กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคณะกรรมการเลือกตั้ง พึ่งประกาศใช้ไปหยกๆ ก็มีข่าวคราวว่า คนบางพวกกำลังเคลื่อนไหวกันเพื่อจะแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. กันอีกแล้ว
ทำให้เกิดการกล่าวหาว่าร้ายโจมตีตอบโต้กันอย่างรุนแรง โดยผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายและขยายผลไปถึงกองเชียร์และลูกคู่ทั้งหลาย ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง
จนกระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางท่าน เห็นว่าเป็นเรื่องเหลาะแหละเหลวไหล และที่สำคัญคือกระทบต่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระราชโองการที่ประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักสังวรไว้ให้จงหนัก
เพราะในระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น เป็นพระราชอำนาจที่จะมีพระราชโองการตรากฎหมาย แต่ภายใต้เงื่อนไขคำแนะนำของรัฐสภา ซึ่งหมายถึงรัฐสภาหรือปัจจุบันนี้ คือ สนช. ที่จะต้องรับผิดชอบต่อคำแนะนำในการตรากฎหมายที่ทูลเกล้าฯถวายขึ้นไปว่ามีความบริสุทธิ์บริบูรณ์ มีความถูกต้องครบถ้วนทั้งอรรถะและพยัญชนะ มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกขั้น ทุกตอนทั้งหลักการ เนื้อหาสาระ และเหตุผล รวมทั้ง เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามด้วย
จะทำเป็นเรื่องเด็กเล่นขายของไม่ได้ และหากกรณีมีความผิดพลาดเกิดขึ้นก็ต้องแสดงความรับผิดชอบกัน ไม่ใช่ทำเป็นสากกะเบือที่เอาแต่ตำอย่างเดียวของที่ตำจะเหลวแหลกครกจะแตกก็ไม่สนใจ
ดังนั้นเรื่องนี้ รัฐสภา หรือ สนช. ต้องรับผิดชอบเป็นพวกแรก และผู้นำความกราบบังคมทูลก็ต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบเหล่านั้นด้วย เพราะบ้านเมืองไม่สามารถอยู่ได้เพราะความไม่รับผิดชอบ
ดังนี้แล้วก็มาดูกันว่า เกิดเรื่องราวอันใดขึ้นจึงต้องมีการเคลื่อนไหว เพื่อแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ดังกล่าว ซึ่งอาจสรุปได้ดังนี้
ประการแรก กกต. ชุดเดิมจะต้องพ้นตำแหน่ง เมื่อ กกต. ชุดใหม่เข้าดำรงตำแหน่ง และมีการสรรหา กกต.ชุดใหม่ได้แล้ว 5 คน ในจำนวนที่ต้องมี 7 คน จึงต้องสรรหาเพิ่มอีก 2 คน
ประการที่สอง ตามกฎหมาย กกต. ฉบับใหม่กำหนดให้ กกต. คัดเลือกแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประจำเขตต่างๆ ขึ้น ซึ่งเมื่อกฎหมายนี้ใช้บังคับ และไม่ได้ระบุว่าเป็นอำนาจของ กกต. ชุดไหน ดังนั้นจึงหมายถึง กกต. ชุดเดิมด้วย
ประการที่สาม กกต. ชุดเดิม จึงใช้อำนาจตามกฎหมายที่พึ่งประกาศใช้ทำการคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ที่สมควรตรวจการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อเปิดโอกาสให้มีการคัดค้านภายในเวลาที่กำหนด
ประการที่สี่ การที่ กกต. ชุดเดิมประกาศรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำเขตต่างๆ อาจทำให้กระทบต่อแผนการความคิดของบางพวกบางคนที่หวังให้ กกต. ชุดใหม่เป็นผู้คัดเลือกและประกาศ เพราะถ้าหากผู้ตรวจการเลือกตั้งถูกคัดเลือกโดย กกต. คนละชุด หากเกิดทำงานไม่เข้าขา เข้าทีมกัน ก็จะเกิดปัญหาในภายภาคหน้า และอาจเพราะต้องการแก้ไขปัญหานี้ จึงอาจเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวแก้ไขกฎหมาย ทั้งๆ ที่พึ่งประกาศใช้ จนกลายเป็นที่มาของข้อครหาว่า เห็นการตรากฎหมายเป็นเรื่องเด็กเล่นขายของหรืออย่างไร
ในเรื่องนี้ทั้งรัฐบาล และ คสช. แถลงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่สามารถสั่งการสนช.ได้
การจะเป็นไปประการใด ก็ติดตามดูกันเอาเองเถิด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี