เห็นชื่อเรื่องประจำอาทิตย์นี้แล้ว อย่าเพิ่งคิดอกุศลว่า คำว่า “ฟัก”เป็นกริยาในภาษาอังกฤษ และแอบสงสัยว่า “ปริศนา” เป็นใครทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเข้าจังหวะอะไรทั้งนั้น แต่ขอพักเบรคเรื่องสถานการณ์เลวร้ายในอเมริกาสักครั้ง เพราะบอกตรงๆว่า นาทีนี้สาหัสเกินทน เพราะผ่านแต่ละวันไปด้วยความกังวลร้อยแปด สถานการณ์ในอเมริกายังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยอดป่วยโควิดเพิ่มสูงขึ้นทุกวันจนน่ากลัว นาทีนี้ทีมแพทย์ประจำทำเนียบขาวออกมายืนยันว่า ทุกคนมีสิทธิ์ติดเชื้อได้ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองใหญ่หรือชนบทเพราะหลายคนคิดว่าตัวเองนั้นอยู่หลังเขา คงจะไม่ติดโควิดง่ายๆ หรอกที่สำคัญคือมีการออกประกาศว่าให้ใส่หน้ากากอนามัย แม้จะอยู่ในบ้านหากในบ้านมีสมาชิกหลายวัยอาศัยอยู่และอยู่ในชุมชนที่เป็นเขตระบาดถ้าถามว่าตอนนี้แถวไหนคือเขตระบาดหรือเรดโซน คงต้องชี้ลงไปทางใต้อย่างที่ขียนถึงอาทิตย์ก่อนว่าตอนนี้แคลิฟอร์เนียแซงรัฐนิวยอร์กขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแล้ว อันดับสองคือฟลอริด้า อันดับสามคือเท็กซัสอันดับสี่คือนิวยอร์ก แชมป์เก่า อันดับห้านี่สิ..มาแรงแซงโค้งไวมากนั่นคือรัฐจอร์เจีย ในบรรดา 5 รัฐเต็งหนึ่ง 4 รัฐอยู่ทางใต้ทั้งหมด
นอกจากรัฐห้าอันดับสยองแล้ว รัฐทางใต้อื่นๆยอดป่วยพุ่งสูงอย่างน่ากลัว โดยเฉพาะรัฐที่มีผู้ว่าการรัฐมาจากรีพับลิกันแถมคองเกรสแมนพรรครีพับลิกันติดโควิดกันเพียบ กระนั้นบรรดาสาวกทรัมป์ก็ยังไม่ยอมใส่หน้ากาก แม้ลุงผมเป๋จะออกมาบอกให้ใส่หน้ากากแล้วก็ตาม บอกตรงๆว่าอ่านเพจข่าวทีไรให้จิดตกทีนั้นเพราะจะมีคนออกมาเขียนด่าเรื่องการใส่หน้ากากทุกวัน ทรัมป์ดูไม่สนใจพลเมืองตัวเองเท่าไหร่นักแต่ไปเต้นแร้งเต้นกาเรื่องแอฟพริเคชั่นติ๊กต็อกของจีนแทนแถมประกาศแบนไปหมาดๆ อาทิตย์ก่อน ด้วยข้อกล่าวหาสารพัดเรื่องนี้ขอเก็บไว้เขียนถึงทีหลังเพราะสถานการณ์โควิดถือเป็นเรื่องใหญ่อันดับหนึ่งตอนนี้ป่วยกันงอมแงมแตะห้าล้านคน ตายไปแสนห้ากว่าๆแต่ละวันตายกันเป็นพัน เฉลี่ยแล้วตายนาทีละคนคนที่ยังไม่ติดเชื้อเลยหนาวๆ ร้อนๆ ไม่รู้จะหวยออกวันไหนคนที่ป่วยก็ป่วยไป ตายก็ตายไป แต่คนที่ยังอยู่นี่สิ ตกงานกันทั่วหน้าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 32.9% นี่คือการหดตัวครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1947ร้านค้าร้านอาหารและกิจการอื่นๆ ฟุบกันระนาวเจ้าของร้านอาหารไทยในแคลิฟอร์เนียบางรายต้องประกาศขายร้านขายบ้าน เพราะไม่สามารถแบกรับภาระได้อีกต่อไปร้านอาหารใหญ่ที่มีสาขาทั่วโลกบางร้านต้องปิดถาวรท่ามกลางความหวาดกลัวนี่เอง อยู่ๆก็มีเรื่องประหลาดโผล่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คนอเมริกันจำนวนมากได้รับแพกเกจจากเมืองจีน บนซองระบุว่าเป็นเครื่องประดับล้ำค่าจากจีนในซองมีเมล็ดพันธุ์พืชหลายซอง โดยที่ไม่มีใครสั่งซื้อ หลายคนหวาดกลัวเพราะไม่รู้ว่าเมล็ดเหล่านี้คืออะไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะขนาด USDA ยังห้ามไม่ให้คนที่ได้รับปลูกเจ้าหน้าที่ทางการในรัฐต่างๆออกคำเตือนห้ามปลูกแก่อเมริกันที่ได้รับพัสดุปริศนาข้างในมีเมล็ดพันธุ์พืช และให้เปิดซองด้วยความระมัดระวังแหม..ทำยังกะเป็นระเบิด
กรมการเกษตรของอเมริกาออกคำเตือนว่าใครได้รับให้รีบรายงานทันที อย่าเก็บไว้เพราะถือเป็นการลักลอบนำเมล็ดพันธุ์พืชเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายจึงขอให้ประชาชนที่ได้รับพัสดุปริศนาแจ้งต่อกรมการเกษตรของรัฐ ทันทีมีลุงป้าบางคนที่ได้รับเมล็ดพันธุ์ก็ดีใจตอนนั้นทางการยังไม่ออกประกาศเตือน ก็รีบปลูกดูว่าไอ้เมล็ดนี้คืออะไรมีรายหนึ่งปลูกเมล็ดพันธุ์สีขาวนวลในไร่ของตนจากนั้นเรียกนักข่าวไปดูว่าไอ้นี่คือต้นอะไร ฝรั่งต่างงงงันแต่พอผู้เขียนเห็นก็ตบอกผางเพราะไอ้ที่เห็นห้อยโตงเตงนั่นคือฟักเขียวบ้านเรานั่นแหละ ฝรั่งคงไม่รู้จักสงสัยต้องส่งคนไทยไปแกงให้ดู ถึงจะหายแคลงใจว่า ไอ้นี่กินได้นะ ยูอย่าตระหนกตกใจไป แต่ยูอย่าได้ถามว่าคนไทยเรียกสิ่งนี้ว่าอะไรไม่งั้นยูอาจจะชกปากไอได้ เพราะคิดว่าถูกด่าไม่มีใครรู้ว่าเมล็ดเหล่านี้ถูกส่งมาเพื่ออะไรบางคนก็คิดไปไกลว่านี่เป็นแผนร้ายจากเมืองจีนที่หวังยึดครองอเมริกาว่าไปโน่น..
อย่าว่าแต่อเมริกาเลยที่เจอปัญหาที่เรียกว่า “เอเลี่ยนสปีชีส์”สมัยก่อน บ้านเราไม่มีหรอกผักตบชวา แต่เจ้านายในสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสชวา แล้วเห็นดอกสีม่วงอ่อนสะสวยเลยนำมาปลูกในแม่น้ำที่ไทย ผลคือเกลื่อนไปทั้งแหล่งน้ำจนต้องกำจัดกันไม่หวาดไม่ไหว รัฐที่ผู้เขียนอยู่ติดทะเลสาบมิชิแกนเคยไปสถานแสดงสัตว์น้ำแล้วเห็นปลาบู่มีป้ายบอกว่าปลาบู่คือเอเลี่ยนสปีชีส์ที่คนเอเซียนำเข้ามาเพื่อเป็นอาหารแต่ทำอีกท่าไหนไม่รู้ เกิดพลัดลงสู่ทะเลสาบมิชิแกนกลายเป็นสัตว์ที่เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ไปในที่สุดขออธิบายนิดหนึ่ง
สำหรับผู้อ่านที่ได้ได้ร่ำเรียนมาทางสิ่งแวดล้อมไอ้เอเลี่ยนสปีชีส์นี่ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวมีเขาบนหัวแต่อย่างใด Alien Species หรือในภาษาไทยเรียกว่า “สิ่งมีชีวิตต่างถิ่น” หมายถึงสิ่งมีชีวิตที่มีการกำเนิดและเติบโตเป็นวัฎจักรอยู่ในที่แห่งหนึ่งในธรรมชาติ แต่มาเติบโตและสร้างวัฎจักรใหม่ในสิ่งแวดล้อมต่างจากธรรมชาติที่เป็นอยู่ยกตัวอย่างง่ายๆ ในบ้านเราก็แล้วกัน ไมยราพ หอยเชอรี่ ธูปฤาษีและปลาช่อนอเมซอน ล้วนแล้วแต่เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ทั้งนั้นพวกนี้เข้ามาลงหลักปักฐานในบ้านเรา แต่ไม่ได้มาอยู่เฉยๆกลับเบียดเบียนระบบนิเวศน์ให้เสียไปมีผลเสียต่อระบบตามธรรมชาติของเรา อย่างหอยเชอรี่นั้นมาจากคนสั่งมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงต่อมานำไปทิ้งจนแพร่กระจายตามแหล่งน้ำ สุดท้ายก็เบียดเบียนระบบนิเวศทำให้หอยโข่งไทยสูญพันธุ์ อเมริกาเจอปัญหานี้มานานเพราะคนที่อพยพเข้ามาอยู่ที่นี่มาจากหลากหลายประเทศ ปัญหาหนักอกคืองูเหลือม งูหลาม มีคนนำเข้าอเมริกาไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ต่อมาหลุดสู่แหล่งธรรมชาติ แพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วในฟลอริด้าเพราะไม่มีศัตรูทางธรรมชาติ
ตอนนี้ประชากรงูหลามเพียบวันร้ายคืนร้ายก็เลื้อยไปกินหมาบ้าง ลูกชาวบ้านบ้างจนกลายเป็นปัญหาสาหัสของหน่วยงานในอเมริกา ไม่เฉพาะงูเหลือมหรืองูหลาม ฝรั่งอเมริกันนั้นหวาดกลัวปลาช่อนสุดๆเรียกว่า “ปลาหัวงู” เพราะหัวปลาช่อนเหมือนงูเคยดูสารคดีในอเมริกานำเสนอเรื่องปลาช่อน คนสร้างสารคดีสร้างบรรยากาศให้ดูน่ากลัวประมาณว่าปลาช่องเลื้อยขึ้นจากน้ำ เลื้อยตัดข้ามสนามหญ้าแล้วแอบจ้องดูคนในบ้านด้วยสายตาวาววามหิวโหย ฝรั่งอาจจะนึกกลัวแต่คนไทยดูแล้วขำกลิ้ง แต่จะว่าไปแล้วปลาช่อนน่ากลัวจริงต่อระบบนิเวศในอเมริกา เพราะปลาช่อนฟาดเรียบทุกอย่างจนเบียดเบียนและสร้างความเสียหายแกระบบนิเวศน์ทางน้ำในอเมริกา ไม่แน่ใจว่าจะมีปลาชะโดหลุดสู่แหล่งน้ำในอเมริกาด้วยไหม ถ้ามีล่ะก็หายนะแน่ เพราะปลาชะโดโหดกว่าปลาช่อนอีก จริงๆแล้วหากอยากจะกำจัดก็ไม่ยากแค่ลงประกาศระดมคนไทยในอเมริกา ไปกินปลาช่อนรับรองหมดเกลี้ยงในพริบตา
เรื่องเมล็ดพันธุ์ปริศนายังเป็นเรื่องลึกลับในตอนนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าส่งมาให้ตนได้อย่างไร และส่งมาเพื่ออะไรแต่ทางการอเมริกาก็ประกาศห้ามปลูกเด็ดขาด ที่นี่มีกฎห้ามนำเมล็ดพันธุ์ต่างถิ่นหรือพกมาจากไทยเข้าอเมริกาถือว่ามีความผิด แม้กระทั่งการปลูกผักบุ้งยังเป็นเรื่องที่ต้องขออนุญาตใหลายรัฐเพราะถือเป็นเอเลี่ยน สปีชีส์ หากจับได้ว่ามีการนำเข้า US department of agriculture โทรตามถึงบ้าน อย่างเมล็ดผักบุ้ง ที่นี่ถือเป็นวัชพืชนับเป็นเมล็ดต้องห้าม ห้ามนำเข้ามาปลูกและต้องกำจัดทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาด ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเมล็ดเหล่านี้คงต้องตามผลกันต่อว่า ไอ้เมล็ดพืชปริศนาเหล่านี้คืออะไร แต่เท่าที่ดูๆแล้วก็เห็นเป็นพืชผักแบบเอเซียธรรมดาๆ เพียงแต่ว่าฝรั่งไม่รู้จักเท่านั้นเอง เพราะจนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่า ส่งมาทำไมหรือใครส่งมา
........................................
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี