แค่เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่
เชื่อว่าในชีวิตของทุกคน น่าจะเคยตัดสินใจ “เลิก” หรือ “หยุด” ทำอะไรบางอย่าง
เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย หลายครั้งตัดสินใจเลิกทำ เลิกเดินบนทางเดิมแล้วรู้สึกเสียดาย
แต่เชื่อว่าก็คงมีหลายครั้งที่รู้สึกว่า “เออ คิดถูกแฮะ” หรือ “ดีแล้วที่ตัดสินใจเลิก” เพราะหลังจากตัดสินใจ อะไรดีๆ ก็วิ่งเข้ามาในชีวิตอีกมากมาย
สำหรับตัวผม การตัดสินใจเลิกทำ เลิกไปต่อที่เปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล ก็คือ
1.การตัดสินใจลาออกจากงานประจำ
ตอนนั้นอายุ 27 ปี หน้าที่การงานกำลังไปได้ดี จากวิศวกรหน้างาน ถูกส่งไปเรียนงานที่ญี่ปุ่น สู่ระดับบริหารโรงงาน ดูแลการสร้างโรงงานและวางระบบ operation
จนเสร็จ หลังมั่นใจว่าระบบเดินต่อไปได้โดยไม่มีเรา จึงตัดสินใจลาออก
ตอนนั้นอยากทำอาชีพที่ปรึกษา แน่นอนว่าเสี่ยง เพราะเริ่มต้นแบบฟรีแลนซ์ ก่อนหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัท
ตอนนั้นแค่เริ่มคิดว่าเราอยากเป็นอะไรในวันข้างหน้ายอมรับว่าไม่มีภาพผู้จัดการโรงงานอยู่ในหัวเลย ก็เลยตัดสินใจ“เลิก” อาชีพที่กำลังไปได้ดี
แต่สุดท้ายก็เหมือนตัดสินใจถูก แม้จะโคตรเหนื่อยในการสร้างกิจการตัวเอง แต่สุดท้ายก็ได้เป็นเจ้าของบริษัทที่ปรึกษาสมใจ จนระดับได้งานใหญ่จากบริษัทชั้นนำในประเทศและต่างประเทศหลายแห่ง
2.เลิกจากงานที่ปรึกษา มาเป็นโค้ชการเงิน
หลังแก้ปัญหาชีวิตผ่านพ้น ในปี’48 ผมทำงานที่ปรึกษาโรงงาน ควบคู่ไปกับงานการเงินส่วนบุคคล ทำคู่กันไปจนถึงจุดที่รู้สึกตัว ว่า “ไฟ” และ “พลัง” มันต่างกันมากในทุกวันที่ออกไปทำงาน
ไปบรรยายเรื่องเงิน ได้ตังค์น้อยมาก แต่สนุก งานที่ปรึกษาโรงงานตังค์เยอะกว่ามาก ทำเต็มที่ แต่มันรู้สึกต้องรีดต้องเค้น กลับบ้านมานอนสลบ ไม่เหมือนงานสอนการเงินส่วนบุคคล
ทำคู่กันไปอยู่นาน จึงคิดตัดสินใจว่าต้องเลือก สุดท้ายเลือกอะไรคุณผู้อ่านก็คงรู้แล้ว
มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก เพราะไม่เพียงแค่อนาคตของงาน ณ ขณะนั้น รายได้ ชื่อเสียงในวงการ และที่สำคัญ มันคือการตัดสินใจยุติการทำงานสายวิศวกรรมที่อุตสาห์เรียนมาตั้ง 6 ปี (คนอื่นเค้าเรียน 4 ปีอะนะ )
แต่ก็อธิบายไม่ได้ ว่าทำไมอยาก “พอ” และอยาก “เลิก”
รู้แต่ว่าเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องเดินหน้าเต็มที่ เพราะจะได้ไม่ต้องกลับมาเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองในภายหลัง
เชื่อว่าทุกคนมีเรื่องที่เคยตัดสินใจ และหลายคนคงมีเรื่องที่ตัดสินใจยากกว่าผมเสียอีก
เสี่ยงทิ้งงานที่ดีไปเริ่มต้นใหม่ ก็ว่าตัดสินใจยากแล้ว จะ “ล้มเลิก” จากสิ่งที่ทำยังไม่เสร็จ ยังไม่สำเร็จ ไปสู่สิ่งใหม่… ยิ่งยากกว่า
เพราะคำครหาที่ว่า “ล้มเหลว” “เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ” “นิดหน่อยก็ยอมแพ้” และอื่นๆ จะถาโถมมาทันที
แต่แล้วยังไง ใครจะรู้ดีไปกว่าเรา ว่าจังหวะไหนควร “เลิก” จังหวะไหนควร “ปล่อย” หรือจังหวะไหนควร “พอ”
ถ้าเราเปลี่ยนคำว่า “เลิก”
เป็นคำว่า “เปลี่ยน”
เชื่อว่าเราคงมองการเปลี่ยนใจ เปลี่ยนเส้นทาง ด้วยทัศนคติที่ดีขึ้น
ใช่ครับ! เราแค่ “เปลี่ยน” เปลี่ยนเพื่อสิ่งใหม่ โอกาสใหม่ประตูบานใหม่ ที่ก็ยังไม่รู้หรอกว่าดีกว่าหรือเปล่า
แต่เมื่อตัดสินใจเปลี่ยน เชื่อว่ามันคือโมเมนต์ใหม่ๆที่อย่างน้อยก็ทำให้เราเบาจากความรู้สึกเดิม รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และเตรียมสำหรับพร้อมเจอสิ่งใหม่
ไม่ใช่ “ล้มเหลว” หรอก
มันก็แค่ “จุดเปลี่ยน”
เล่าเรื่อง “จุดเปลี่ยน” ของคุณมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ เผื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจว่าจะ “เปลี่ยน” ไปเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ดีมั้ย
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี