ในวันสองวันที่จะมาถึงนี้ก็จะสิ้นปีเก่า ขอถือโอกาสส่งท้ายปีเก่าด้วยพรปีใหม่ของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งได้มีลายพระหัตถ์เชิญพระพุทธภาษิตเป็นพระคติธรรม ประทานพรสำหรับความสุขปีใหม่ พ.ศ.2561 โดยมีข้อความว่า “สติมโต สทา ภทฺทํ.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ” มายังท่านผู้อ่านทุกท่านด้วยในวันนี้
เป็นพรปีใหม่ที่ประเสริฐยิ่งทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม
เพราะสติเป็นเครื่องระลึกและเป็นเครื่องกั้นความไม่ดีทั้งหลายไม่ให้เกิดขึ้น เป็นสติที่อุปการะแก่ปัญญาโดยตรง ไม่ว่าจะทำอะไร ควรทำหรือไม่ควรทำ
คนขาดสติเป็นคนไม่รู้จักผิด ไม่รู้จักถูก ไม่รู้จักดี ไม่รู้จักชั่ว ทำอะไรลงไปตามใจชอบเพราะจิตใจไม่เคยได้รับการดูแลรักษาด้วยความมีสติ เหมือนคนที่ปราศจากพ่อแม่ในการดูแล ขาดการอบรมบ่มนิสัยในการทำความเห็นให้ถูกต้อง คนอย่างนี้เมื่อถูกอารมณ์ที่ชอบใจ ก็จะดีใจ แต่เมื่อถูกอารมณ์ที่ไม่ชอบใจแล้ว จิตใจก็จะขุ่นมัว ไม่สบาย เหมือนกับน้ำในแก้ว ถ้าถูกสีเขียวก็จะเขียวไป ถูกสีแดงก็จะแดงไป เปลี่ยนสีไปเรื่อย
คนผู้ไม่มีสติจะเป็นคนที่ไม่รู้จักผู้น้อยผู้ใหญ่ ถูกกิเลสคือ โลภะ โมหะ และโทสะ เข้าครอบงำได้ง่าย จะเป็นคนที่ขาดความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา กวัดแกว่งไปตามใจชอบ ถ้าเป็นคนอย่างนี้และเป็นคนที่ต้องมีหน้าที่การงานสูง หรือเป็นผู้มีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองด้วยแล้ว ย่อมเป็นคนที่ไม่สามารถนำความเจริญมาสู่ตนและบ้านเมืองในส่วนรวมของประเทศได้เลย
จะถูกด่าถูกแช่งไปทั้งโคตร
ผู้นำ ผู้บริหาร ผู้ปกครอง ต้องมีสติกำกับจิตใจตนเสมอว่า ตนมีหน้าที่ซื้อความทุกข์ของผู้คนในสังคม หรืออยู่ในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบ ต้องปลงใจตนเองให้ได้อย่างมีสติว่า จะซื้อความทุกข์ของผู้คนในสังคมมาสู่ตน และขายความสุขของตนให้ผู้อยู่ในสังคมนั้นๆ ถ้าไม่มีสติคอยกำกับจิตใจตนไว้อย่างนี้ กลับคิดอ่านเดินหน้าไปเรื่อยๆตามใจชอบอย่างที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้แล้ว ความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองก็ยากจะเกิด และมีแต่ทรุดลง ทรุดลงเรื่อยๆ อย่างที่กำลังเห็นกันอยู่ขณะนี้
จะปั้นแต่งคำพูดที่สวยหรูอย่างใดออกมาให้ผู้คนคล้อยตามนั้น ก็ยากที่จะได้รับความเชื่อถือ ความเสื่อมที่จะเกิดขึ้นกับตนจะเป็นผลพวงตามมาเพราะดีแต่พูด
เรื่องของความโกรธก็เช่นเดียวกันที่ต้องคอยมีสติกำกับอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ใครพูดอะไรผิดหูนิดหน่อย หรือใครถามอะไรที่แทงใจ ไม่ถูกใจก็เอะอะ โว้กว้ากชี้ไม้ชี้มือ สวนกลับด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมเป็นต้น ผู้นำผู้บริหารที่ดีและมีสติกำกับจะไม่เป็นคนอย่างนี้
จำสำนวนนี้ให้เป็นสติคอยกำกับให้ดีว่า “โกรธเขา เราร้อน”
แม้พระพุทธองค์ก็เคยตรัสถึงโทษความโกรธ 7 ประการ
1.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว แม้จะอาบน้ำ ไล้ทาผิว ตัดผม โกนหนวด นุ่งผ้าขาสะอาดก็ตาม แต่ถูกความโกรธครอบงำแล้ว ย่อมเป็นผู้ผิวพรรณทราม
2.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว แม้จะนอนบนที่นอนอย่างดี มีหมอนหนุนหัวหนุนเท้าก็ตาม แต่ถูกความโกรธครอบงำแล้ว ย่อมนอนเป็นทุกข์
3.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว แม้จะถือเอาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็สำคัญว่าเราถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือแม้จะถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ ก็สำคัญว่าเราถือเอาสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ นี้ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายตลอดกาลนาน
4.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว แม้จะมีโภคทรัพย์ที่หามาโดยชอบธรรม ด้วยความขยันหมั่นเพียร อาบเหงื่อต่างน้ำ ก็มักถูกริบโภคทรัพย์เพราะจะมีเหตุ หรือเกิดเหตุต่างๆ ที่เกิดตามมาจากการกระทำของตน
5.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธเข้าครองงำ แม้จะได้ยศมาเพราะความไม่ประมาท ก็เสื่อมจากยศนั้นได้
6.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว แม้เขาจะมีมิตรสหาย แม้มิตรสหายเหล่านั้นก็เว้นเขาเสียห่างไกล
7.คนผู้โกรธ ถูกความโกรธครอบงำย่ำยีแล้ว ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจาใจ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงทุคติ
นี่คือธรรม 7 ประการที่จะมาถึงผู้มีความโกรธ
เพราะฉะนั้น เวลาเอะอะ โว้กว้าก โมโหโทโสกับใครก็ตามที่เขาถามเรื่องบางสิ่งบางอย่างที่เขาสงสัย หรือผู้คนในบ้านเมืองสงสัย โดยเฉพาะในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน ความโกรธคนที่มาถามก็หาได้ทำให้เขาพินาศไปไม่ แต่ตรงกันข้ามจะทำให้ความโกรธของเรานั่นแหละที่จะทำลายตัวเราเองให้เสื่อมเสีย เป็นที่ชิงชังหรือขบขันนำไปล้อเลียนให้สนุกสนาน
เพราะ “โกรธเขา เราร้อน” นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นความโกรธประเภทไหนที่แสดงออกมาด้วยคำพูดหรือกิริยาท่าทางในรูปแบบต่างๆ เช่น โกรธจัด กัดติด หงุดหงิด จิตขุ่นมัว ตัวสั่น ศรศิลป์ไม่กินกัน ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด เดือดดาลรำคาญใจ ไฟสุมขอน รุ่มร้อนใจ เป็นฟืนเป็นไฟ เจ็บใจนักเชียว โกรธจนหน้าเขียว หน้าบูดหน้าเบี้ยว เป็นต้น
ถ้าเป็นคนที่มีสติคอยกำกับจะไม่เป็นคนอย่างนี้
เพราะ “คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ” นั่นเอง ตามที่สมเด็จพระสังฆราชฯทรงได้ประทานพรปีใหม่มายังทุกคน และเป็นชื่อเรื่องในวันนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี