พื้นที่อำเภอเบตงเดิมเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปัตตานี ประชาชนดั้งเดิมของอำเภอเบตงนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมเชื้อสายมลายามาก่อน ต่อมาในปีพุทธศักราช 2443 ได้มีชาวจีนกลุ่มแรกที่เดินทางจากประเทศจีนโดยนำเรือมาขึ้นฝั่งประเทศมาเลเซียแล้วเดินทางเท้า หรือนั่งเกวียนเข้ามายังพื้นที่อำเภอเบตง ชาวจีนส่วนใหญ่เมื่อเข้ามาในอำเภอเบตงก็ได้รับจ้างถางป่าหักร้างถางพงผืนป่า หลังจากนั้นก็มีชาวจีนอพยพเข้ามาเรื่อย ๆ อาจกล่าวได้ว่าชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑลกวางสี ซึ่งเป็นมณฑลหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศจีน มีดินแดนบางส่วนติดกับประเทศเวียดนาม เป็นกลุ่มชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่มาบุกเบิกอำเภอเบตง เรียกว่ากลุ่มกวางไส แต่ในปัจจุบันชาวจีนในอำเภอเบตงยังมีอีกหลายกลุ่ม เช่น กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ฮ้ากก้า และแต้จิ๋ว เป็นต้น
อุโมงค์เบตงสีสันสกาวทุกค่ำคืน
ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ปัจจุบันอำเภอเบตงมีหลายภาษา โดยไม่มีภาษาใดโดดเด่นกว่ากัน ภาษาต่างๆ ถูกใช้กับแต่ละชุมชน ได้แก่ ภาษาไทยกลาง ชุมชนคนไทยเชื้อสายแต้จิ๋วและแคะ คนไทยเชื้อสายฮกเกี้ยน และภาษามลายูปัตตานีใช้กับชาวมลายู ส่วนภาษาไทยใต้ใช้ในกลุ่มคนไทยสยาม แต่ผู้สูงอายุส่วนหนึ่งยังใช้ภาษาจีนแต้จิ๋วและภาษาจีนแคะ
อำเภอเบตงเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลา มีระยะทางห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 140 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพมหานครพันกว่ากิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์เป็นเพียงวิธีเดียวในขณะนี้ (สนามบินเบตงอยู่ระหว่างการก่อสร้างจวนแล้วเสร็จ) ถนนระหว่างทางรายล้อมไปด้วยภูเขาที่ตั้งอยู่ตามโตรกเขาอันสลับซับซ้อน ธรรมชาติแห่งขุนเขายังคงสภาพป่าที่มีความเขียวชอุ่มคงความอุดมสมบูรณ์ รูปแบบบ้านเรือนและอาหารการกินประจำท้องถิ่นได้ผสมผสานกับประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติจนเกิดเอกลักษณ์ใหม่ ทำให้การตั้งถิ่นฐานอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
หอนาฬิกากลางเมือง
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สถานที่ประวัติศาสตร์ เบตงยังโด่งดังด้วยอาหารเฉพาะถิ่นที่ยังคงรสชาติดั้งเดิมหากินยากจากจังหวัดอื่น ในปัจจุบันจึงมีร้านอาหารมากมาย เกิดขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาอาหารพื้นเมือง ปัจจุบันรสชาติอาหารถ่ายทอดตามตำรับพื้นเมือง รวมทั้งร้านอาหารแบบชาวบ้านยังคงรักษารสชาติดั้งเดิมอีกหลายชนิด เช่น ไก่เบตงต้ม เคาหยก (หมูนึ่งเผือก) ผัดผักน้ำ ปลาจีนและปลานิลเลี้ยงด้วยน้ำไหลเย็นจากภูเขา กบภูเขา (เขียดแรว) เส้นหมี่ฮกเกี้ยนผัดหรือราดหน้า เต้าหู้เนื้อละเอียดทอดหรือแกงจืด ส้มโชกุนลูกโตรสหวานแซมเปรี้ยวชานนุ่ม
ไก่เบตง
ไก่เบตง เมื่อเอ่ยชื่อเบตงไม่ว่าใครคงต้องนึกถึงไก่เบตงเป็นลำดับแรก ไก่เบตงเป็นสายพันธุ์ไก่พันธุ์เนื้อพื้นเมืองที่นำพันธุ์มาจากประเทศจีนที่เรียกว่าไก่กวางไส เป็นต้นกำเนิด เป็นไก่มีขนาด 2- 3 กิโลกรัม นิยมกินไก่นี้ที่อายุ 4- 5 เดือน เนื้อจะหวานนุ่ม ชั้นไขมันและหนังบางกว่าไก่อื่นๆ พ่อครัวที่ชำนาญจะต้มสุกขนาดกำลังกิน หนังจะกรอบ เนื้อไก่นุ่มกำลังดีสับใส่จาน ราดน้ำซีอิ๊วอย่างเรียบง่าย
ถั่วเจี๋ยน
ถั่วฝักยาวผัดน้ำมันที่แสนจะธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดาทำให้ผู้ร่วมทางต้องสั่งเพิ่มอีกจาน เริ่มจากฝักถั่วที่เด็ดมาใหม่ขนาดสม่ำเสมอกำลังเหมาะ รสมือเชฟเร่งไฟกำลังแรงเร็ว ปรุงรสเล็กน้อย กรอบจนเคี้ยวดัง
ปลาจีนนึ่งบ๊วย
ปลาจีนมีลักษณะคล้ายปลากระบอกแต่มีขนาดโตกว่า เหตุที่เรียกว่าปลาจีนนั้นเพราะเป็นพันธุ์ปลาจากประเทศจีน ซึ่งส่งมาขายในมาเลเซีย ต่อมาชาวเบตงได้ซื้อลูกปลาจากแหล่งขายพันธุ์ปลาบริเวณชายแดนและนำมาเลี้ยงจนแพร่หลาย เป็นอีกตำรับเด็ดของเบตงโดยมากจะทำนึ่งบ๊วย เนื่องด้วยเป็นปลาที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ตัวโต ก้างไม่ละเอียดยิบย่อย เนื้อปลาละเอียดนับได้ว่าเป็นปลาชั้นดี
เคาหยก
เคาหยก อาหารที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมด้านอาหารของชาวจีนฮ้ากก้า (จีนแคะ) อาหารอีกรายการหนึ่งที่ได้สืบทอด จนกลายเป็นอาหารสัญลักษณ์ของเบตง ปรุงด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถันในแต่ละขั้นตอน โดยเริ่มจากการนำเนื้อหมู 3 ชั้น มาต้มให้สุกหมักกับเครื่องยาจีนแล้วทอดหนังหมูเริ่มพอง จากนั้นนำมาจัดวางสลับกับเผือกทอดและก่อนที่จะนำไปกินต้องนำไปนึ่งอีกครั้งซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงโรยหน้าด้วยผักชีเพื่อดับกลิ่นคาว นอกจากนึ่งกับเผือกบางสูตรใช้ผักเค็มแห้งรองชั้นล่าง ก็ชวนกินไปอีกแบบหนึ่ง
แกงจืดลูกชิ้นแคะ
ผ่านประสบการณ์การชิมลูกชิ้นทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ยอมรับว่าลูกชิ้นของคนจีนแคะ(ฮ้ากก้า) นั้นฝีมือไร้เทียมทานที่สุด ตั้งแต่น้ำซุปที่ใสหวาน ลูกชิ้นที่เนื้อแน่นปรุงรสลงตัวโดยไม่ผสมแป้งใดๆ น้ำซุปลูกชิ้นหมูชามนี้ช่วยแก้เลี่ยนจากบรรดาอาหารมันทั้งหมด
ผักน้ำ
ผัดผักน้ำ มีลักษณะคล้ายผักชีล้อม มีการเจริญเติบโตคล้ายผักบุ้ง ใบเล็ก ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ ชอบขึ้นในที่ที่มีอากาศเย็น มีการเจริญเติบโตได้ดีในหน้าฝน และหน้าหนาว หรือบริเวณที่มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา และต้องเป็นน้ำที่ไหลมาจากภูเขา โดยเฉพาะน้ำที่ไหลมาจากซอกหิน ชาวเบตงนิยมนำมาประกอบอาหารหลายอย่าง เช่น ผัดผักน้ำ ทำแกงจืด ต้มจิ้มกับน้ำพริก ต้มกับกระดูกหมู เป็นต้น นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนในอีกด้วย
กบภูเขาเบตง
กบภูเขาเบตง เป็นกบที่อาศัยอยู่ในป่าความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติสูง มีขนาดใหญ่กว่ากบทั่วไป น้ำหนักอยู่ที่ 0.5 – 1.0 กิโลกรัมต่อตัว ชาวเบตงนิยมนำกบเบตงมาผัด หรือทอดกระเทียมพริกไทย หรืออาจจะใช้เนื้อกบแทนเนื้อหมูใส่ในโจ๊ก หรือที่เรียกว่าโจ๊กกบ ส่วนรสชาตินั้น บอกได้คำเดียวว่าหากได้ลิ้มลองจะต้องติดใจ
หมูแดง
มีสาเหตุที่ต้องมาร้านนี้ซ้ำ 2 หน เพราะคราวที่มาครั้งแรก เถ้าแก่เจ้าของร้านตอกย้ำความอร่อยของหมูแดง โดยเล่าว่ามีลูกค้าเศรษฐีระดับพันล้านคนหนึ่งกล่าวชมว่าในโลกนี้ มีหมูแดง 2 ที่ ที่อร่อยสูสีกันได้แก่ “ร้านต้าเหยิน” กับที่ฮ่องกงเท่านั้น หมูแดงสูตรกวางตุ้งที่หมักได้หอมเครื่องเทศย่างได้นุ่มเนียนอย่างยากหาผู้ต่อกรื (หมายเหตุ) กรุณาสั่งจองล่วงหน้า 2 วัน
เต้าหู้น้ำแดง
ชาวจีนฮ้ากก้าได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มคนจีนที่เก่งการทำเต้าหู้ เมื่อปรุงกับเห็ดหอม กุ้งสด ถั่วลันเตา ราดหน้า จนรสทะลุมิติ
หมี่เบตงผัดแบบน้ำขลุกขลิก
หมี่อบแห้งสีเหลืองไข่ ซึ่งเป็นของดีขึ้นชื่อของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา หมี่เบตงนั้นเป็นอาหารแห้งประจำครัวชาวสวนเบตง เนื่องจากความสะดวกในการหยิบใช้ทำอาหาร
หมี่ผัดจานนี้เหมือนเป็นหมี่ราดหน้า ส่วนผสมของลูกชิ้นปลา กุ้งสด ผักคะน้า ผัดรวมกันจนขลุกขลิก ราดหน้าหมี่เหลืองนี้รสเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
เต้าหู้ทอด
เต้าหู้ทอดร้านนี้น่าจะเป็นฝีมือของคนจีนแคะอีกเช่นกัน เมื่อทอดจนกรอบนอกนุ่มใน เนื้อในเต็มไม่ฝ่อ จิ้มน้ำจิ้มแบบไทย ทั้งเปรี้ยวเค็มเผ็ดหวาน ยิ่งกินยิ่งติดลม
ผัดหมี่เหลือง
หมี่เหลืองเบตงแห้งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ส่งขายไปทั่วประเทศ เส้นที่ลวกน้ำร้อนและสลัดในน้ำเย็น เอามาผัดได้สารพัดเส้นเหนียวนุ่มชนิดที่เทียบเส้นลิงกวินี่ได้ รสชาติดีชนิดที่ไม่ต้องอาศัยฝีมือยังได้
ส้มโชกุน
จัดได้ว่าเป็นส้มที่รวบรวมเอาคุณสมบัติเด่นหลากหลายมารวมไว้ด้วยกัน เช่นลูกโต (บางครั้งแค่ 3 ลูกก็ชั่งได้ถึง 1 กิโลกรัม) มีกลิ่นหอม รสหวานอมเปรี้ยว ชานนิ่มและไม่ขม เปลือกบาง ซึ่งหากนำมาคั้นจะให้น้ำมากกว่าส้มทั่วไป มีลักษณะคล้ายส้มเขียวหวาน การเจริญเติบโตก็คล้ายๆ กับส้มเขียวหวาน เหตุเพราะว่าเป็นส้มที่ปรับปรุงพันธุ์โดยธรรมชาติ ระหว่างส้มเขียวหวาน และส้มแมนดารินจากประเทศจีน
และกว่าจะมาเป็นผลส้มที่พร้อมด้วยคุณลักษณะดังกล่าว ต้องผ่านการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ตั้งแต่การหมั่นใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่ง การป้องกันโรค และการป้องกันแมลงต่าง ๆ ด้วย ขณะนี้แม้ว่าส้มเบตงจะมีการเพาะปลูกกระจายไปในทุกภาคของประเทศ รสชาติแท้ของส้มโชกุนถือว่าต้องมาที่เบตง ต้นตอแหล่งปลูกส้มโชกุนมีคุณภาพดีที่สุดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพราะพื้นที่นั้นมีลักษณะพิเศษ เป็นที่ราบสูง ภูเขาสลับซับซ้อน ดินร่วน อุณหภูมิประมาณ 20-27 องศา (กำลังเย็นสบาย) ปริมาณน้ำฝนประมาณ 2,000 มม. ต่อปี
ต้าเหยิน
253 ถนนสุขยางค์ ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา 95110
โทร. 073 230 461
ภาพ ดวงเดือน/มีรัติ รัตติสุวรรณ
แผนที่ มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี