nn ภาคการส่งออก...เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2567 กลับมาติดลบครั้งแรกในรอบ 8 เดือน...โดยมีมูลค่า 24,960.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวสูงถึง-10.9% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน(YOY)....เราลองมาดูกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งฝ่ายวิจัยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์...ระบุว่าภาพรวมการส่งออกรายสินค้าหดตัวเกือบทุกกลุ่ม นำโดย1.สินค้าอุตสาหกรรมพลิกกลับมาหดตัว -12.3% จากที่ขยายตัว 5.2% ในเดือนก่อน โดยเฉพาะรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ขณะที่เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบเป็นสินค้าสำคัญที่ขยายตัว 2.สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวต่อเนื่อง -9.9% ใกล้เคียงเดือนก่อนที่หดตัว -9.1% น้ำตาลทรายและไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์เป็นสินค้าหลักที่หดตัว ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสินค้าสำคัญที่ขยายตัว 3.สินค้าแร่และเชื้อเพลิงหดตัวต่อเนื่อง -5% เทียบกับ -8.5% ในเดือนก่อน
นอกจากนี้ ภาพรวมการส่งออกหดตัวในเกือบทุกตลาดสำคัญ โดย 1.ตลาดญี่ปุ่น หดตัวรุนแรง -19.3% จาก -5.8% ในเดือนก่อนโดยการส่งออกสินค้าสำคัญ ของตลาดนี้ที่หดตัวคือ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเคมีภัณฑ์ 2.ตลาดจีน เป็นอีกตลาดหลักที่หดตัวต่อเนื่อง -9.7% จาก -5.7% ในเดือนก่อนโดยเฉพาะผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ 3.ตลาดยุโรป พลิกกลับมาหดตัว -3.2% จากที่เคยขยายตัว 1.7% ในเดือนก่อน 4.ตลาดเมียนมา หดตัว -14.8% ต่อเนื่องจาก -14.4% ในเดือนก่อน
SCB EIC ประเมินว่ามูลค่าการส่งออกไทยทั้งปีนี้คาดว่าจะพลิกกลับมาขยายตัวที่ 3.1%จากแรงสนับสนุนหลายด้าน ได้แก่ 1.ปริมาณการค้าโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก แม้จะไม่สดใสเหมือนที่ประมาณการไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในบริเวณทะเลแดง 2.ภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างประเทศจะกลับมามีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกมากขึ้นในปีนี้ เห็นได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตโลกที่พลิกกลับมาอยู่เหนือระดับ 50 สองเดือนต่อเนื่องหลังจากหดตัวมานาน นอกจากนี้ ดัชนี PMI ยอดคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศ (Export order) ยังมีแนวโน้มหดตัวน้อยลงขณะที่ดัชนี PMI ปริมาณผลผลิตในอนาคต(Future output) เริ่มขยายตัวเร่งขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว สะท้อนการขยายตัวของภาคการผลิตในระยะข้างหน้า 3.ราคาสินค้าส่งออกที่ดี เช่น ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่ลดลงจากภัยแล้งและนโยบายควบคุมการส่งออกสินค้าในบางประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความเสี่ยงการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียโดยจากยูเครน สถานการณ์ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยอาจได้เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการค้าโลก ได้แก่ 1.ปัญหาห่วงโซ่อุปทานจากความแห้งแล้งของคลองปานามาและการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีบริเวณทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญของไทยไปยังสหรัฐฯ และยุโรป ตามลำดับ ที่ยังคงกดดันการค้าโลกอยู่แม้ว่ามีแนวโน้มจะคลี่คลายลงในระยะต่อไป2.ปัญหาการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ และมาตรการกีดกันทางการค้าที่ถูกนำมาใช้เพิ่มเติม3.สถานการณ์สงครามระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล ซึ่งมีแนวโน้มจะลุกลามไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น อิหร่าน อย่างไรก็ดี เนื่องจากสงครามยังคงจำกัดอยู่ในกลุ่มประเทศใกล้เคียง ไม่ได้มีแนวโน้มจะขยายตัวเป็นวงกว้างไปในภูมิภาค และประเทศไทยมีสัดส่วนการค้ากับกลุ่มประเทศดังกล่าวค่อนข้างน้อยประเทศไทยจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามดังกล่าวค่อนข้างจำกัด
ขณะที่ Krungthai COMPASS ธ.กรุงไทย...ระบุว่า มูลค่าการส่งออกเดือนมี.ค. หดตัว 10.9% YoY จากผลของฐานในปีก่อนเป็นสำคัญ โดยติดลบในรอบ 8 เดือนและเป็นการหดตัวสูงสุดในรอบ 15 เดือน อย่างไรก็ตาม การหดตัวที่สูงในเดือน มี.ค. เป็นผลจากฐานสูงในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนเป็นสำคัญ ส่งผลให้สินค้าสำคัญหลายรายการหดตัว อาทิ ทองคำ ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ประกอบกับปัญหาสภาพภูมิอากาศทำให้การส่งออกผลไม้หดตัว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สินค้าสำคัญบางรายการหดตัวเนื่องจากการส่งออกที่ยังฟื้นตัวได้ช้า ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ ซึ่งคาดว่าสินค้าเหล่านี้ยังคงเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกในระยะข้างหน้า
Krungthai COMPASS ประเมินว่าการส่งออกจะยังฟื้นตัวได้ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น เรายังคงประเมินว่าการส่งออกในปีนี้มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ที่ 1.8% อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของการส่งออกมีความเสี่ยงมากขึ้นสะท้อนจากภาคการผลิตของประเทศเศรษฐกิจหลัก Manufacturing PMI ในเดือน เม.ย. ยังอยู่ในภาวะทรงตัวทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขณะที่ยุโรปยังคงหดตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์มีความเสี่ยงมากขึ้นจากทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ขยายวงกว้างไปสู่การโจมตีระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าหากการสู้รบกลับมารุนแรงและลากยาว และปัญหาความไม่สงบในเมียนมาที่อาจกระทบต่อการค้าชายแดนโดยเฉพาะด่านแม่สอดซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 61.8% ของมูลค่าการส่งออกไปเมียนมาทั้งหมด
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี