วันแม่แห่งชาติจะเวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่งแล้ว ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้จึงเป็นการอันควรที่คนทั้งหลายจะได้น้อมนำรำลึกถึงพระคุณแม่ซึ่งจะบังเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนฝ่ายเดียว เพราะการนี้เป็นการแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรมแก่มารดาผู้มีพระคุณ
ซึ่งกตัญญูนั้นเป็นธรรมที่เป็นเครื่องหมายของความดีและคนดี การกระทำกตัญญูกตเวทีเป็นมงคลสูงสุดดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในมงคล 38 นั้น
อันพระคุณแม่นั้น ประกอบด้วย พระคุณของแม่บังเกิดเกล้าสถานหนึ่ง พระคุณของแม่พระธรณีสถานหนึ่ง พระคุณของแม่แห่งแผ่นดินสถานหนึ่ง และพระคุณของแม่ซื้อและแม่ซื่ออีกสถานหนึ่ง รวมเป็น 4 สถานที่เราทั้งหลายพึงจะกระทำกตัญญูกตเวทีในกาลวันแม่แห่งชาติ ที่จะเวียนมาถึงนี้
อันแม่บังเกิดเกล้านั้น คนทั้งหลายย่อมมี ย่อมรู้ ย่อมสำนึกถึงแม่บังเกิดเกล้ากันอยู่ทุกคน เพราะเป็นแม่ที่ให้กำเนิดเกิดมาเป็นคน ทั้งได้ทำนุบำรุงกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู รักษา มาตั้งแต่น้อย แล้วยังให้การอบรมสั่งสอนให้รู้จักกิจทั้งหลายของมนุษย์ ครั้นเติบใหญ่แล้วก็จัดแจงหาเหย้าเรือนให้มีหลักฐานเป็นฝั่งฝา มีหน้าที่การงาน มีรายได้และอาชีพที่จะเลี้ยงตัวไปในภาคหน้า
พระคุณนี้ล้ำค่าล้นเหลือ จะมีบ้างก็เป็นส่วนน้อยที่วิปริตแปรปรวนไป เช่น มีลูกแล้วก็ทอดทิ้งไม่เหลียวแล หรือไม่ก็ใช้ลูกเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ซึ่งต้องถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะการกระทำเยี่ยงนั้น ไม่ใช่การกระทำของแม่ ถึงเป็นแม่ก็ไม่ใช่แม่
แต่สำหรับผู้เป็นลูก ความเป็นแม่ลูกย่อมผูกพัน หากทำกตัญญูกตเวทิตาได้ ไม่ว่าเพียงไหนความเป็นมงคลก็ย่อมบังเกิดขึ้นเพียงนั้น
แม่ที่สองคือพระแม่ธรณี ที่เป็นถิ่นแดนเกิดเป็นที่พัดพาอาศัยเป็นที่อยู่ที่กิน แม้กระทั่งเป็นเรือนตาย พระแม่ธรณีนี้สมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ และบรรพบุรุษไทยทั้งหลายได้ก่นสร้างบำรุงรักษาป้องกันไว้ให้ตกทอดมาถึงเหล่าท่านทั้งหลายได้ใช้เป็นถิ่นเกิดแดนตายอยู่ในวันนี้
พระแม่ธรณีจึงมีพระคุณล้นเหลือ อันพึ่งกระทำกตัญญูกตเวทิตาธรรม ด้วยความสามัคคีกลมเกลียวกันภายในชาติ ร่วมกันพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งเอกราชอธิปไตย ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของชาติ น้อมจิตน้อมใจร่วมใจกันถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า พระผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน หรือพระแม่ธรณีนี้ด้วยความเสียสละกล้าหาญ กล้าที่จะยอมพลีแม้ชีวิต เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพตลอดกาลนาน
แม่ที่สามคือพระแม่แห่งแผ่นดิน พระแม่เจ้าของชาวไทยคือสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9พระผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาคุณ พระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย ตลอดมาเป็นเวลาช้านาน
ตลอดระยะเวลาอันยาวนานแห่งรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทุ่มเทและอุทิศพระองค์เพื่อทำนุบำรุงอาณาประชาราษฎรให้ร่มเย็นเป็นสุข โดยไม่เคยคำนึงถึงความยากลำบากพระวรกายแห่งพระองค์เลย
ทรงทุ่มเทพระสติปัญญาปฏิภาณคิดอ่านการมากหลาย เพื่อสร้างอาชีพ สร้างโอกาส สร้างฐานะให้แก่พสกนิกรของพระองค์ทรงอนุรักษ์พิทักษ์ไว้ ซึ่งภูมิปัญญาอันเป็นมรดกแห่งชาติในทุกสาขา ให้ตกทอดสืบต่อไปยังชนรุ่นหลัง ซึ่งจะเป็นมรดกแห่งความเป็นไทยตลอดไปชั่วกาลนาน
พระคุณนี้หาที่สุดไม่ได้ แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว พระองค์ก็ยังทรงดำรงอยู่เพื่อเป็นมิ่งขวัญให้แก่อาณาประชาราษฎรทั้งปวง ให้สร่างโศกสร่างทุกข์ในน้ำใจที่ถวิลย์หาอาลัยถึงพระมหาราชเจ้าพระองค์นั้น เพราะยามใดที่ราษฎรได้เห็นพระองค์ไม่ว่าโดยทางใดๆ แม้ในโทรทัศน์ แม้ภาพยนตร์แห่งอดีต ก็ย่อมมีความรู้สึกเป็นอย่างเดียวกันว่า ทั้งสองพระองค์ยังคงสถิตอยู่คู่กันเป็นทั้งมิ่งและขวัญให้กับคนไทยไปตลอดกาล
แม่ที่สี่ คือแม่ซื้อหรือแม่ซื่อ หรือแม่ขวัญ ที่ประจำอยู่คู่กายของคนเราทุกคน ทำหน้าที่เป็นทั้งสติและปัญญา ให้สมกับฐานะเวไนยสัตว์ เพื่อถึงเพื่อความประเสริฐสมกับที่ได้เกิดมาเป็นคน
คนเราเกิดมาชีวิตหนึ่ง ประกอบขึ้นด้วยกายใจ ซึ่งเป็นทั้งส่วนรูปส่วนนาม ส่วนที่เป็นนามนั้นแหละจะเรียกว่าจิตหรือใจหรือจะเรียกว่าวิญญาณประการใดๆ ก็อนุโลมรวมกันว่าเป็นแม่ซื้อ แม่ซื่อ หรือแม่ขวัญ
จัดว่าเป็นส่วนสำคัญของความเป็นคนเพราะหากขาดแม่ที่สี่นี้ กำกับกายเมื่อใดแล้วชีวิตมีก็เหมือนไม่มี และอาจถึงขั้นไม่มีชีวิตอยู่สืบไปด้วย ดังนั้นจึงพึ่งกระทำกตัญญูกตเวทีต่อแม่ซื้อหรือแม่ซื่อนี้ ด้วยกรรมสามอย่าง คือ
การละการทำบาปทั้งหลาย ซึ่งเป็นส่วนหยาบ เป็นส่วนที่เกิดขึ้นและแสดงออก ไม่ว่ากายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี หรือด้วยทิฐิมานะประการใดก็ดี ที่จะทำให้ตนเองเดือดร้อนภายหลัง หรือยังความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ล้วนเป็นกรรมอันเป็นบาป อันพึงละทั้งสิ้น
การทำความดีให้ถึงพร้อมทั้งส่วนกายวาจาใจของตน ทั้งความดีที่จะบังเกิดขึ้นแก่ตน และทั้งความดีที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้อื่น หรือให้ถึงพร้อมทั้งประโยชน์ส่วนตนและส่วนท่าน
ในประการสุดท้ายก็คือการทำจิตใจให้ผ่องใสผ่องแผ้ว ไม่วอกแวกวุ่นวายหรือเศร้าหมองมีความตั้งมั่นแน่วแน่อยู่กับความดีความงามทั้งหลาย มีความบริสุทธิ์ผุดผองขึ้นในใจที่ใสสว่างขึ้นโดยลำดับ ฝึกฝนให้จิตใจนี้มีกำลังมีอำนาจที่สามารถทำหน้าที่การงานของใจได้ตามควรแก่หน้าที่ และตามโอกาสตามกาลที่พึงกระทำได้
ดังนี้จึงได้ชื่อว่ากระทำกตัญญูกตเวทีต่อแม่ทั้ง 4 ซึ่งมีแต่จะบังเกิดความสุขความเจริญสถานเดียวไม่ตกอยู่ในความเสื่อมหรือความพ่ายแพ้ในที่ทั้งปวงเป็นที่รักแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายแล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี