วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
หนี้ที่ กทม.ต้องจ่าย... ไม่เกี่ยวกับค่าโดยสารส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ดูทั้งหมด

  •  

nn หลังเจอกระแสสังคมคัดค้านอย่างหนัก กทม.จะยอมถอย เลื่อนการจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สูงสุด 104 บาท ออกไปก่อน แต่เรื่อง ภาระหนี้กว่า 8,899 ล้านบาท ที่ กทม. ต้องจ่ายให้ บริษัท บีทีเอสที่เป็นค่าให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 คือ ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 คือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ต้องได้ข้อยุติโดยเร็ว และ กทม. จะปฏิเสธไม่ได้ nn

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเกิดจากการที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีพลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าราชการในขณะนั้น ต้องการจัดให้มีระบบขนส่งมวลชน ในเขตชั้นในของกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน จึงได้จัดให้มีการประกวดราคาขึ้น และบริษัทธนายง จำกัด (มหาชน) ในขณะนั้นเป็นผู้ชนะการประมูล และได้ก่อตั้งบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) เพื่อเข้ารับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้า บีทีเอส ซึ่งต่อมาได้ถูกกำหนดให้เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว นับเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทยที่ลงทุนโดยเอกชน 100% โดยมิได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐ และเมื่อเปิดให้บริการก็ได้เจอกับปัญหาใหม่ที่หนักกว่าเดิม คือ ภาวะขาดทุน ที่มีผู้ใช้บริการน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจในขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง


แต่เรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะ กทม. ได้ก่อสร้างส่วนต่อขยายขึ้นโดยใช้เงินลงทุนของ กทม. เอง โดยมีบริษัทลูกของ กทม.คือ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้บริหารโครงการดังนั้น รายได้ในส่วนต่อขยายนี้ กทม. จะเป็นผู้จัดเก็บเอง โดยปัจจุบันเก็บในอัตราเดียว 15 บาท ตลอดสายจากอ่อนนุชไปแบริ่ง และจากวงเวียนใหญ่ ไปบางหว้า ในขณะที่ส่วนสัมปทานเป็นการเก็บตามระยะทาง ปัจจุบันเก็บในอัตรา 16 ถึง 44 บาท และในส่วนต่อขยายนี้ บริษัทกรุงเทพธนาคม ได้ว่าจ้างให้ บีทีเอส เป็นผู้เดินรถทั้งหมด เพื่อให้เป็นระบบเดียวกันกับส่วนสัมปทาน ประชาชนจะสามารถใช้ระบบได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถ

นอกเหนือไปจากส่วนต่อขยายที่เปิดไปถึงแบริ่ง และบางหว้าแล้ว ยังมีส่วนต่อขยายอีก 2 ส่วนคือจากแบริ่งไปถึงเคหะ สมุทรปราการ และจากหมอชิต ไปถึงคูคต ส่วนต่อขยาย 2 ส่วนนี้ ได้มีการโอนจากกทม. ไปให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กระทรวงคมนาคม ในสมัยที่นายสมชายวงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในระหว่างที่การก่อสร้างดำเนินไป ได้เกิดรัฐบาล คสช. ขึ้น ซึ่งรัฐบาล คสช. นี้เห็นปัญหาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่าจะมีปัญหาในอนาคต ทำให้ รัฐบาล คสช. โอนความรับผิดชอบส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่ไปถึงเคหะ สมุทรปราการ และไปคูคต ให้กลับมาอยู่ภายใต้การดูแลของ กทม.

แต่เนื่องจากการก่อสร้างงานโยธาได้เริ่มและมีสัญญาผูกพันไปแล้ว จึงให้ รฟม. ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาให้แล้วเสร็จ และให้ กทม. มารับช่วงต่อไป โดยให้รับหนี้สินค่าก่อสร้างงานโยธาซึ่งมีมูลค่าประมาณเกือบ 60,000 ล้านบาทไปด้วย เมื่อ กทม. รับโอนมาแล้วจึงเริ่มขบวนการที่จะทำโครงการต่อให้แล้วเสร็จ โดยได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสม และได้ข้อสรุปว่า จะต้องทำเป็นโครงการ PPP ร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เนื่องจาก กทม. มีภาระหนี้งานโยธาสูงถึงเกือบ 60,000 ล้านบาท และจะต้องลงทุนระบบไฟฟ้าและเครื่องกลอีกประมาณ 20,000 ล้านบาท

โดยการคิดค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่เพิ่มมาใช้สูตรค่าโดยสารของกระทรวงคมนาคม (MRT Standardization) และด้วยภาระผูกพันทั้งสัญญาสัมปทานที่จะสิ้นสุดในปี 2572 และสัญญาจ้างเดินรถที่จะหมดในปี 2585 จึงจะต้องเจรจากับเอกชนรายเดิมกทม. จึงได้ทำเรื่องเสนอคณะกรรมการ PPP และคณะกรรมการได้มีความเห็นให้ กทม. ไปดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ. ร่วมลงทุน ตามมาตรา 48 ซึ่งจะต้องขอความเห็นชอบจาก ครม. เพื่อดำเนินการในส่วนทรัพย์สินเดิมที่เป็นสัมปทาน ก่อนที่จะนำมารวมกับทรัพย์สินใหม่ในส่วนต่อขยาย ซึ่งเมื่อรวมขบวนการทั้งหมดจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีครึ่ง

ดังนั้น คสช. จึงได้มีคำสั่งที่ 3/2562 ลงนาม วันที่ 11 เมษายน 2562 เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยให้สามารถดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น โดยให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และจัดทำร่างแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนเดิม โดยมีวัตถุประสงค์ให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้น มีการเดินรถเป็นไปอย่างต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกันทั้งระบบ (Through Operation) ก่อนเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ต่อมา กทม. ขอให้บีทีเอสเข้าเจรจากับคณะกรรมการภายใต้คำสั่งที่ 3/2562 และเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องภาระหนี้ให้ กทม. ได้ บีทีเอสจึงได้ยอมเข้าร่วมเจรจา การเจรจาจึงได้เสร็จสิ้นลง

โดยมีสาระสำคัญคือ การเก็บค่าโดยสาร เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นมีระยะทางรวมถึง 68 กิโลเมตร จึงจัดเก็บค่าโดยสาร แยกเป็นส่วนสัมปทานเดิมและส่วนต่อขยาย โดยให้มีค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน65 บาท และไม่มีการเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน (กำหนดไว้ที่ 15 บาท) ระหว่างส่วนสัมปทานเดิมกับส่วนต่อขยาย และจะมีการต่อสัมปทานให้กับเอกชนรายเดิมไปอีก 30 ปี เริ่มจากปี 2572 ถึงปี 2602 (ส่วนสัมปทานเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2572) ได้มีการนำรายได้ไปจัดตั้งกองทุน BTSGIF แล้ว ไม่สามารถนำรายได้ส่วนนี้มาใช้ได้) เพื่อนำรายได้ในอนาคตมาใช้ประโยชน์ในการชำระภาระหนี้และค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กับ กทม. โดยจะมีการแบ่งรายได้ค่าโดยสารให้กับ กทม. ตั้งแต่ปี 2573 ถึง 2602 เป็นเงินจำนวนประมาณ 200,000 ล้านบาท เพื่อให้ กทม. สามารถชำระหนี้ต่างๆ ได้ โดยที่เอกชนจะมีผลตอบแทนการลงทุน 9.6% หากปรากฏว่าปีใดมีผลตอบแทนสูงกว่า 9.6% จะต้องมีการแบ่งรายได้เพิ่มให้แก่ กทม. ด้วย และได้มีการส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดให้ความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงได้นำเสนอ ครม. เพื่อขอความเห็นชอบในเดือนกันยายน 2562

เรื่องยังไม่จบง่ายๆ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจหลายครั้ง อีกทั้ง นายศักดิ์สยามชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมากระโดดขวางคัดค้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรื่องการจัดเก็บค่าโดยสารไม่มีข้อยุติ ทำให้ กทม. ไม่มีเงินมาชำระหนี้ให้บีทีเอส ขณะที่ กทม. ใช้วิธีขายผ้าเอาหน้ารอด โดยกทม. เปิดให้ทดลองนั่งฟรีในรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงสุดท้ายไปคูคต และคาดหวังจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในวันที่ 16 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งหาก ครม. ให้ความเห็นชอบผลการเจรจาก็จะสามารถจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราสูงสุดไม่เกิน 65 บาทได้ แต่เมื่อใกล้เวลาวันที่ 16 มกราคม 2564 ก็ยังไม่มีวี่แววว่า เรื่องนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะกระทรวงคมนาคมออกมากระโดดขวางคัดค้านอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายนี้ เป็นเรื่องของ กทม. ไม่เกี่ยวข้องกับบีทีเอสที่จัดเก็บส่วนสัมปทานที่อยู่ตรงกลาง....วันนี้ ยังต้องรอความชัดเจนเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะได้ข้อสรุปอย่างไร ที่ประชาชนต้องไม่เดือดร้อนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากพิษโควิด-19 แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ภาระหนี้กว่า 8 หมื่นล้านบาทที่ กทม. ต้องจ่ายให้ บีทีเอส ต้องได้ข้อสรุปชัดเจน และต้องเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เอกชน ต้องหลังแอ่นแบกรับความเสียหายไปมากกว่านี้ nn

กระบองเพชร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:22 น. พท.มั่นใจ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน ปราบ'อาชญากรรม-ยาเสพติด'
16:12 น. 'นักการเมือง'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย
16:09 น. 'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน
16:01 น. (คลิป) อดีตฝ่ายแค้น'พรรคส้ม'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ'ทักษิณ'ไม่ใช่'ทหาร'
15:50 น. (คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม'พรรคส้ม' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
ดูทั้งหมด
การดูแลรักษาสุนัขมีค่าเอนไซม์ตับสูงกว่าปกติ
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติต้องมีกระดูกสันหลัง
บุคคลแนวหน้า : 13 กรกฎาคม 2568
ชีวิตประจำวันของผม-ความเก่ง
บทบรรณาธิการ : 13 กรกฎาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'นักการเมือง'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย

'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน

เลย์ออฟครั้งใหญ่! 'กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ'ปลดเจ้าหน้าที่ 1,350 คน

รวบหนุ่มไทยมุดชายแดน! ขายบัญชีม้าให้แก๊งคอลฯ พบมีคดีออนไลน์17คดี

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้นวิ่ง‘6 เส้นทางเสี่ยง’ได้180วัน เริ่ม 21 ก.ค.

เกมเศรษฐี’เชลซี’vs‘เปแอสเช’:ใครจะครองแชมป์ทีมโลก2025

  • Breaking News
  • พท.มั่นใจ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน ปราบ\'อาชญากรรม-ยาเสพติด\' พท.มั่นใจ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน ปราบ'อาชญากรรม-ยาเสพติด'
  • \'นักการเมือง\'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย 'นักการเมือง'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย
  • \'ดิว อริสรา\'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน 'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน
  • (คลิป) อดีตฝ่ายแค้น\'พรรคส้ม\'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ\'ทักษิณ\'ไม่ใช่\'ทหาร\' (คลิป) อดีตฝ่ายแค้น'พรรคส้ม'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ'ทักษิณ'ไม่ใช่'ทหาร'
  • (คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม\'พรรคส้ม\' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112 (คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม'พรรคส้ม' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า 10 กรกฏาคม 2568

โลกการค้า 10 กรกฏาคม 2568

10 ก.ค. 2568

พาณิชย์...ถอดรหัสพฤติกรรมการบริโภคผลไม้ของคนไทย

พาณิชย์...ถอดรหัสพฤติกรรมการบริโภคผลไม้ของคนไทย

3 ก.ค. 2568

โลกการค้า : 26 มิถุนายน 2566

โลกการค้า : 26 มิถุนายน 2566

26 มิ.ย. 2568

3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

19 มิ.ย. 2568

ความเสี่ยง”ภาษีทรัมป์”ลากยาว  การค้าโลกไม่สมดุล...คือต้นตอของปัญหา

ความเสี่ยง”ภาษีทรัมป์”ลากยาว การค้าโลกไม่สมดุล...คือต้นตอของปัญหา

12 มิ.ย. 2568

โลกการค้า : 5 มิถุนายน 2568

โลกการค้า : 5 มิถุนายน 2568

5 มิ.ย. 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

29 พ.ค. 2568

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

22 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved