บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) อัปเดตบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพหรือ BEM เริ่มที่ธุรกิจทางด่วนปริมาณรถเฉลี่ยและรายได้เติบโต 0.4% และ 0.9% YoY เดือนสิงหาคม2567 อยู่ที่ 1.13 ล้านเที่ยว/วันและ25.97 ล้านบาท ตามลำดับ ปริมาณรถและรายได้ลดลงต่ำสุดเดือนเมษายน 2567 ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ จากนั้นทยอยฟื้น สำหรับ 8M67 ปริมาณรถเฉลี่ย 1.11 ล้านเที่ยว/วัน (ต่ำกว่าเป้าเต็มปีนี้ที่ 1.17 ล้านเที่ยว/วัน) หรือเท่ากับรายได้ที่ 25.50 ล้านบาท/วัน
รายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟฟ้าเดือนสิงหาคม 2567 โต 14% YoYอัตราการเติบโตของผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ย 7-9% YoY ต่อเดือนช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2567 ลดลงจากเลขสองหลักช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคมสวนทางกับรายได้จากการจำหน่ายบัตรเฉลี่ยเพิ่ม 12% YoYในเดือนกรกฎาคมและ 14% YoY ในเดือนสิงหาคมหลังราคาตั๋ว ฯ MRT เพิ่ม 1-2 บาท/สถานีตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ผู้โดยสารเฉลี่ยเดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่4.50 แสนคน/วัน ทำให้ช่วง 8M67 เฉลี่ย 4.185 แสนคน/วัน ต่ำกว่าเป้าเต็มปีนี้ที่ 4.40 แสนคน/วัน (+13% YoY) รายได้เฉลี่ยจากการจำหน่ายตั๋วฯ ช่วง 8M67 อยู่ที่ 11.6 ล้านบาท/วัน (+12.5% YoY)
อัปเดตนโยบายค่าตั๋วโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแนวทางการซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าน่าจะหาแหล่งเงินทุนได้จากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 3 แสนล้านบาท รัฐบาลอาจใช้เวลาศึกษาอย่างรอบคอบ รมว.คมนาคม ผู้เสนอให้มีราคาค่าตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะเริ่มจากเดือนกันยายนหรือตุลาคม 2568 กำลังหาวิธีใช้ระบบตั๋วร่วมและแบ่งรายได้สายสีน้ำเงินในส่วนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (MRTA) เป็นแหล่งเงินทุนอุดหนุน มูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท ภายหลังการซื้อสัมปทานกลับมาเป็นของรัฐสัญญาจะแปลงเป็นจ้างเอกชนดำเนินงานจากเดิมเป็นเอกชนรับสิทธิ์ในการเก็บรายได้และรับความเสี่ยงทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลจะรายได้โดยตรงและว่าจ้างบริษัทเอกชนเดินรถไฟฟ้าถึงสิ้นสัมปทานเดิม
เราคาดกำไร 3Q67F เพิ่มทั้ง YoY และ QoQ แรงหนุนจากเงินปันผลของบริษัทร่วม เราคงคำแนะนำซื้อ และราคาเป้าหมายที่ 11.20 บาท มาจากธุรกิจหลัก 9.00 บาท อีก 0.80 บาทจากการลงทุนใน Thai Tap Water (TTW) และCK Power (CKP) อีก1.40 บาทจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพราะรัฐบาลคงผลประโยชน์กับ BEM ตามสัญญาสัมปทานเดิมและรัฐจะรับภาระส่วนต่างราคาให้กับผู้บริโภคสำหรับค่าทางด่วนหรือค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มองว่าไม่มีผลกระทบต่อกำไร หากรัฐซื้อสัปทานคืน BEM จะได้รับเงินก้อนใหญ่
ปัจจัยเสี่ยงจากความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี การเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ๆ การแก้ไขสัญญาๆ ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่มา : เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี