ขณะที่เขียนต้นฉบับคอลัมน์นี้ ทุกคนในประเทศไทยคงรู้ผลประชามติกันแล้วว่าออกมาในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะโหวต “รับ” หรือ “ไม่รับ” ขอแสดงความนับถืออย่างจริงใจในการที่ทุกคนเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองและใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
แม้ว่าการเมืองในอเมริกาจะไฟลุกท่วมเวทีหาเสียงทั้งสองฝั่งก็ตาม แต่ขอผลัดเอาไว้เขียนอาทิตย์หน้าแทน เพราะสถานการณ์ในเมืองไทยบ้านเรานั้นแปลกๆ และไม่น่าไว้ใจในช่วงก่อนวันลงประชามติ เรื่องแปลกที่ว่านี้มาจากสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยนั่นเอง
ใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศมาตลอดคงเริ่มมองเห็นว่าไอเอสขยายการก่อการร้ายเขยิบเข้ามาใกล้บ้านเราเข้าไปทุกที โดยมีข่าวการป่วนเมืองของกลุ่มนี้ในประเทศเพื่อนบ้านของเราถี่ยิบ ทั้งที่เมื่อก่อนนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้น เคยมีข่าวว่าขบวนการก่อการร้ายมาฝังตัวแถวเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนนั้นบรรดาหัวก้าวหน้าและนักวิชาการแดงหัวเราะกันลั่นแล้วกล่าวหาว่าทั้งหมดนี้เป็นการมโนไปเองทั้งสิ้น แปลกเหลือเกินที่คนทั้งโลกรู้กันหมดว่าไอเอสนี่เป็นเด็กสร้างของใคร แต่ดูเหมือนว่าธงประชาธิปไตยจอมปลอมและโฆษณาชวนเชื่อของลุงแซมจะปิดดวงตาของคนกลุ่มนี้จนมืดมิดมองไม่เห็นความเป็นจริงของโลก และมองไม่เห็นถึงการแทรกแซงของลุงแก คงลืมไปแล้วล่ะมั้งว่า นโยบายปิดล้อมจีนของลุงแซมที่เรียกว่า Pivot Policy นั้น ไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญมากในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าอาเฮียมังกรจีนหรือพี่หมีขาวก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับให้เข้าซบทั้งนั้น ลุงแซมรู้ดีที่สุดในเรื่องนี้
เมืองไทยคือจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางการทหารแห่งหนึ่งในเอเซีย เวลานี้ทั้งอาเฮียมังกรและหมีขาวต่างก็เอาใจเราอย่างสุดๆ ในขณะที่ห่างเหินลุงแซมไปเพราะความปากหมาสาระแนของลุงแกเอง ลุงแซมแกหวานใส่เราตลอดเพื่อขอใช้ประเทศเราเป็นฐานทัพอีกหนเพื่อเอาไว้ส่องอาเฮียกับคานอำนาจหมีขาว ลุงแซมยิ้มหวานเห็นฟันผุทุกซี่แล้วอ้างความเป็นพันธมิตรเก่าแก่พลางโอบบ่าสนิทสนมจนน่าขนลุก หากกลับไปอ่านประวัติศาสตร์ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าลุงแซมเป็นพันธมิตรที่ดีจริงๆ เพราะถลกตูดเผ่นช่วงสงครามเวียตนาม ทิ้งเราหน้าซีดเหลือสองนิ้วรับหน้าเพื่อนบ้านเพียงลำพัง แถมยังต้องกวาดล้างทำความสะอาดขี้ที่ลุงแกทิ้งไว้ให้อีกพะเรอเกวียน
ถ้าไทยไปอิ๋อ๋อกับลุงแกอีกรอบแบบไม่หลาบจำ ฟันธงได้เลย ความสัมพันธ์กับพม่า ลาว กัมพูชา และเพื่อนบ้านในเอเซียจะมีปัญหาแน่นอน โดยเฉพาะคู่กรณีที่จ้องตากันเขม็งในทะเลจีนใต้ ยิ่งถ้าหลงคำหวานลวงๆ ของลุงที่หว่านให้ไปเป็นลูกหาบแกตะลุมบอนกับกลุ่มไอเอสสาขาเอเซียตะวันออกฉียงใต้ รับรองได้เลยว่าความหายนะจะมาเยือนบ้านเราทันที เพราะชักศึกเข้าบ้านเห็นๆ
ผลประชามติจึงเป็นเรื่องที่ลุงแซมจับตามองเขม็ง เพราะมีผลกระทบต่ออนาคตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการวางหมากขั้นต่อไปในเกมปิดล้อมจีนและรัสเซีย หากสังเกตนิดหนึ่งก็จะเห็นว่าลุงแซม “กันพลาด” ไว้แล้วด้วยการควงแขนเอาใจสิงคโปร์เป็นการเผื่อเอาไว้อีกก๊อกหนึ่ง
วกมาถึงสันดานลุงแซมก่อนช่วงลงประชามติ สถานทูตอเมริกาทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยการออกประกาศเตือนคนอเมริกันผ่านเว็บไซต์ว่าจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญทั่วประเทศไทย จึงเตือนให้ชาวอเมริกันระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝูงชนและการชุมนุม โดยระบุด้วยว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ประกาศห้ามการชุมนุมทางการเมืองและมีข้อกำหนดที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อ สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นและการชุมนุม โดยกองทัพมีอำนาจในการควบคุมการเคลื่อนไหวและตรวจค้นอาวุธ
แถมแนะนำให้พลเมืองของตนทั้งที่เดินทางท่องเที่ยวและพำนักในประเทศไทยรายงานตัวผ่านทางเว็บไซต์หรือติดต่อโดยตรงที่สถานทูตเพื่อความสะดวกต่อการดูแลพลเมือง ประกาศท่อนนี้สำคัญมาก เพราะ ระบุว่า “พลเมืองของสหรัฐฯ อาจจะได้พบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารปรากฏตัวอยู่ทั่วไปในช่วงเวลาการลงประชามติ บุคคลทั่วไปรวมถึงชาวต่างชาติอาจถูกควบคุมตัวได้หากวิพากษ์วิจารณ์ คสช. หรือสถาบันกษัตริย์ในที่สาธารณะ” ขอแนะนำให้พลเมืองของสหรัฐฯ ตื่นตัวและระมัดระวังรวมถึงจับตาสถานการณ์จากทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมประท้วงหรือการชุมนุมขนาดใหญ่
ในฐานะคนไทยที่อาศัยในอเมริกามาสิบกว่าปี หากจะถามว่าประกาศแบบนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติไหม ก็คงตอบได้ว่า การออกประกาศเตือนนั้นถือเป็นสิทธิ์ของทางสถานทูตที่ต้องป้องกันคนในประเทศไว้ก่อน แต่มีความจำเป็นขนาดไหนที่ต้องออกมากวนน้ำให้ขุ่นเพื่อสร้างความตื่นตระหนกเหมือนว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในเมืองไทยอย่างแน่นอน ในฐานะคนไทยต่างแดนคนหนึ่ง ดิฉันไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นในวันลงประชามติ อาจจะเกิดการดราม่าท้าทายเล็กน้อยโดยนักศึกษาหรือบรรดาหัวก้าวหน้าที่กระหายพื้นที่ข่าว ก็คงมีเท่านั้นแหละ
แต่ลุงแซมจงใจขยายผลให้เกิดผลทางจิตวิทยา เพราะคนอเมริกันนั้นตื่นตกใจง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จุดมุ่งหมายที่แฝงเร้นในการนี้คือ ต้องการสร้างเรื่องและขยายเรื่องให้เกิดประเด็นทางการเมืองให้คนอเมริกันหวาดกลัวและคิดว่าเมืองไทยนั้นไม่น่ามาท่องเที่ยว การเน้นว่าคนอเมริกันอาจจะได้พบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารปรากฏตัวอยู่ทั่วไปในช่วงเวลาของการลงประชามติ บุคคลทั่วไปรวมถึงชาวต่างชาติอาจถูกควบคุมตัวไว้สอบสวนได้ หากวิพากษ์วิจารณ์คสช.หรือสถาบันกษัตริย์ในที่สาธารณะ ทำราวกับว่าบรรยากาศเมืองไทยตอนนี้ตึงเครียด คุกรุ่นรุนแรง ไม่น่าวางใจและเต็มไปด้วยอันตรายที่สุด แถมแขวะกระทบสถาบันกษัตริย์ไปโน่น ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับการลงประชามติหนนี้
ที่ทุเรศไปกว่านั้นคือมีการออกประกาศเตือนโต้งๆ ว่าคนอเมริกันไม่ควรไปวุ่นวายแถวหน่วยลงประชามติ แต่ลุงแซมดันส่งเจ้าหน้าที่ไปจุ้นในหน่วยลงประชามติเสียเอง โดยออกจดหมายอย่างเป็นทางการว่าสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยจะจัดเจ้าหน้าที่การทูตอเมริกันและพนักงานคนไทยของสถานทูตไปตระเวณดูบรรยากาศและเรียนรู้กระบวนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอย่างไม่เป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม
เจ้าหน้าที่เหล่านี้จะไปสาระแนที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ๆ มีข่าวออกมาแล้วว่าสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยส่งเจ้าหน้าที่ 3 คน เพื่อเข้าสังเกตการณ์กระบวนการขั้นตอนการลงประชามติที่นครศรีธรรมราช การสอดจมูกเข้าไปยุ่งกิจการภายในประเทศอื่นโดยกรรมการการเลือกตั้งไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปที่หน่วยลงประชามติเช่นนี้ แถวบ้านเรียกสั้นๆ ว่า “เสือก” !
คงกะเอาแม่ไม้ “โลกล้อมไทย” มุขเก่าๆ มาใช้เพื่อหนุนสหายแดงทั้งหลายที่ป้อแป้และบ้อท่าอยู่ขณะนี้ หมดท่าขนาดคนหนีคุกยังโผล่หน้าออกมาแขวะกระทบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สมุนหอนรับกันเกรียวกราวก่อนการลงประชามติ การโผล่หน้ามาหนนี้เป็นปรีดาแก่บรรดาสมุนที่แกว่งหางรับกันทั่วหน้าที่เห็นหน้านายออกมาปลุกเร้าเหมือนทุกหนที่เข้าตาจน คนหนีคุกคงไม่ลืมหันไปหาลุงแซมให้ช่วยกันบีบภายใต้ธงประชาธิปไตยเหมือนเก่า ลุงเลยต้องสอดจมูกเข้ามาเป็นแนวร่วมสัมภเวสีให้ชาวบ้านก่นด่าว่าทำตัวเป็นเสือใส่เกือกเช่นนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี