วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / กฎ กติกา ธุรกิจ
กฎ กติกา ธุรกิจ

กฎ กติกา ธุรกิจ

รุจิระ บุนนาค
วันศุกร์ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 02.00 น.
CNN กับการกระทำผิดอาญาในไทย

ดูทั้งหมด

  •  

นับตั้งแต่ปลายปีพ.ศ. 2562 ที่โควิด-19 แพร่ระบาดจนถึงปัจจุบัน ทั่วโลกต่างต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์มากขึ้น ทั้งหน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุขและคนทั่วไป

ถุงมือยาง (Latex Gloves) เป็นถุงมือที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในทางการแพทย์และอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความบางเบา กระชับมือ และไม่เกิดอาการแพ้ได้ง่ายสำหรับถุงมือยางทางการแพทย์ (Medical Glove)  แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) ถุงมือยางสำหรับการผ่าตัด (Surgical Glove)
ใช้ในการผ่าตัดและศัลยกรรม จะมีลักษณะบางเบาเป็นอย่างมาก มีความยืดหยุ่นสูง มีความแข็งแรงทนทาน ขนาดความยาวถึงข้อศอก และผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อ 100% เป็นถุงมือประเภทใช้ได้เพียงครั้งเดียว (ใช้แล้วทิ้ง) 2) ถุงมือยางสำหรับการตรวจโรค (Examination Glove) ใช้ในงานตรวจโรคทั่วไป มีลักษณะบางเบา มีความกระชับ แต่จะสั้นกว่าถุงมือชนิดผ่าตัด มีความยาวถึงแค่ข้อมือ เป็นถุงมือประเภทใช้ได้เพียงครั้งเดียวเช่นกัน


นอกจากถุงมือยางทางการแพทย์ ยังมีถุงมือยางสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Glove) และถุงมือยางสำหรับครัวเรือน (Household Glove)

ประเทศไทย ส่งออกถุงมือยางเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากมาเลเซีย ไทยสามารถผลิตถุงมือยางต่อปีกว่า 46,000 ล้านชิ้น ในจำนวนนี้เป็นถุงมือทางการแพทย์สัดส่วนกว่า 88% ปริมาณการใช้ถุงมือยางโลกในปีพ.ศ. 2564 อยู่ที่ประมาณ 420,000 ล้านชิ้น ขยายตัว 17% จากปี พ.ศ. 2563 ซึ่งอยู่ที่ 360,000 ล้านชิ้น ทำให้ผู้ประกอบการถุงมือยางไทย และมาเลเซียต่างต้องขยายกำลังการผลิต

แม้ไทยจะส่งออกถุงมือยางเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ แต่ข่าวการเปิดเผยของซีเอ็นเอ็น(CNN) สื่อยักษ์ใหญ่ของโลก ที่ได้นำเสนอข่าวเปิดโปงขบวนการฉ้อโกง ขายถุงมือยางใช้แล้วของไทย ที่ส่งออกไปสหรัฐอเมริกากว่า 10 ล้านชิ้นนั้น กลับสร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์ของประเทศอย่างมาก ทั้งทำให้ขาดความเชื่อมั่นต่อคู่ค้า ที่ย่อมต้องส่งผลต่อรายได้จากการส่งออกถุงมือยางในอนาคต

ซีเอ็นเอ็นได้มีการนำเสนอข่าวถึง การพบถุงมือสำหรับใช้ทางการแพทย์แบบใช้แล้ว ที่สกปรก ทั้งมีคราบเลือดติด พบที่บริเวณโรงงานตามชานเมืองของกรุงเทพฯ บริเวณโรงงานยังพบภาชนะบรรจุน้ำผสมสีสำหรับย้อมถุงมือให้ดูใหม่ขึ้น ทั้งยังมีแรงงานต่างด้าวทำหน้าที่ย้อมให้ถุงมือดูมีสภาพใหม่เพื่อนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง  ถุงมือยางที่มีลักษณะต่ำกว่ามาตรฐานเช่นนี้ ได้ถูกบรรจุใส่กล่องเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก ท่ามกลางความขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์

สื่อใหญ่ระดับโลกคงไม่ตีเผยแผ่ข่าวโดยไม่มีข้อมูล ทั้งนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมของปีพ.ศ. 2564 นี้เอง บริษัทในสหรัฐฯได้เตือนหน่วยงานรัฐ
ของสหรัฐฯที่ทำหน้าที่ดูแลการนำเข้าของสหรัฐฯ คือ กรมศุลกากร (CBP- U.S. Customs and Border Protection) และองค์การอาหารและยา (FDA- Food
and Drug Administration) เกี่ยวกับการนำเข้าถุงมือที่มีลักษณะต่ำกว่ามาตรฐานมาจากบริษัทในไทย ที่มีการนำเข้ามากกว่า 10 ล้านชิ้น

ซีเอ็นเอ็นยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้มีนักธุรกิจจากรัฐไมอามี สหรัฐฯ เคยสั่งซื้อถุงมือยางจากไทยประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 66 ล้านบาท จากบริษัทแห่งหนึ่ง แต่กลับต้องถูกลูกค้าร้องเรียน แสดงความไม่พอใจเพราะเป็นถุงมือยางที่ใช้แล้ว ที่สกปรก บางชิ้นมีคราบเลือดติดด้วย บางกล่องเป็นถุงมือที่ผลิตเมื่อสองปีก่อนที่มีการสั่งสินค้า

ที่น่าอับอายยิ่ง คือ ซีเอ็นเอ็นเปิดเผยว่า ในประเทศไทยมีโกดังลักษณะนี้มากมาย ที่หารายได้จากถุงมือคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานหลายล้านชิ้น ด้วยการส่งออกไปยังสหรัฐฯและทั่วโลก ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนถุงมือ

เมื่อเป็นสื่อใหญ่อย่างซีเอ็นเอ็นได้ขุดคุ้ย ทางการไทยได้มีการตรวจสอบและบุกค้นโรงงานต้องสงสัย ซึ่งได้พบถุงขยะบรรจุถุงมือยางในสีที่แตกต่างกัน ต่างวัตถุดิบและมีคุณภาพที่ต่างกัน ได้จับกุมคนงานขณะที่กำลังยัดถุงมือเก่าในกล่องปลอมที่ติดยี่ห้อบริษัทผลิตถุงมือยางแห่งหนึ่ง กลับพบว่ามีคนจีนถือหุ้น 49%

ย้อนไปเมื่อประมาณกลางปีพ.ศ. 2560 สำนักข่าวเอพีจากต่างประเทศ ได้นำเสนอข่าว “บอส อยู่วิทยา” ทายาทกระทิงแดง ซึ่งขับรถเฟอร์รารี่ชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อ คนหนึ่งเสียชีวิตและยังลากร่างดาบตำรวจพร้อมรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจไปไกลกว่า 200 เมตรเมื่อปี พ.ศ. 2555 ยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น ไม่ได้หลบหนีไปไหน ไม่ใช่บุคคลที่หาตัวยาก และยังใช้ชีวิตอย่างหรูหราในต่างประเทศ นายบอสได้ขอเลื่อนพบพนักงานอัยการเพื่อรับทราบข้อกล่าวหามาแล้วจำนวน 7 ครั้ง อ้างเหตุติดภารกิจต่างประเทศและเหตุอื่นๆ

ในเวลานั้น เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศตีแผ่ข่าว “บอส อยู่วิทยา” ถึงความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะผ่านมานานถึง 5 ปี ทั้งพยานหลักฐาน
ยังอยู่ในที่เกิดเหตุและนายบอสผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งน่าจะดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว แม้ตัวนายบอสจะใช้ช่องทางร้องขอความเป็นธรรมหรือประวิงคดีด้วยเหตุผลต่างๆ หากว่าเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีโดยศาลคดีคงถึงที่สุดไปนานแล้ว รวมทั้งซีเอ็นเอ็นเสนอข่าวก่อนสื่อไทยว่า ตำรวจไทยจะยกเลิกหมายจับในไทย ซึ่งจะมีผลยกเลิกหมายจับระหว่างประเทศของตำรวจสากลด้วย

การนำเสนอข่าวของซีเอ็นเอ็นมีผลกระทบอย่างรุนแรง เป็นการกดดันให้พนักงานด้านกระบวนการยุติธรรมมีความกระตือรือร้นและกระฉับกระเฉงขึ้นไปสู่ขั้นออกหมายจับ เพิกถอนหนังสือเดินทางและขอตัวส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน มิฉะนั้นแล้ว คดีคงจะเงียบหายพร้อมกับหมดอายุความไปในที่สุด กลับกัน คดีอื่นๆ ที่ผู้ต้องหาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดากลับถูกดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ไทยได้อยู่ในความสนใจของสื่อหลายสำนักทั่วโลกอีกครั้ง หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องล้วนให้ความร่วมมือ และประสานงานเพื่อจับกุมผู้กระทำผิด
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีมากขึ้น หากไทยกระฉับกระเฉงดำเนินการเอง โดยไม่ต้องถูกกระตุ้นจากสื่อต่างประเทศ

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:00 น. ปรีวิว-ฟันธง!ผีขาดเพียบชนสาลิกาบ็อกซิ่งเดย์
11:43 น. ‘อนุทิน’เปิดเหตุผลทาบ‘สีหศักดิ์’นั่งแคนดิเดตนายกฯ‘ภท.’ แย้มเลือกตั้งครั้งหน้าใช้‘คนใน’
11:41 น. เบียร์ เดอะวอยซ์ แปลงโฉมเป็นซานตี้สาว สวยละมุนรับคริสต์มาส
11:36 น. 'ทภ.2'แจงชัด! 'ศาลโลก'ไม่เคยตัดสินเส้นเขตแดน-พื้นที่รอบ'ปราสาทพระวิหาร'
11:29 น. อุตุฯใต้เตือน! ‘ฝนถล่มหนัก’ ชาวประมงสงขลาเร่งเข็นเรือหนีคลื่น-หลังมรสุมซัดฝั่ง
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 20-26 ธ.ค.68
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 21-27 ธ.ค.68
ขอกำลังใจด้วยนะคะ ธิษะณา โพสต์พร้อมสมัครงานใหม่ หลังพรรคไม่ส่งสมัครสส.กทม.
ศาลสั่งระงับจดทะเบียนตั้ง 9 กรรมการใหม่การบินไทย
ขอโอกาส! ‘ศิริภา’อาสาลงชิงสส.พญาไท-ดินแดง ลั่นจะแก้ทุกปัญหา-สู้เพื่อชาติไปด้วยกัน
ดูทั้งหมด
ส่งท้ายปีขอให้ชีวิตมีรอยยิ้ม
‘GBC’ถ้าไม่จบก็รบต่อจนกว่าเขมร‘สิ้นเขี้ยวเล็บ’
เยอรมนีตกสวรรค์
จอมสะกดจิต
รัฐมนตรีดีๆ ก็มีได้
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปรีวิว-ฟันธง!ผีขาดเพียบชนสาลิกาบ็อกซิ่งเดย์

'สมเด็จพระราชินี'ทรงทำการฝึกบิน เส้นทางดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน ด้วยเครื่องบินพระที่นั่ง

'ทภ.2'แจงชัด! 'ศาลโลก'ไม่เคยตัดสินเส้นเขตแดน-พื้นที่รอบ'ปราสาทพระวิหาร'

‘เสธ.ทบ.’ลั่นจุดยืนไทย ‘กัมพูชา’ต้องประกาศ‘หยุดยิง’ก่อน ย้ำคุมพื้นที่อธิปไตยไทย 90% แล้ว

'สารัชถ์'มอบเงิน'ทบ.' ช่วยครอบครัว 23 ทหารพลีชีพชายแดนไทย-กัมพูชา

อินเดียไม่พอใจ! หลังไทยรื้อทำลายรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู

  • Breaking News
  • ปรีวิว-ฟันธง!ผีขาดเพียบชนสาลิกาบ็อกซิ่งเดย์ ปรีวิว-ฟันธง!ผีขาดเพียบชนสาลิกาบ็อกซิ่งเดย์
  • ‘อนุทิน’เปิดเหตุผลทาบ‘สีหศักดิ์’นั่งแคนดิเดตนายกฯ‘ภท.’ แย้มเลือกตั้งครั้งหน้าใช้‘คนใน’ ‘อนุทิน’เปิดเหตุผลทาบ‘สีหศักดิ์’นั่งแคนดิเดตนายกฯ‘ภท.’ แย้มเลือกตั้งครั้งหน้าใช้‘คนใน’
  • เบียร์ เดอะวอยซ์ แปลงโฉมเป็นซานตี้สาว สวยละมุนรับคริสต์มาส เบียร์ เดอะวอยซ์ แปลงโฉมเป็นซานตี้สาว สวยละมุนรับคริสต์มาส
  • \'ทภ.2\'แจงชัด! \'ศาลโลก\'ไม่เคยตัดสินเส้นเขตแดน-พื้นที่รอบ\'ปราสาทพระวิหาร\' 'ทภ.2'แจงชัด! 'ศาลโลก'ไม่เคยตัดสินเส้นเขตแดน-พื้นที่รอบ'ปราสาทพระวิหาร'
  • อุตุฯใต้เตือน! ‘ฝนถล่มหนัก’ ชาวประมงสงขลาเร่งเข็นเรือหนีคลื่น-หลังมรสุมซัดฝั่ง อุตุฯใต้เตือน! ‘ฝนถล่มหนัก’ ชาวประมงสงขลาเร่งเข็นเรือหนีคลื่น-หลังมรสุมซัดฝั่ง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อตกลงสร้างสันติภาพ ไทย-กัมพูชา

ข้อตกลงสร้างสันติภาพ ไทย-กัมพูชา

19 ธ.ค. 2568

ก.ม.แรงงานใหม่ คุ้มครองการคลอดบุตร

ก.ม.แรงงานใหม่ คุ้มครองการคลอดบุตร

12 ธ.ค. 2568

ชวนลงทุน หลอกลวง...ฉ้อโกง?

ชวนลงทุน หลอกลวง...ฉ้อโกง?

5 ธ.ค. 2568

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หนามยอกอก

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หนามยอกอก

28 พ.ย. 2568

ก.ม.อากาศสะอาด กับปัญหาเศรษฐกิจ

ก.ม.อากาศสะอาด กับปัญหาเศรษฐกิจ

21 พ.ย. 2568

ก.ม.ควบคุมดื่มแอลกอฮอล์ กับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ก.ม.ควบคุมดื่มแอลกอฮอล์ กับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

14 พ.ย. 2568

MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน

MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน

7 พ.ย. 2568

ล้านแล้ว…..จ้า ได้หมด….ถ้าสดชื่น

ล้านแล้ว…..จ้า ได้หมด….ถ้าสดชื่น

31 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved