บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทเมืองไทย แคปปิตอล หรือ MTC ดัชนีเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอลงบ่งชี้ว่าความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ยังแย่ โดยลูกหนี้ระดับล่างน่าจะเผชิญสภาวะที่ยากลำบากกว่ากลุ่มอื่นๆภาวะตลาดเช่นนี้น่าจะทำให้ NPL สูงต่อเนื่องใน 2H66F ทำให้ใช้เวลานานขึ้นกว่า NPL จะถึงจุดสูงสุด คาดว่าจะเลื่อนจาก 3Q66 เป็น 4Q66 ในฐานะที่ MTC เป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนสถานการณ์นี้จะเพิ่มแรงกดดันให้ MTC ยังต้องกำหนดค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) เพิ่มขึ้นไปในช่วงที่เหลือของปีนี้
MTC ใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะรักษาสัดส่วน NPL ให้ได้ตามเป้าที่ <3.5% โดยกำหนด credit cost ที่ 3.1%, ให้แรงจูงใจพิเศษกับพนักงานติดตามหนี้ผิดนัดชำระ, และตัดหนี้สูญ(write-off) หนี้เสียก้อนใหญ่ไปถึงประมาณ 1.6 พันล้านบาทในงวด 1H66 (จากประมาณ 1.6 พันล้านบาทในปี 2565) ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลงทำให้ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น และมีต้นทุนมากขึ้นในการจัดการกับหนี้เสียตลอด 2H66F เราจึงปรับเพิ่มสมมุติฐานต้นทุนพนักงานอีก 4% เพื่อสะท้อนถึงแรงจูงใจพิเศษในการติดตามหนี้ แต่ยังคงสมมุติฐาน credit cost ปี 2566/2567 เอาไว้ที่ 3.8%/3.25%
ขณะที่ NPL กำลังเพิ่มขึ้น MTC มีส่วนรองรับหนี้เสียต่ำ โดยสัดส่วน NPL coverage อยู่ที่ 105% (สัดส่วนที่ MTC สบายใจอยู่ที่ >100%) เรามองว่าขาขึ้นของ NPL รอบนี้น่าจะเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างน่าจะกินเวลานานพอสมควร เพราะกระแส NPL เกิดใหม่มาจากการขยายสินเชื่อเชิงรุก และใช้สัดส่วน LTV เชิงรุกมากเกินไปในช่วงระหว่างและหลัง COVID ระบาด นอกจากนี้ ฐานเงินทุนที่ตึงโดยมีสัดส่วน D/E อยู่ที่ 3.7xจะทำให้บริษัทใช้นโยบายขยายสินเชื่อเชิงรุกได้จำกัดในอนาคต จากสัดส่วน D/E ที่ 4.0x และอัตราการจ่ายเงินปันผล(payout ratio) ที่ 15% จะทำให้บริษัทขยายพอร์ตสินเชื่อได้ประมาณปีละ 20%
เราใช้สมมุติฐานว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ที่อ่อนแอลงจะทำให้กระแส NPL เกิดใหม่เพิ่มขึ้น และ NPL จะถึงจุดสูงสุดช้าลง จาก 3Q66 เป็น 4Q66 จะบีบให้บริษัทต้องกำหนด credit cost สูงขึ้นเพื่อล้างหนี้เสีย และรักษาสัดส่วน NPL เอาไว้ที่ <3.5% และยังต้องเพิ่มแรงจูงใจให้พนักงานติดตามหนี้ผิดนัดชำระ เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (opex) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% และการปรับลดสมมุติฐาน yield สินเชื่อปี 2566F/2567Fลงเหลือ 18.8%/18.8% (จากเดิมปีละ 19%) เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 38.50 บาท (จากเดิมที่ 36 บาท) แต่ปรับลดคำแนะนำจากถือเป็นขาย
ปัจจัยเสี่ยงจาก NPL และ credit cost เพิ่มขึ้น
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี