป.ป.ช.สรุปสำนวนแล้ว รออนุฯ ตรวจความเรียบร้อยแล้วส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้ว่ามีมูลความผิดหรือไม่? อย่างไร?
4.ที่มาของกรณีนาฬิกาปู ที่ ป.ป.ช.จ่อจะชี้มูลแล้วนั้น
ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ส่งหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนาฬิการาคาเรือนละ 2.5 ล้านบาท ที่เจ้าตัวไปให้การต่อศาลฎีกาในการพิจารณาคดียึดทรัพย์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในทำนองว่า ตนได้ให้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาท แก่ น.ส.พินทองทา ชินวัตร หลานสาว (ลูกสาวของทักษิณ) ไปซื้อนาฬิกามาให้
โดยคำให้การในครั้งนั้น เพื่อหักล้างมิให้ถูกยึดทรัพย์ในคดีของทักษิณ พยายามอ้างอย่างจริงจังว่าตนจ่ายเงินค่าหุ้น บังเอิญว่าส่วนที่จ่ายเกินไป 2.5 ล้านบาท เป็นการคืนให้หลานสาวที่ไปซื้อนาฬิกามาให้
เรื่องนี้ เคยถูกนำไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรด้วย
ปรากฏว่า ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยิ่งลักษณ์ยื่นเมื่อเข้ารับตำแหน่ง ปี 2554 มีนาฬิกาอยู่ 9 เรือน ระบุว่าเป็นทรัพย์สินก่อนปี 2554 มูลค่ารวม 1,810,000 บาท (ไม่รวมเครื่องเพชร สิ่งประดับอื่นๆ อีกมากมาย) แบ่งเป็น
1.นาฬิกา ROLEX สายทองคำฝังเพชร มูลค่า 400,000 บาท
2.นาฬิกา ROLEX สายโลหะทองสลับสีเงินฝังเพชร มูลค่า 120,000 บาท
3.นาฬิกา PATEK PHILIPPE สายโลหะสีเงินฝังเพชร มูลค่า 250,000 บาท
4.นาฬิกา PATEK PHILPPE สายยางสีเทาดำ มูลค่า 280,000 บาท
5.นาฬิกา FRANCK MULLER สายหนังสีขาว มูลค่า 200,000 บาท
6.นาฬิกา TAG HEUER สายหนังสีดำฝังเพชร มูลค่า 120,000 บาท
7.นาฬิกา PIAGET สายหนังสีขาว มูลค่า 10,000 บาท
8.นาฬิกา CARTIER สายโลหะสีเงิน มูลค่า 150,000 บาท
และ 9.นาฬิกา CARTIER สายโลหะสีทองสลับสีเงิน มูลค่า 280,000 บาท
จนกระทั่งในการยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งสุดท้าย เมื่อพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อปี 2558 ก็ไม่ปรากฏข้อมูลนาฬิกา มูลค่าถึง 2.5 ล้านบาท
น่าสนใจว่า นาฬิการุ่นที่ยังมองไม่เห็นของยิ่งลักษณ์นี้ บ่งชี้ถึงอะไรบ้าง?
จำได้ว่า ตอนโน้น เพื่อจะสมอ้างว่าตนเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ยิ่งลักษณ์ยังกล้าอ้างต่อศาลด้วยว่า นำเงินไปตกแต่งบ้านทำสวน ทำสนามฟุตบอลและสระว่ายน้ำประมาณ 20 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 6 ล้านบาท ซื้อทองคำแท่ง 13 ล้านบาท ซื้อเครื่องเพชรและเครื่องประดับ 11 ล้านบาท ซื้อเงินตราต่างประเทศประมาณ 10 ล้านบาท และสำรองไว้ที่บ้าน 8 ล้านบาท มิได้นำส่งคืนทักษิณและคุณหญิงพจมาน
แต่ไม่มีหลักฐานมายืนยันการใช้เงินสด 68 ล้านบาท ศาลฎีกาฯ สรุปว่า ข้ออ้างรับฟังไม่ได้
ยังมีเรื่องมหัศจรรย์อีกเยอะสำหรับอภินิหารเรื่องทรัพย์สินของนักการเมือง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี