nn ว่าด้วยมหากาพย์ “รถไฟฟ้า สายสีส้ม” บางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงินลงทุนกว่า 1.42 แสนล้านที่ถูกฝ่ายค้านลากไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคมนาคม ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลครั้งล่าสุด แม้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมที่ถูกอภิปราย จะได้รับเสียงโหวตรอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ไปได้ แต่ผลโหวตที่ออกมาก็ทำเอาพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย(ภท.) และตัว รมว.คมนาคมออกอาการฟ้อนเงี้ยวเข้าใส่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ด้วยว่ามี สส.ในพรรคร่วมรัฐบาลแหกมติไม่ยกมือไว้วางใจให้ จนจ่อจะมีรายการเช็คบิลย้อนหลังตามมาอีกระลอก!
ว่าไปแล้ว เหตุที่ สส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่ยกมือให้ คงเพราะเมื่อคำชี้แจงของ รมว.คมนาคม กรณีล้มประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ประเคนใส่มือให้ รมว.คมนาคมนำมาชี้แจงตอบโต้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านนั้นน่าจะเรียกได้ว่าเป็นการ“โชว์ใบเสร็จ” มัดตัวเองเสียมากกว่า...โดยข้อมูลที่ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศผู้ว่าการ รฟม. และนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ที่นำมาชี้แจงเพิ่มเติมต่อสื่อมวลชน กรณี รฟม.ล้มประมูลโครงการดังกล่าวเพื่อจัดประมูลใหม่ (ภายใต้หลักเกณฑ์คัดเลือกเจ้าปัญหาต่อไป) โดยอ้างว่าจะสามารถร่นระยะเวลาจากที่ต้องล่าช้าออกไปไม่น้อยกว่า 18 เดือน เหลือไม่เกิน 6-8 เดือนเท่านั้น...!!แค่ประเด็นความล่าช้าที่เป็นอยู่เวลานี้ ก็ย้อนแย้งสิ่งที่ฝ่ายบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกประกาศปาวๆๆ ก่อนหน้า ในการดั้นเมฆเปลี่ยนแปลงเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์เดิมอยู่แล้ว เพราะแต่เดิมนั้นทั้ง รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกต่างก็ยืนยัน ว่าการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์พิจารณาคัดเลือก หลังปิดขายซองประกวดราคา (RFP) ไปแล้ว จะไม่ส่งผลต่อไทม์ไลน์ที่วางไว้ เอาเข้าจริงกลับเป็น “หนังคนละม้วน”ถูกบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลกระหน่ำฟ้องร้องจนแทบไปไม่เป็น
ล่าสุดยังปรากฏด้วยว่า บริษัท BTS ได้ส่งทนายยื่นฟ้องฝ่ายบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกกราวรูดต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ป.อาญามาตรา 157 และ 165 แถมพ่วง พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 172 ไปอีกคดี!
งานงอกล่ะทีนี้....!ที่ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกออกมายืนยัน นั่งยันจำเป็นต้องล้มประมูลโครงการนี้ไปก่อน เพราะไม่สามารถรอผลการพิจารณาในชั้นศาลและศาลปกครองสูงสุดได้ เพราะจะกระทบ “ไทม์ไลน์” การก่อสร้างและให้บริการรถไฟฟ้าที่วางไว้เดิมนั้น วันนี้ไม่เพียงจะกลายเป็นการ “เสียค่าโง่” ที่ทำให้รถไฟฟ้า สายสีส้มจ่อเผชิญทางตันแล้ว ทั้งฝ่ายบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกเองยังจ่อ“หายใจไม่ทั่วท้อง” หนักเข้าไปอีกจากการถูกฟ้องคดีอาญากันเป็นพรวน!
เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่รฟม.และกรรมการคัดเลือก คิดเอง เออเอง ในการดอดไปถอนคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ด้วยข้ออ้างได้ยกเลิกการประมูลตามอำนาจที่ตนเองมีนั้น วันนี้ไม่เพียงจะสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกคิดเอง เออเอง ชงเอง-ตบเองอะไรนั้น มันเป็น “หนังคนละม้วน” แล้ว....การ“ชงเอง-ตบเอง” สั่งล้มประมูลโครงการไปก่อนหน้าของรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกนั้น ล้วนไม่เคยได้สอบถามฝ่ายกฎหมายตนเอง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแม้แต่น้อยเลยว่า จะยังผลให้คดีความที่ตนเองถูกฟ้องคาราคาซังอยู่ในศาลกรณีเปลี่ยนแปลงเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวได้ยุติลงไปด้วยหรือไม่ การล้มประมูลโครงการเดิม ได้ทำให้คดีความที่คาราคาซังอยู่ในชั้นศาลต้องยุติลงไปด้วยหรือไม่?... มิหนำซ้ำวันนี้ ยังถูกฟ้องคดีอาญาพ่วงไปด้วยอีกคดี!
อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกฟ้องนัวเนียซะขนาดนี้แต่ดูเหมือนทั้งฝ่ายบริหาร รฟม.และกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 กลับไม่สะท้าน ยังคง “ดั้นเมฆ” เดินหน้าจัดประมูลภายใต้เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหาที่ว่า โดยล่าสุดผู้ว่าการ รฟม.ยืนยันจะเปิดรับฟ้องข้อคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนจะเร่งนำเกณฑ์ดังกล่าวไปเปิดประมูลให้ได้ภายในเดือนมี.ค.นี้ เพื่อนำเสนอผลประมูลต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในเดือนส.ค.นี้
คำถามที่ทุกฝ่ายต่างกังขาต่อการดั้นเมฆของ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกข้างต้นก็คือ หากศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีที่บีทีเอสได้ยื่นฟ้องรฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกเอาไว้ก่อนหน้า...ว่าเกณฑ์คัดเลือกเจ้าปัญหาของ รฟม.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเกณฑ์ประมูลที่เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนรายหนึ่งรายใดแล้ว โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะไม่ถูกฝังไปด้วยหรือ และชะตากรรมของ ฝ่ายบริหาร รฟม. รวมทั้งคณะกรรมการตามมาตรา 36 ที่ถูกฟ้องคดีอาญาแถมพ่วงไปด้วยจะไม่ถูกฝังไปด้วยหรือ?
ยิ่งล่าสุด “ศาลอุทธรณ์คดีทุจริตและประพฤติมิชอบ” เพิ่งจะมีคำพิพากษาในคดีทุจริตโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กรณีมีแก้ไขเอกสารประกวดราคาเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนจนเป็นเหตุให้รัฐเสียหาย โดยได้มีคำพิพากษาจำคุกอดีตผู้ว่าการรถไฟฯ ...บทเรียนจาก “โครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์” ข้างต้นนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้โครต่อใครที่กำลังดั้นเมฆจะนำเอาเกณฑ์ประมูลคัดเลือกซึ่งมีการแก้ไขกัน “โจ๋งครึ่ม” แตกต่างไปจากเกณฑ์ประมูลคัดเลือก (RFP) เดิมที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว..เอามาใช้กันให้ได้อีกหรือ????... แถมศาลปกครองกลางยังมีคำสั่งคุ้มครอง และให้ทุเลาการนำเอาเกณฑ์คัดเลือกเจ้าปัญหาที่ว่ามาใช้ด้วยอีก!....
!! ระวัง!! ทั้งนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคมจะโดนหางเลขเอาด้วยเพราะเห็นชัดๆว่ามีขบวนการอุ้มสมตั้งแต่ในมุ้ง โชว์ใบเสร็จหรากันซะขนาดนี้ กลับนิ่งดูดายไม่มีหือ ไม่อืออะไรเลย…
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี