เรื่องของถ้ำและอุโมงค์ของประเทศไทย เป็นเรื่องฮือฮาลือลั่นสนั่นโลก ซึ่งสื่อทุกชนิดทุกประเภท ทั้งในประเทศและทั่วโลกพากันเสนอข่าวกันอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ทีมฟุตบอลหมูป่าหลงหายเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนของจังหวัดเชียงราย
ครั้งทีมฟุตบอลที่สูญหายทั้ง 13 คน ถูกค้นพบและมีชีวิตอยู่ด้วยความปลอดภัยทุกคน ก็เป็นที่ยินดีปรีดาของคนทั้งหลาย ไม่ว่าคนไทยหรือชาวโลกซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเมตตาและไมตรีจิตของคนนั้นไร้ขอบเขต ไร้พรมแดน และไม่มีชั้นวรรณะ
ดังนั้น ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งมีลักษณะเป็นทั้งถ้ำ เป็นทั้งอุโมงค์ รวมทั้งตำนาน หรือเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับเจ้านางและรูปลักษณะของภูเขาแห่งนั้นที่มีลักษณะเหมือนนางนอน
จึงเป็นข่าวคราวดังลั่นสนั่นโลก โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว และเป็นจุดสนใจของคนทั้งหลาย
อันเป็นทางให้คิดและเข้าใจได้ว่า นับแต่จากนี้ไปจึงคาดหมายได้ว่าจะมีผู้คนและนักท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศพากันขึ้นไปเยี่ยมชมถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนแห่งนี้ และอาจถึงขนาดทำให้พื้นที่แห่งนี้ รวมทั้งพื้นที่ข้างเคียง แม้กระทั่งจังหวัดเชียงรายจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ติดอันดับโลกต่อไปในอนาคต
ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ และปัญญาทัศนะ ของคนมีอำนาจหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ว่าจะบริหารจัดการ หรือคิดอ่านวางแผนอย่างไร จึงจะบังเกิดประโยชน์สุขแก่มหาชน โดยเฉพาะทั้งแก่ชาวเชียงรายชาวภาคเหนือ และคนไทยทั่วประเทศ
เพราะเหตุการณ์นี้มีฐานะเท่ากับว่า ฟ้าประทานโอกาส และแสงสว่างแห่งความรุ่งเรือง โดยเฉพาะทางรายได้และเศรษฐกิจแก่ประชาชนและคนพื้นที่ทั่วประเทศไทยแล้ว จะหยิบจะฉวยให้เป็นมรรคเป็นผลกันอย่างไร ย่อมเป็นเรื่องที่คนทั้งหลายเฝ้ารอคอยว่าจะเอาอย่างไรกัน
คือจะแยกป่า แยกคน ไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือใช้ประโยชน์กันเหมือนแต่ก่อน ซึ่งจะทำลายโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ หรือว่าจะเตรียมการปรับปรุงพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ระดับโลก
ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทรัพยากรท่องเที่ยวให้ทรงคุณค่าอย่างถาวร เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ตลอดไปตลอดกาล
ก็ต้องบอกให้ทราบว่า แผ่นดินประเทศไหนๆ เขาก็มีทั้งป่าไม้ วนอุทยาน อุทยาน ต้นน้ำลำธาร น้ำตก ภูเขา ถ้ำ และอุโมงค์ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งทุกประเทศต่างก็ทะนุถนอมไว้เป็นทรัพยากรสำคัญของชาติทั้งสิ้น จึงอย่าได้คิดเข้าใจผิดว่า จะมีอยู่เฉพาะที่ประเทศไทยและใช้ทำการใดๆ ไม่ได้
ในบรรดาประเทศทั้งหลายนั้น เขามีแบบแผนวิธีที่จะบริหารจัดการให้คนได้ใช้ประโยชน์ในสรรพสิ่งเหล่านี้ จึงเรียกว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และอาศัยเอาการท่องเที่ยวนั่นแหละ เป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติล้ำค่านี้ไว้ โดยทุกคนช่วยกันดูแลหวงแหน ไม่ใช่หวงกันไม่ให้ใครเกี่ยวข้องแล้วปู้ยี่ปู้ยำกันดังที่เห็นเป็นอยู่ในบ้านเมืองของเรา
ใกล้ๆ นี้ก็ดูประเทศจีน พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เขาก็รู้จักพัฒนา ปรับปรุง อนุรักษ์ ทรัพยากรอันล้ำค่านี้ ให้เกื้อกูลต่อเศรษฐกิจประเทศและประชาชน โดยบริหารจัดการให้มีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ร่วมทะนุถนอมดูแลรักษาไปพร้อมกัน ก็จะเป็นประโยชน์อย่างทั่วด้านประเทศไทยของเรานี้ นอกจากมีถ้ำและอุโมงค์ธรรมชาติ ที่ยังขาดการสำรวจอย่างทั่วถึงจนกลายเป็นดินแดนอันตรายดังเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว ประเทศไทยของเรายังมีอุโมงค์ประวัติศาสตร์ที่มากและยาวที่สุดในไม่กี่ประเทศของโลก
นั่นคือ อุโมงค์ที่พรรคคอมมิวนิสต์มลายาได้ขุดขึ้นไว้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อทำสงครามต่อต้านการโจมตีของญี่ปุ่นและอังกฤษ
อุโมงค์เหล่านี้ มีความยาว มีความลึก และมีความกว้าง ติดระดับโลก และยิ่งใหญ่กว้างอุโมงค์ท่องเที่ยวของเวียดนามมาก เพราะเวียดมินห์ขุดอุโมงค์เหล่านั้นได้ ก็เพราะมาเรียนรู้จากพรรคคอมมิวนิสต์มลายานั่นเอง
นี่ก็เป็นทรัพยากรท่องเที่ยว สำคัญของชาติ แต่ยังคงหมกอยู่ในป่าไร้ความเหลียวแล รอวันคืนให้ผู้มีสติปัญญามาบริหารจัดการ เพื่อประโยชน์แห่งชาติสืบไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี