อาหารจานเดียวหรือชามเดียวที่ยังคงความนิยมกันถ้วนทั่ว โดยเฉพาะเช้าวันโหยหรืออยู่ระหว่างการเดินทางไกล หากได้ต้มเลือดหมูสักถ้วยข้าวเปล่าสักจานเป็นอาหารเช้าจานด่วนอันสุดอมตะที่ปลุกประสาทให้สดใสพร้อมจะโลดแล่นไปไหนถึงไหน จะสังเกตได้จากร้านขายต้มเลือดหมูนี้ปรากฏตามริมทางหลวงทั่วประเทศ เช่นที่เมืองพัทยาต้มเลือดหมูเจ้าดังมีถึง 6 สาขา ดักอยู่ทุกทิศทุกทางเข้าพัทยา ริมปากทางเข้าจังหวัดสิงห์บุรี ที่จังหวัดนครปฐม หรือทางเข้าอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในกรุงเทพฯ ร้านต้มเลือดหมูเวิ้งนาคาเขษม ซึ่งปัจจุบันย้ายมาที่ซอยสารภี หรือร้านแถววัดบางปะกอก ฝั่งธนบุรี เป็นต้น แต่ละแห่งจะเห็นผู้คนอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
คนจีนมีความเชื่อว่าถ้ากินส่วนใดของสัตว์ จะเป็นการบำรุงส่วนนั้นของร่างกาย เช่นกินหัวใจหมูก็จะช่วยบำรุงหัวใจ กินตับช่วยบำรุงตับ กินเลือดช่วยบำรุงเลือด หรือกินมันสมองหมูก็จะช่วยความจำ เป็นต้น ดังนั้นการกินต้มเลือดหมูหนึ่งถ้วย น่าจะมีส่วนช่วยบำรุงร่างกายเกือบทั่วทั้งตัวเลยทีเดียว
ในแง่คุณค่าทางโภชนาการสมัยใหม่ เลือดหมูมีไขมันต่ำ อุดมด้วยธาตุเหล็ก แต่มีโปรตีนสูงกว่าเนื้อสัตว์ จึงเป็นอาหารบำรุงร่างกายที่ดี ป้องกันโรคโลหิตจาง โรคจากหลอดเลือดหัวใจ โรคความจำเสื่อม ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย และยังช่วยลดความอ้วนได้ดีเนื่องจากมีไขมันระดับต่ำ
แกงจืดเลือดหมู หากใส่ใบจิงจูฉ่าย หรือมีชื่อตามตำราสมุนไพรไทยว่า “โกศจุฬาลัมพา” ซึ่งมีกลิ่นสมุนไพรค่อนข้างแรง และถือเป็นอาหารสูตรโบราณดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวจีนแต้จิ๋วโดยแท้ มีคุณสมบัติเป็นยาละมุน (ไม่ร้อนไม่เย็น) ใช้ขจัดพิษล้างลำไส้ บำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ
ใบจิงจูฉ่ายลวก ผักที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับต้มเลือดหมู มีใบเป็นรูปรี ขอบเป็นแฉกๆ 5 แฉกสีเขียว เนื้อใบหนา คล้ายต้นขึ้นฉ่าย รากหรือเหง้าใหญ่จะกระจายเป็นวงกว้าง แตกกิ่งก้านหนาแน่นเป็นกอคล้ายๆ ใบบัวบก จะมีกลิ่นหอม รสชาติขมเล็กน้อย การแพทย์เชื่อว่าจิงจูฉ่ายนั้นเป็นยาเย็น ชาวจีนจึงนิยมนำมาปรุงเป็นอาหารกินในหน้าหนาวเพื่อปรับสมดุลภายในร่างกาย ที่น่าอัศจรรย์ก็คือสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้ โดยการปั่นหรือตำคั้นน้ำออกมาดื่มเช้า-เย็น 1-2 ครั้งต่อวัน
ในช่วงก่อนมื้ออาหารสัก 1 ชั่วโมง ให้ติดต่อกันเป็นราว 2-3 เดือน ก็สามารถต้านทานต่อเซลล์มะเร็งได้ เมื่อก่อนนี้เคยกินที่ใส่ใบกุยช่ายก็มีนัยว่าช่วยแก้คาว แต่ปัจจุบันหาร้านที่ใส่ใบจิงจูฉ่ายนั้นค่อนข้างจะยาก โดยมากจะใส่แต่ใบตำลึง หรือใบขึ้นฉ่าย
สูตรจีนโบราณนอกจากจิงจูฉ่ายแล้ว ยังนิยมใบผักอื่นๆ เช่น เอี๊ยะบ้อเฉ่า เก๋ากี้ไฉ่ ใบปอ อย่างใดอย่างหนึ่ง (ผักเหล่านี้ถือว่าเป็นผักป่า มีสรรพคุณของสมุนไพรหลายประการ) บรรดาผักเหล่านี้ คนจีนที่ราชบุรี นครสวรรค์ ขอนแก่น ฯลฯ ได้ปลูกส่งขายที่ตลาดเก่าเยาวราช หรือที่ตลาดปากคลองตลาด
ผักพิสดารเหล่านี้ อาอึ้มคนหนึ่งบอกว่าสำหรับกินล้างอวัยวะภายใน โดยมากจะมีขายเฉพาะช่วงเทศกาลเดือนห้าของจีน
หากเดินทางลงใต้ทางถนนเพชรเกษม (ทล.4) เมื่อผ่านนครปฐมไปประมาณ 9.5 กม. มีสะพานโค้งทางต่างระดับ เพื่อแยกเข้าถนนแสงชูโต (ทล.323) ไปยังอำเภอบ้านโป่ง และจังหวัดกาญจนบุรี จากสะพานต่างระดับนี้ ขับเลยเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร มองด้านซ้ายมือเห็นสิ่งปลูกสร้างคล้ายโรงงานขนาดใหญ่ มีลานจอดรถด้านหน้ากว้างขวาง ตั้งป้ายสูงเด่น ชื่อ “ร้านอาหารฉางทอง”
ร้านนี้ใช้กระดูกสันหลังหมูวันละ 150-300 กิโลกรัม เพื่อต้มเคี่ยวน้ำซุป โดยใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ในการต้มเคี่ยวน้ำซุปจนใสแจ๋วหอมหวาน ส่วนการล้างเครื่องในหมู เช่นกระเพาะหมู ไส้หมู เซี่ยงจี๊ (ไต) ไส้อ่อน ม้าม ลิ้น ปอด ตับ มีวิธีการทำความสะอาดที่พิถีพิถัน ต้มแล้วไม่มีกลิ่นสาบสาง แต่ละส่วนมีเทคนิคเฉพาะ เช่นซี่ยงจี๊หรือไตนั้นผ่าแล่เอาเนื้อแดงกลางไตออกให้เกลี้ยง แล้วนำไปขยำเกลืออย่างเบามือจนหมดเมือกหมดกลิ่น แช่น้ำส้มสายชูประมาณ 4-5 นาที แล้วลวกน้ำเดือดพอสุก จึงแช่น้ำเย็นรอพัก
ส่วนตับนั้นหั่นชิ้นหนา 1 เซนติเมตร ล้างจนหมดเลือดแล้วแช่ในน้ำส้มสายชูผสมน้ำ 4-5 นาที ลวกน้ำเดือดพอสุก แช่น้ำเย็นรอปรุงต่อไป
สำหรับเลือดหมูนั้นร้านนี้เขาผูกปีสั่งเจ้าประจำให้ทำส่งแบบพิเศษผูกพันกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวดที่เป็นคนบ้านเดียวกันตั้งแต่สมัยยังผูกเปียจากอำเภอเตี้ยเอี้ย จังหวัดซัวเถา เนื้อเลือดนุ่มละเอียดอ่อนย้วย ไม่มีกลิ่นคาว ต่างจากเจ้าอื่นๆ ที่แข็งกระด้างกว่า
หม้อต้มน้ำซุปใบโตเคี่ยวตลอดเวลาจนบ่าย อาจจะสั่งซุปต้มกระดูกเล้งมาซดน้ำอันหอมหวานแยกอีกต่างหาก เอาใจคนชอบแทะกระดูก ใครเคยไปกินก๋วยเตี๋ยว แล้วชอบขอกระดูกหมูมาเล็มกินเล่น แต่คนขายก็ตักมาให้มากไม่สะใจขอให้มาร้านนี้ เขาจัดมาชามใหญ่เบ้อเริ่ม กินกันจนจุกไปข้างหนึ่ง เพียงราคาชามละ 60 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพง หากแลกกับความสะใจที่ได้แทะกระดูกกันอย่างเต็มๆ
เลือดหมูเป็นอาหารที่ดี แถมมีราคาถูกมาก เนื้อนุ่มทานง่าย เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและเด็กที่กำลังเจริญเติบโต ฉะนั้น ขออย่ามองข้ามของดีราคาถูกรายการนี้ไปเด็ดขาด จงรีบหาเลือดหมูมาทาน เพื่อสุขภาพของคุณเอง
หลายคนติดกินข้าวแกงตอนเช้า ก็มีบริการข้าวแกง ซดน้ำซุปเลือดหมูตาม เป็นมื้อเช้าที่แสนจะหรูหราแบบพื้นบ้านของเรา ข้าวแกงแบบบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีนั้นมีเอกลักษณ์ในกลิ่นรสแบบฉบับของตนเอง โดยเฉพาะพะแนง แกงเนื้อ เป็นที่กล่าวขวัญถึงจากข้าวแกงรถไฟสถานีคลองบางตาล และสถานีชุมทางหนองปลาดุก จนผู้โดยสารรถไฟที่ผ่านมาต้องตั้งตัวเตรียมเงินซื้อก่อนรถไฟจะจอด ปัจจุบันเขาแบกใส่ถาดไปขายถึงบนโบกี้รถไฟแล้ว
กุนเชียงทำเอง กุนเชียงเพียงกิโลกรัมละ 160 บาท ต่อเมื่อกลับบ้านลองทอดแล้ว ปรากฏว่าอร่อยกว่ากุนเชียงที่กรุงเทพฯ กิโลละกว่า 300 บาท
ฉางทองต้มเลือดหมู
116/5 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 (ถนนแสงชูโต) ตำบลหนองอ้อ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110
โทร.085-3548735 พิกัด 13.792165, 99.942338
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี