nn ในภาวะที่ประเทศชาติต้องการการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมดูเหมือนจะเป็นความหวังอันดับต้นๆ เพราะหลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เปิดประมูลใบอนุญาต 5G ก็หวังว่าจะทำให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน (ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อน) หลายแสนล้านบาท และหวังว่าระบบ 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้เป็นไปตามนั้นเนื่องจากเปิดปมปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจของภาคเอกชน นั้นคือ ตัวผู้คุมกฎและกติกาของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งก็คือ ตัวกรรมการของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ดกสทช.)นั่นเอง
เรื่องของเรื่องก็คือ บอร์ดกสทช. ชุดปัจจุบัน ได้สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่เดือนต.ค.2560 แล้ว...แต่ ด้วยคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ใช้คำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 แห่ง รธน.ชั่วคราว 2557...จึงยังคงทำงานต่ออยู่ถึงปัจจุบัน...ต่อเนื่องมาถึงการที่ ในยุค คสช.ได้ออกประกาศแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมาย รวมทั้งยุติ และชะลอการสรรหากสทช.ไปแล้วถึง 5 ครั้ง โดย...ทำให้ กสทช. ชุดปัจจุบัน ที่เป็นชุดรักษาการ ที่เหลืออยู่ 6 จาก 11 รายนั้น ดำรงตำแหน่งมาแล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2554 รวมแล้วกว่า 10 ปี อีกทั้ง 2 ใน 6 ราย คือ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทรและ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ อายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ซึ่งตามกฎหมายเดิม กำหนดให้หมดวาระทันที…ยังคงต้องทำหนาที่ต่อไปพลางก่อน...จนเกิดข้อกังขาถึง ประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะหลายฝ่ายมองเห็นถึงสุญญากาศการทำงานของ กสทช. มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะผู้ประกอบการในวงการโทรคมนาคม ที่ฝ้ามองปรากฏการณ์อย่างใกล้ชิด
แม้ว่าขณะนี้กำลังมีความพยายามจะดำเนินการสรรหาบอร์ด กสทช.ชุดใหม่…ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการมาถึงขั้นตอนการนำเสนอผลการสรรหา ของคณะกรรมการสรรหา ให้แก่เลขาธิการวุฒิสภาเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564 เพื่อนำส่งให้แก่ท่านประธานวุฒิสภาซึ่งปัจจุบัน คือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย นำไปบรรจุในวาระการประชุมวุฒิสภาเพื่อสรรหา กสทช. ชุดใหม่....แต่เกิดปัญหาตรงที่ว่า...มีกระบวนการจะล้มการสรรหา บอร์ด กสทช.ชุดใหม่...เหตุมาจากที่...ทีมีบุคคลท่านหนึ่งที่บิ๊กในรัฐบาลหมายมั่นปั้นมือจะส่งเข้ามาคุมบอร์ดกสทช.ชุดใหม่...เกิดข้อติดขั้นในแง่กฎหมาย เพราะมีคุณสมบัติต้องห้ามบางประการ โดยเฉพาะ มาตรา 7 ข. (12) ของ พ.ร.บ.กสทช.ในส่วนของคุณสมบัติต้องห้าม ที่ระบุ ว่า“เป็นหรือเคยเป็นกรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร ที่ปรึกษา พนักงาน ผู้ถือหุ้น หรือหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลอื่นใดบรรดาที่ประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียงกิจการ โทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม “...!! ถึงตรงนี้ฅก็เลยต้องวิ่งกันขาขวิดและใช้ทุกได้พยายามทำทุกวิถีทาง โดยใช้อํานาจแฝงของผู้มีอํานาจระดับสูงของฝ่ายบริหารเข้าแทรกแซงกระบวนการสรรหา กสทช....โดยเตะถ่วงการพิจารณาผลการสรรหาของคระกรรมการสรรหา....และไปเร่งรีบให้รับร่างพระราชบัญญัติการจัดสรรคลื่นความถี่และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (พ.ร.บ. กสทช.) (ฉบับที่..) พ.ศ.........ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในการพิจารณาวาระที่ 2 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ องค์กรจัดสรร คลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... วุฒิสภา...ทั้งที่ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ยังมีจุดบกพร่องอีกหลายจุดที่ต้องมีการแปรญัตติ....!! ทั้งนี้ก็เพื่อที่ว่าเมื่อมีพ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่...การสรรหา บอร์ด กสทช.ชุดใหม่ก็ต้องเริ่มหนึ่งใหม่ภายใต้ บทบัญญัติของ พ.ร.บ. กสทช.ฉบับใหม่...ประจวบเหมาะช่วงเวลาที่ทอดยาวออกไป ก็ทำให้“คนที่ถูกบิ๊กรัฐบาล” วางตัวไว้ พ้นจากข้อห้ามทางกฎหมายด้านคุณสมบัตินั่นเอง.....
หลายเดือนที่ผ่านมามีสื่อหลายสำนักพยามจะตีแผ่ขบวนการจ้องล้มสรรหา กสทช.ชุดใหม่ ของ “บิ๊กในรัฐบาล”เพื่อดันให้เด็กในคาถาของตัวได้กลับเข้ามาเป็น กสทช.ชุดใหม่ให้ได้ เป้าหมายหวังจะฮุบอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเอาไว้ในมือ...ทำให้สังคมเริ่มคลายใจเพราะหวังรัฐบาล และ รัฐสภา จะหันมาดูแลเรื่องนี้ให้ดำเนินการต่อไปอย่างถูกต้องและเพื่อไม่ให้เดความเสียหานต่อชาติบ้านเมือง
!! แต่นาทีนี้...ต้องบอกว่า...ยังไม่จบง่ายๆ กับขบวนการจ้องล้มสรรหา กสทช.ชุดใหม่...เนอกจากประเด็นของ“บิ๊กรัฐบาล”...ก็ยังมีประเด็นใหม่...คือผู้เคยมีบารมีในซอยสายลม ซึ่งมีเรื่องกลิ่นตุๆซุกใต้พรมมากมาย หวังกลับมาเป็น กสทช. เพื่อต้องการใช้อิทธิพลของตนและพรรคพวกปกปิดสิ่งที่ได้ซุกไว้ใต้พรมมิให้ปูดขึ้นมา
แม้ว่าสำนักงานกสทช.ยังโชคดีที่บุคคลผู้นี้ได้สอบตกจากการสรรหา กสทช.รอบแรก แต่อย่างไรก็ตามผู้เคยมีอิทธิพลซอยสายลมผู้นี้หาได้ยอมความรับในผลการสรรหาของคณะกรรมการสรรหาไม่ แต่กลับดำเนินการอยู่เบื้องหลังเสนอข่าวให้ร้ายแก่คณะกรรมการสรรหาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังที่ให้ข่าวเท็จที่เลวร้ายเหล่านี้กดดันผลการสรรหาขาดการยอมรับในสังคมแล้ววุฒิสมาชิกจะคล้อยตามแล้วไม่เลือกผู้ที่ถูกคัดสรรที่ดีที่สุดจำนวน 14 คนจากผู้สมัครจำนวนมากถึง 80 คน...เช่น ให้ข่าวเท็จว่าผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบ 14 คนนี้ขาดคุณสมบัติหรือขาดความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครเข้ารับการสรรหา
นอกจากนี้ ยังพยายามสร้างข่าวเท็จให้ร้ายบริษัทเอกชนรายเล็กมากรายหนึ่งว่าอยู่เบื้องหลังการสรรหาครั้งนี้โดยอ้างเรื่องเท็จว่ามีผู้สมัครที่ได้รับการสรรหารอบแรกมากถึง12 คน จาก 14 คน มีความเกี่ยวพันและได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเล็กๆ ดังกล่าว ซึ่งขัดกับความเป็นจริงเป็นอย่างมากเพราะธุรกิจของอุตสาหกรรมกระจายเสียง โทรทัศน์และโทรคมนาคมมีมูลค่าหลายแสนล้าน ผู้ประกอบการรายเล็กๆ รายนี้จะมีอิทธิพลต่อกระบวนการสรรหาได้อย่างไร....นอกจากนี้คณะกรรมการสรรหามาจากผู้แทนขององค์กรหลักของประเทศ ซึ่งเป็นเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยดำเนินอยู่ได้ เช่น ศาลฎีกา ศาลปกครองศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามและป้องกันการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยที่ขั้นตอนการเลือกผู้แทนก็มีความเข้มงวด เช่น การเลือกผู้แทนของศาลฎีกาในที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ซึ่งยากต่อการวิ่งเต้นกำหนดคน หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมิได้มีการกำหนดตัวของกรรมการสรรหาไว้ล่วงหน้า ดังนั้น คณะกรรมการสรรหาจึงมีความเป็นกลาง โดยได้ดำเนินการสรรหาครั้งนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน รอบครอบ โปร่งใส และบริสุทธิ์ยุติธรรม
งานนี้ต้องหวังพึ่ง สมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติ จะได้ใช้ความรอบคอบ จะตระหนักและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ต้องทำให้การสรรหากสทช.ชุดใหม่ 7 คน โปร่งใส ยุติธรรม ขาวสะอาด โดยการคัดเลือก 7 อรหันต์ กสทช.ชุดใหม่ ต้องปราศจากอคติ ไม่หลงเชื่อข้อมูลอันเป็นเท็จของ
ผู้เฒ่าอดีตผู้ทรงอิทธิพลซอยสายลมรายนี้ เพราะหากหลงเชื่อแล้ว จะตกเป็นเครื่องมือของบุคคลผู้สอบตกเหล่านี้ ขอให้สำนึกว่าสิ่งนี้จะเป็นมลทินและสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล และจะทำให้ประชาชนสิ้นหวังและหมดศรัทธากับสภาที่ทรงเกียรติแน่นอน
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี