วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / กฎ กติกา ธุรกิจ
กฎ กติกา ธุรกิจ

กฎ กติกา ธุรกิจ

รุจิระ บุนนาค
วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
นโยบายภาษี ที่ไม่ชัดเจน

ดูทั้งหมด

  •  

การแสดงวิสัยทัศน์ของ นายพิชัย ชุณหวชิร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Sustainability Forum 2025 : Synergizing for Driving Business ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3-4 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาโดยหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจเกี่ยวกับภาษีของประเทศ ได้ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งบ้านทั้งเมืองทั่วประเทศ จนกลายเป็น Talk of the Town

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า จะปรับอัตราภาษีถึง 3 ประเภท คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือเพียง 15%, ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะเป็นอัตราเดียว 15% และภาษีมูลค่าเพิ่ม จะเพิ่มเป็น 15% ซึ่งเท่ากับอัตราภาษีทั้งสามชนิดนี้จะเป็นอัตราเดียวกันหมดคือ 15% โดยอ้างอิงว่า เป็นอัตราของประเทศที่ พัฒนาแล้วหลายประเทศ


ภาษีเงินได้นิติบุคคล ปัจจุบันเก็บที่ 20% ของกำไรสุทธิ สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5,000,000 บาท มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีสำหรับกำไรสุทธิ 300,000 บาท แรก และได้รับสิทธิเสียภาษีในอัตรา 15% สำหรับกำไรสุทธิที่ไม่เกิน 3,000,000 บาท ส่วนกำไรสุทธิที่เกิน 3,000,000 บาท จะเสียภาษีในอัตรา 20% ตามปกติ

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลปัจจุบัน ถือว่าดีอยู่แล้ว เพราะบริษัทที่มีขนาดกิจการไม่ใหญ่ได้ประโยชน์จากอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล 15% หากจะปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 15% เท่ากันหมด บริษัทที่ได้รับประโยชน์ กลับกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีกำไรสุทธิสูงจากที่เคยเสียอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% จะเหลือเพียง 15% รายได้ของรัฐจะลดน้อยลง และที่สำคัญคือ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทที่มีกิจการขนาดใหญ่ โดยที่รัฐบาลไม่ได้ประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้น ทั้งที่ รัฐบาลต้องการเก็บภาษีมากขึ้น

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปัจจุบันเป็นอัตราก้าวหน้า ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่มีรายได้มาก ต้องเสียภาษีสูงมากขึ้น เป็นอัตรา ภาษีที่เป็นขั้นบันได แต่ตามอัตรา ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาธรรมดาใหม่ ที่จะเก็บเพียง 15% เท่ากันหมด เมื่อนักวิชาการยกตัวอย่างขึ้นเปรียบเทียบ ให้เห็นชัดเจน ผลปรากฏว่า ผู้ที่มีรายได้มาก เสียภาษีในอัตราที่น้อยลง ในขณะที่ผู้มีรายได้น้อยกลับเสียภาษีมากขึ้น สร้างความงงงวยและหาวเรอ ให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นอย่างมาก

ในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม ปัจจุบันอัตราอยู่ที่ 7% หากบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล เป็นผู้ซื้อสินค้า หรือบริการ และนำไปขายต่อ สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มซื้อและขายหักลบกันได้ แต่ประชาชนผู้บริโภคที่ต้องซื้อสินค้าและบริการ โดยหลักการเป็นผู้ที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มโดยตรงไม่สามารถนำไปหักลบกับใครได้ อยู่ๆ จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 15% แสดงว่าจะต้องจ่ายเงินค่าครองชีพเพื่อซื้อสินค้าและบริการสูงเพิ่มขึ้นอีก เพราะภาษีมูลค่าเพิ่ม มีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

หากจำเป็นต้องขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก7% ซึ่งเป็นอัตราปัจจุบัน จำเป็นต้องใช้เวลา มีการบอกกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้รู้ตัวก่อนและปรับตัว ในหลายประเทศการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็น 10% หรือกว่า10% ใช้เวลานานถึง 10 ปีเศษ

หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แสดงวิสัยทัศน์ไปแล้ว นักวิชาการและประชาชนได้แสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก หากเปรียบเทียบว่ารัฐมนตรีกระทรวงการคลังเป็นนักมวย ถือว่า เมื่อรับฟังความคิดเห็นและคำพิพากษาวิจารณ์แล้ว เป็นนักมวยที่มีสภาพสะบักสะบอม จนจำหน้าตาแทบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่า อัตราภาษีใหม่เป็นการช่วยคนรวย หรือว่าซ้ำเติมคนจนกันแน่

ในที่สุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรวมทั้งรัฐบาลและได้เปลี่ยนท่าทีในเรื่องนี้ อย่างฉับพลัน หากเป็นเรือขนาดใหญ่หรือรัฐนาวา ต้องถือว่าเป็นการกลับลำ หันหัวเรือเปลี่ยนทิศ แทบไม่ทัน ถ้าเป็นสำนวนในยุคนี้ต้องเรียกว่า ทัวร์ลงอย่างหนัก โดยเปลี่ยนท่าทีเป็นว่า เรื่องการปรับเปลี่ยนอัตราภาษี อยู่ในขั้นตอนการศึกษาหาข้อดี ข้อเสีย และใน
ขณะนี้ยังไม่ปรับเปลี่ยนอัตราภาษี

หากพิจารณาถึงการกล่าวสุนทรพจน์ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องภาษี ที่ถือว่า เป็นรายได้หลักของประเทศและรัฐบาล การพูดแสดงวิสัยทัศน์ ต้องมีความชัดเจน และคาดการณ์ไว้ก่อนล่วงหน้าว่า จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง

การปรับเปลี่ยนท่าที เกี่ยวกับอัตราภาษีใหม่ของรัฐบาล ไม่น่าจะเป็น การโยนหินถาม แต่เหมือน การก้าวเท้าติดโคลน แล้วรีบชักเท้ากลับเสียมากกว่า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:21 น. ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
22:14 น. ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
22:06 น. จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
22:01 น. พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
21:55 น. ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
ภาพแห่งความสัมพันธ์ฉันมิตร! 'ในหลวง-พระราชินี'เสด็จฯเยือนปักกิ่งวันที่ 2 รัฐบาลจีนต้อนรับถวายพระเกียรติยศสูงสุด
ดูทั้งหมด
เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน
ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’
คุยกันแบบนักเลง
สงครามสี
อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่

จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

ศึกอสรพิษ!‘งูบู๊ตะขาบ’ สุดท้ายไม่พ้นมือกู้ภัยอุดรธานี

ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

  • Breaking News
  • ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
  • ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
  • จาก\'อังกฤษ\'สู่\'ไทย\' : เปิดใจ\'จู๊ด เบลล์\'วันแจ้งเกิดช้างศึก จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
  • พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’ พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
  • ปากดีต้องโดนแบบนี้! \'ยุ้ย ญาติเยอะ\'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่ ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ก.ม.ควบคุมดื่มแอลกอฮอล์ กับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ก.ม.ควบคุมดื่มแอลกอฮอล์ กับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

14 พ.ย. 2568

MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน

MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน

7 พ.ย. 2568

ล้านแล้ว…..จ้า ได้หมด….ถ้าสดชื่น

ล้านแล้ว…..จ้า ได้หมด….ถ้าสดชื่น

31 ต.ค. 2568

ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

24 ต.ค. 2568

บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?

บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?

17 ต.ค. 2568

หวยรัฐ เจ้าปัญหา

หวยรัฐ เจ้าปัญหา

10 ต.ค. 2568

ร่างกม.นิรโทษกรรมรุกป่า

ร่างกม.นิรโทษกรรมรุกป่า

3 ต.ค. 2568

ครม.ฮันนีมูน

ครม.ฮันนีมูน

26 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved