วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 06.00 น.
ภาคการผลิตไทยเสี่ยงชะลอตัวยาว

ดูทั้งหมด

  •  

nn KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2024 จะเติบโตได้ที่ระดับ 2.6% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 3.7% (การประมาณการที่ไม่รวมผลของนโยบาย Digital Wallet ก่อนหน้านี้คือ 2.9%) และคาดว่าเศรษฐกิจจะโต 2.8% ในปี 2025 ตามแนวโน้มศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเริ่มลดต่ำลงจากปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยการปรับประมาณการเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1. การนำผลของนโยบาย Digital Wallet ออกจากกรณีฐานในการประมาณการเศรษฐกิจ จากความไม่ชัดเจนและความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบาย 2. การปรับตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมลงเพื่อสะท้อนปัญหาสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงกว่าปกติและความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และ 3.รายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 มากและมีแนวโน้มยังไม่กลับมาปกติ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถโตได้ดีขึ้นในช่วงครั้งหลังของปี 2024 เมื่อการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะกลับมาชดเชยการชะลอตัวในช่วงก่อนหน้า และการผลิตภาคอุตสาหกรรมและระดับสินค้าคงคลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนสถานการณ์ที่น่ากังวล คือ ภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวติดกัน 5 ไตรมาส ซึ่งสะท้อนการสะสมสินค้าคงคลังจากความอ่อนแอของอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ และปัญหาความสามารถในการแข่งขันของไทย KKP Research ประเมินว่าภาคการส่งออกไทยจะสามารถฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยขยายตัว 1.8% สอดคล้องกับการคาดการณ์การขยายตัวของการค้าโลก อย่างไรก็ตามการเติบโตของปริมาณการผลิตในภาคอุตสาหกรรมไทยอาจขยายตัวได้น้อยกว่าและคาดการณ์ได้ยาก ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยโดยแบ่งภาคการผลิตออกได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่


1. กลุ่มที่มีการเร่งผลิตในช่วงที่อุปสงค์ชะลอ ส่งผลให้มีสินค้าคงคลังอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ โดยพบว่าสินค้าส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มีปริมาณสินค้าคงคลังเฉลี่ย 6 เดือนล่าสุดสูงกว่าค่าเฉลี่ย ในขณะที่มีการผลิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจจะใช้เวลาสักระยะในการลดปริมาณสินค้าคงคลังก่อนที่การผลิตจะกลับมาขยายตัวได้ 2.กลุ่มธุรกิจที่กำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง สะท้อนจากดัชนีการผลิตที่หดตัวลงต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีส่งสัญญาณความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงหรือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรม KKP Research ประเมินว่าสินค้าในกลุ่มนี้คิดเป็นมูลค่าเพิ่มทั้งหมดประมาณ 23% ของภาคการผลิตไทย ที่เห็นได้ชัด คือ การผลิตสิ่งทอ การผลิตโลหะ การผลิต Hard Disk Drive ในกลุ่มนี้แม้การผลิตอาจจะกระเตื้องขึ้นได้บ้างตามวัฏจักร แต่ก็มีความน่ากังวลในระยะยาว 3.กลุ่มที่สามารถฟื้นตัวตามอุปสงค์โลกได้ คิดเป็นประมาณ 50% ของมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตไทย ด้วยเหตุนี้ แม้อุปสงค์โลกจะพอฟื้นตัวได้ในปีนี้ แต่การผลิตในภาคอุตสาหกรรมไทยที่เป็นมาตรวัดสำคัญตัวหนึ่งใน GDP จะยังคงฟื้นตัวได้ช้า

KKP Research ประเมินว่าการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นแรงส่งของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างไรก็ดีมีความท้าทายสองด้านที่อาจทำให้ภาคการท่องเที่ยวไม่สามารถกลับมาเป็นแรงส่งหลักต่อเศรษฐกิจไทยได้เท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 คือ 1.การใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่ำลงกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดจากทั้งโครงสร้างนักท่องเที่ยวและพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป 2.KKP Research ยังคงการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2024 ที่ 35.2 ล้านคน แต่นักท่องเที่ยวจีนที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้าลงกว่าเดิมหรืออาจไม่กลับมาในจำนวนเท่าเดิมอีกต่อไปตามสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลง

KKP Research ประเมินว่าภายใต้เงื่อนไขของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ค่าเงินบาทในระยะยาวจะเข้าใกล้จุดเปลี่ยนที่อาจกลับด้านเป็นอ่อนค่า มากกว่าแนวโน้มแข็งค่าที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงปี 2015-2019โดยมาจากสองเหตุผลสำคัญ คือ 1) ดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะเกินดุลได้ลดลงตามดุลการค้า โดยคาดว่าปี 2024 จะเกินดุลเพียง 0.8% 2) อัตราดอกเบี้ยของไทยจะอยู่ในระดับต่ำลงตามทิศทางเงินเฟ้อและศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยและต่างประเทศกว้างกว่าในอดีต

ประเมินว่าเงินเฟ้อทั้งในปี 2024 และ 2025 จะอยู่ในระดับต่ำที่ 0.8% และ 0.9% ตามลำดับซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย และคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ และ 1 ครั้งในปี 2025 โดยมีเหตุผลสำคัญ คือ 1.ระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยสูงกว่าที่คาดไว้ จากแนวโน้มการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะปานกลางที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ 2.ระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่เหมาะสมกับการเติบโตของเศรษฐกิจอาจมีการปรับตัวลดลงตามศักยภาพการเติบโตในระยะยาว 3.แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไทยกำลังเผชิญอยู่เป็นสถานการณ์ที่มีความท้าทายและการชะลอตัวเศรษฐกิจไทยไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพียงอย่างเดียว เพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจบางส่วนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไทยสั่งสมมาอย่างยาวนานและเริ่มได้ส่งผลกระทบชัดเจนขึ้น ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าภาครัฐจำเป็นต้องมีการดำเนินนโยบายการคลังและนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากโครงสร้างควบคู่กันไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

** KKP Research **

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : ถึงเวลาที่ต้องผนึกกำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

หมุนตามทุน : ถึงเวลาที่ต้องผนึกกำลัง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

9 ก.ค. 2568

หมุนตามทุน : อุตฯก่อสร้างยังมีทางรอด...แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายความท้าทาย

หมุนตามทุน : อุตฯก่อสร้างยังมีทางรอด...แม้ต้องเผชิญกับหลากหลายความท้าทาย

2 ก.ค. 2568

รัฐบาลต้องไม่หยุดเดินหน้านโยบาย กำจัด”อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ”-เหล็กคุณภาพต่ำทุกชนิด

รัฐบาลต้องไม่หยุดเดินหน้านโยบาย กำจัด”อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ”-เหล็กคุณภาพต่ำทุกชนิด

11 มิ.ย. 2568

หมุนตามทุน : หาโอกาสการลงทุนได้ที่ไหน  ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเปราะบาง

หมุนตามทุน : หาโอกาสการลงทุนได้ที่ไหน ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเปราะบาง

4 มิ.ย. 2568

หมุนตามทุน : กนอ.ประกาศยุทธศาสตร์ \'HPOE\'  สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

หมุนตามทุน : กนอ.ประกาศยุทธศาสตร์ 'HPOE' สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

21 พ.ค. 2568

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

ทั่วโลกยังแห่ลงทุนทองคำ แรงซื้อจากรายย่อยไทยโตสูงสุดในอาเซียน

7 พ.ค. 2568

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน \'รมว.เอกนัฏ\'

หมุนตามทุน : 200 รง.เหล็กไทยรวมพลังหนุน 'รมว.เอกนัฏ'

30 เม.ย. 2568

หมุนตามทุน :  เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

หมุนตามทุน : เป็นกำลังใจให้ “รมว.เอกนัฏ”ไปให้สุดซอย ก่อนที่เหล็กเตาIFจะทำลายชีวิตคนและอุตสาหกรรมไทยไปมากว่านี้

23 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved