บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย(AOT)ถึงแม้ว่า COVID-19 จะระบาดหนักมาตั้งแต่ปี 2563 แต่ AOT ไม่ได้หยุดแผนขยายสนามบินเพื่อรองรับการฟื้นตัวของผู้โดยสาร และเที่ยวบินหลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายไป เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 23 กันยายน โดยมีมุมมองเป็นบวกกับแนวโน้มการพลิกฟื้นของบริษัทตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จำนวนผู้โดยสารกลับมาฟื้นตัวขึ้นทั้งในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศและผู้โดยสารในประเทศที่ระดับประมาณ 50% และ 80% ของระดับก่อน COVID ระบาด ตามลำดับ
เรายังมองว่าแนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นบวกต่อเนื่อง AOT ได้พัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิผ่าน i) การขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่ II (ใช้งบ 6.25 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ปี 2564) ii) การก่อสร้างรันเวย์ที่สาม และ iii) การขยายหลุมจอดเครื่องบิน และการปรับปรุงภาคพื้นดิน ปัจจุบัน สนามบินสุวรรณภูมิเฟส I มีความสามารถที่จะรองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคน/ปี (ขณะที่มีการให้บริการจริง 63 ล้านคน/ปี ในปี 2562-63) และรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยว/ชั่วโมง
นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาสนามบินผ่านการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส II ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วจะรองรับผู้โดยสารได้อีก 15 ล้านคน/ปี (+33% จากปัจจุบัน) ทำให้ความสามารถในการรองรับผู้โดยสารทั้งหมดเพิ่มเป็น 60 ล้านคน/ปี คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเฟส II ภายในเดือนกันยายน 2566 เพื่อลดความแออัดของผู้โดยสาร หลังจากที่ผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาหลังจาก COVID-19 คลี่คลายลงไป สำหรับในระยะยาว AOT จะเดินหน้าพัฒนาศักยภาพของสนามบินผ่านการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส III จะทำให้รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเป็น 90 ล้านคน/ปี และรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นเป็น 94 เที่ยว/ชั่วโมง (โดยใช้งบ 2 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2566)
การที่ประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นด้านบวกสำหรับกำไร AOT ในอีกสองสามปีข้างหน้า เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมา เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี FY66F จากทั้งธุรกิจด้านการบิน และไม่เกี่ยวกับการบินของ AOT
เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนผู้โดยสารในปี 2566 นอกจากนี้ มองว่า ประมาณการของเรายังมี upside อีก ถ้าหากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566F ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ประมาณการปัจจุบันที่ 25 ล้านคน เมื่ออิงตามประมาณการของเรา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ล้านคน จะทำให้ประมาณการกำไรของเรามี upside อีกประมาณ 2%
เนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจึงยังคงมองบวกกับ AOT โดยเรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี FY66F ที่ 81 บาท (ใช้ WACC ที่ 9% และ TG ที่ 3%)
ปัจจัยเสี่ยงจาก COVID-19 กลับมาระบาดอีกระลอก, เศรษฐกิจถดถอย และ ความไม่สงบทางการเมืองของไทย
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี