มติ กต. เป็นเอกฉันท์ ได้ประธานศาลฎีกาคนใหม่แล้วครับเป็นนายไสลเกษ วัฒนพันธ์ุ รองประธานศาลฎีกาอาวุโสอันดับที่ 1
ทั้งนี้ นายไสลเกษ จะเริ่มทำงานในตำแหน่ง ประธานศาลฎีกาในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นี้เป็นต้นไป
การพิจารณาแต่งตั้งประธานศาลฎีกาคนใหม่ เกิดขึ้นไล่ๆกันกับที่ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษาคดีหนึ่ง คือคดีที่มีกลุ่มคนคณะหนึ่ง บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์บ้านพักพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี (ในขณะนั้น)เมื่อปี 2550 เวลาผ่านมาแล้ว 12 ปี
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา
สำหรับคดีนี้ "ศาลชั้นต้น"มีคำพิพากษาวันที่ 16ก.ย58 ให้จำคุก นายนพรุจหรือนายพรุฒ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว จำเลยที่ 1เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนนายวีระกานต์ , นายณัฐวุฒิ , นายวิภูแถลง , นพ.เหวง 4 แกนนำ นปช. จำเลยที่ 4-7คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ และให้ยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ กับ นายวันชัย จำเลยที่ 2-3
ต่อมา "นายนพรุจ" อดีตแกนนำพิราบขาว จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ ต่อสู้ว่าไม่อยู่ในวันที่เกิดเหตุ ส่วน " 4 แกนนำ นปช" จำเลยที่ 4 -7ยื่นอุทธรณ์ ต่อสู้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงกรรมเดียวและเป็นการกระทำลักษณะจำเลยเพื่อปกป้องการถูกคุกคาม ซึ่งเป็นข้อยกเว้นในการลงโทษ ส่วน "นายวีระศักดิ์ กับนายวันชัย" จำเลยที่ 2-3 ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องนั้น อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ คดีจึงยุติไป
ขณะที่คดีอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 9ม.ค.60 เห็นว่า ที่ "4แกนนำ นปช." จำเลยที่ 4-7อุทธรณ์ต่อสู้ว่าการกระทำเป็นความผิดกรรมเดียวนั้น ฟังขึ้นบางส่วน เนื่องจากการชุมนุมของจำเลยมีเจตนาเดียวเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย และความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานนั้น ก็รับฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ไม่ใช่ตัวการร่วม
"ศาลอุทธรณ์" จึงพิพากษาแก้เป็นว่า "4แกนนำ นปช." จำเลยที่ 4-7 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215วรรคหนึ่งและวรรคสาม , มาตรา 216ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม ให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนของ "นายนพรุจ" อดีตแกนนำพิราบขาว จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน
โดยจำเลยทั้ง 5 คน ได้ยื่นฎีกาสู้คดี และยื่นประกันตัวระหว่างฎีกา ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัวคนละ 500,000บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิม คือห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ดีส่วนคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ยื่นฟ้อง "นายจตุพร พรหมพันธ์" ประธาน นปช. และ นายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ร่วมชุมนุม เป็นจำเลยที่ 1-2 ในคดีหมายเลขดำ อ.2799/2557 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.57 ในความผิดฐานเดียวกันจากเหตุการณ์เดียวกันนั้น ทั้งสองให้การปฏิเสธ ซึ่งปัจจุบันคดีดังกล่าว ศาลอาญามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว เพื่อรอฟังผลคำพิพากษาคดีถึงที่สุดสำนวนแรก เพื่อมาประกอบการพิจารณาตามที่จำเลยร้องขอ โดยการยื่นฟ้องที่แยกสำนวนของนายจตุพรนั้นได้เกิดขึ้นหลังจากที่นายจตุพร พ้นจากเอกสิทธิ์คุ้มครองของความเป็น ส.ส.แล้ว ขณะที่ระหว่างนั้นคดีสำนวนแรกสืบพยานไปเกือบเสร็จสิ้นแล้ว และอัยการโจทก์รอตัวผู้ต้องหาจะฟ้องเพิ่มอีก จึงไม่ได้รวมพิจารณาคดีไปพร้อมกันกับสำนวนแรกกลุ่มนายวีระกานต์
มาเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา แต่ก็ต้องเลื่อนเนื่องจากมีจำเลยป่วย ศาลไม่อาจจะส่งหมายอ่านคำพิพากษาได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ การเจ็บไข้ได้ป่วยของโจทก์ หรือของจำเลย เกิดขึ้นได้ การเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป เดือน หรือ 2 เดือน ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด สำหรับการ รอดคุก หรือะต้องติดคุก
เพราะอย่างไรก็ต้อง รอด หรือ ติด อยู่ดี
แต่ที่อยากจะแสดงความคิดเห็นเอาไว้ตรงนี้ก็คือคือ หลักการที่เราพูดกันอยู่เสมอว่า ความยุติธรรมที่มาช้า บางทีมันก็ไม่ยุติธรรม
ท่านประธานศาลฎีกา ท่านตุลาการในศาลฎีกาน่าจะวางเป็นนโยบายไว้เลยว่า คดีที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้ว มาถึงศาลฎีกา น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี ก็สามารถที่จะอ่านคำพิพากษาได้ (เช่นเดียวกับคดีบุกบ้านสี่เสานี้)
ที่ผ่านมา ไม่มีความแน่นอนเลยว่า คดีนี้ คดีนั้นจะอ่านคำพิพากษาเมื่อไหร่ บางคดี 5 ปี 6 ปี ปล่อยให้จำเลยในคดีมาก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านกับเมือง
บางคดีปล่อยมันมาเป็นนักการเมือง มาเป็นวุฒิสมาชิก
ซึ่งไม่ยุติธรรมกับสังคม ไม่ยุติธรรมกับชาติบ้านเมืองเลย
ฝากไว้นะครับ
ท่านประธานศาลฎีกา และตุลาการศาลฎีกาทั้งหลาย
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี