วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
nn ดูเหมือนภาคการส่งออกของไทยในปี’62...จะอาการหนักกว่าที่คาด...ตอนต้นปีหลายหน่วยงานวิจัยด้านเศรษฐกิจคิดว่าอย่างแย่ๆ สุดน่าจะขยายตัวที่ 0%...ขณะที่หน่วยภาครัฐเช่นกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ ฯลฯ มองว่าอาจจะเติบโตได้บ้างเล็กน้อยที่ 1-2%... มาถึงวันนี้หน่วยงานภาครัฐเองก็ยอมรับแล้วว่าน่าจะอยู่ในภาวะติดลบ 1-2%...แต่อันนี้ก็ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด...เพราะตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ มักจะรวมเอาการส่งออกทองคำ และอาวุธเข้าไปด้วย (ซึ่งจริงแล้วไม่ควรนับรวมเพราะสินค้า 2 กลุ่มนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนของภาคเศรษฐกิจ)...
ตัวเลขการส่งออกที่แท้จริงนั้นควรจะพิจารณาจากตัวของภาคเอกชนจะดีกว่า เพราะเขาไม่รวมตัวเลขการส่งออกทองคำและอาวุธ...ซึ่งตัวเลขการส่งออกของภาคเอกชน...มองว่าปี’62 น่าจะติดลบที่2.5-3% และที่น่าสนใจก็คือ...ปัจจัยลบที่มีผลต่อการส่งออก...ไม่ได้แต่โทษว่ามาจากของสงครามการค้าอย่างเดียวเหมือนที่กระทรวงพาณิชย์ชอบยกมาเป็นข้ออ้าง...
นอกจากสงครามการค้าแล้วยังมีปัจจัยลบอื่นๆ เข้ามาร่วมกระหน่ำซ้ำเติมด้วยเช่น..มาตรการ IMO Low Sulphur 2020 :ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2563 ส่งผลให้เรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มออกประกาศอัตราเรียกเก็บเพิ่มค่า BunkerSurcharge ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของค่าระวางในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและกระทบต่อต้นทุนโดยรวมของผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้า
สถานการณ์ค่าเงินบาทที่ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อการชะลอตัวภาคการส่งออกทุกกลุ่มสินค้า ....เศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวเห็นได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ไตรมาส 3 ปีนี้ขยายตัวเพียง 2.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเติบโต 2.6%...แนวโน้มการเรียกเก็บภาษีซึ่งเป็นต้นทุนผู้ประกอบการมีมากขึ้น เพราะภาครัฐต้องการเพิ่มรายได้สำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ...กฎหมายและมาตรการภาครัฐที่กำหนดเพิ่มเติมในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว นับเป็นการลดทอนความสามารถในการแข่งขันของภาคส่งออก อาทิ แนวคิดการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การแบนสารเคมีการเกษตรการเรียกเก็บภาษีความหวานและความเค็ม….
“การชะลอตัวของการส่งออกไทย ซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญ ของเศรษฐกิจไทย ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นลูกโซ่ เช่น การผลิตลดลงจะส่งผลต่อการจ้างงานและรายได้ครัวเรือน ค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับรายรับที่ลดลงจะทำให้เม็ดเงินที่กลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจน้อยลง มีเงินหมุนเวียนสำหรับการบริโภคภาคเอกชนลดลง ส่งผลต่อเนื่องไปถึงการชะลอตัวของจีดีพี ในที่สุด”
มองข้ามไปถึงปีหน้า (2563)...สถานการณ์ของการส่งออกก็ยังไร้ปัจจัยหนุน...แต่ปัจจัยลบยังอยู่เหมือนเดิม...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ถดถอย...ค่าเงินบาทที่จะยังคงแข็งค่าต่อเนื่องและอาจจะแข็งค่ามากว่าปีนี้ด้วยซ้ำไป...อุปสรรคจากมาตรการด้านภาษีของรัฐที่เพิ่มต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ...รวมทั้งความผันผวนทางการเมือง ซึ่งกระทบต่อเสถียรภาพในการดำเนินนโยบาย ซึ่งกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ....
ตอนนี้ต้องหวังพึ่ง...การลงทุนภาครัฐเพื่อกระตุ้นให้การลงทุนภาคเอกชนขยับตัวตาม...และภาคการท่องเที่ยว...ซึ่งต้องเลิกมองแต่จำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพียงอย่างเดียว...เพราะไส้ในของการท่องเที่ยวไทยตอนนี้พึ่งแต่นักท่องเที่ยวจีน..ซึ่งก็รู้กันอยู่ว่ากลุ่มทุนจีนเขามาตั้ง“นอมินี”ขนเงินกลับบ้านเขาไปเกือบหมด...สิ่งที่ต้องคิดใหม่ คือ ต้องหานักท่องเที่ยวแบบคุณภาพที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศมากๆ (เน้นที่สินค้าและบริการของไทย)....!! ถ้ารัฐทำ 2 เรื่องนี้ไม่ได้...สงสับปีหน้าจะเป็นปี“เผาจริง” อย่างที่เขาว่ากันแน่ๆ...
กระบองเพชร

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี