วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ออนไลน์ / ซอกซอนตะลอนไป
ซอกซอนตะลอนไป

ซอกซอนตะลอนไป

โดย...เสรษฐวิทย์ ชีรวินิจ
วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
เทศกาลดิวาลี (ตอน 1)

ดูทั้งหมด

  •  

ตามประเพณีนิยมของชาวฮินดูระบุว่า  หลังจาก “เทศกาลนวราตรี” จบลงไปแล้ว 20 วัน  ก็จะถึงเทศกาลที่สำคัญมากที่สุดอีกเทศกาลหนึ่งของชาวฮินดู เรียกว่า “เทศกาลดิวาลี”


(วันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 เป็นวันวิจายาดัสซามิ แปลว่า วันแห่งชัยชนะวันที่ 10  อันเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลนวราตรี)

                เทศกาล ดิวาลี จะเฉลิมฉลองกันนาน 5 วัน  โดนจะเริ่มต้นในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ตามปฎิทินสากล  แต่วันที่ถือว่า  สำคัญที่สุดก็คือ วันที่ 3 หรือ วันตรงกลางของเทศกาล ซึ่งจะตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563  

                ตามปฎิทินปัญจางของฮินดูระบุว่า  เทศกาลนวราตรี ที่เพิ่งจะพ้นไปจะเริ่มต้นจากวันพระจันทร์ดับ หรือ วันพระจันทร์เกิดใหม่ หรือ แรม 15 ค่ำ  เช่นเดียวกันกับเทศกาลดิวาลี ที่วันสำคัญที่สุดจะตกอยู่ที่วันแรม 15 เช่นกัน

                นับจากวันจันทร์ดับของนวราตรี ไปอีก 15 วัน  ก็จะเป็นวันจันทร์เพ็ญ หรือ  ขึ้น 15 ค่ำ  เป็นวันลอยกระทงของไทย  ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563

                เมื่อนับจากวันลอยกระทงไปอีก 15 วัน ก็จะเป็นวันจันทร์ดับ ซึ่งก็คือวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 คือวันนี้ จะตรงกับ “วันดิวาลี”  หรือ  วันตรงกลางของ “เทศกาลดิวารี”   

(วันดิวาลี ซึ่งเป็นวันพระจันทร์ดับ อมวาสี  ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563)

                จะเห็นว่า  แนวคิดของศาสนาฮินดูจะผูกวันสำคัญของเทศกาลไว้กับวันพระจันทร์ดับ  ในขณะที่แนวคิดของศาสนาพุทธในไทย จะผูกวันสำคัญกับวันจันทร์เพ็ญ 

                ภาพพจน์ของเทศกาลนวราตรี  อาจจะค่อนข้างโหดสักหน่อย  เพราะมีเรื่องราวของการประหัตประหารอยู่เบื้องหลัง   แม้ว่าจะเป็นการประหัตประหารอสูร  หรือ  การสังหารความชั่ว  ทำลายความมืด ก็ตาม

                แต่เทศกาล ดิวาลี จะตรงกันข้าม  กล่าวคือเป็นเทศกาลแห่งความสุข  การพบปะสังสรรกับเพื่อนฝูง  การรวมตัวกันของสมาชิกในครอบครัว   ความรัก  ความสมัครสมาน  ความชื่นชมยินดี  และ ของหวาน  

เทศกาลนี้จะเน้นที่การบูชาพระแม่ลักษมี  และ  พระแม่มหากาลี เป็นหลัก

(ภาพจำลองการกลับสู่อโยธยาของพระราม นางสีดา และ พระลักษณ์ -  ขอขอบคุณเจ้าของภาพ)

                นอกจากนี้  ยังเป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองในโอกาสที่ พระราม  นางสีดาพระมเหสี  พระลักษณ์  และ  หนุมาน เดินทางกลับเข้าเมืองอโยธยา   หลังจากที่ต้องเนรเทศตัวเองออกจากเมืองไปเป็นเวลานาน 14 ปี  เป็นการกลับเข้าเมืองอโยธยาหลังจากสามารถเอาชนะทศกัณฐ์ได้ 

ขณะเดียวกัน  เทศกาลนวราตรี ก็เป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองชัยชนะของพระรามที่มีต่อทศกัณฐ์ด้วยเช่นกัน

บางบันทึกยังบอกว่า  ดิวาลี เป็นการเฉลิมฉลองของ พี่น้องตระกูลปาณฑพ ในมหากาพย์ มหาภารตะ ที่เดินทางกลับเข้าเมืองหลังจากที่ต้องถูกเนรเทศออกไปเป็นเวลา 12 ปี

แต่ไม่ว่าจะเฉลิมฉลองเรื่องอะไรก็ตาม   ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ชุ่มชื่นหัวใจทั้งนั้น

                เทศกาลดิวาลี จะเฉลิมฉลองติดต่อกัน 5 วัน  แต่ละวันมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป และ มีนัยยะในการบูชาที่แตกต่างกันด้วย   ทั้ง 5 วันนี้  จะเป็นเสมือนโยงใย หรือ เครือข่าย การเฉลิมฉลองที่ต่อเนื่องกัน

                ทั้ง 5 วันของเทศกาล ดิวาลี ประกอบด้วย  วันดานเทอราส(DHANTERAS) เป็นวันแรก ,  นะระกะ จตุรดาสี(NARAKA CHATURDASI) เป็นวันที่ 2  ส่วนวันที่ 3 จะเป็นวันที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นหัวใจของดิวาลี เรียกว่า วันดิวาลี หรือ วันลักษมี บูชา(LAKSHMI PUJA) , วันที่ 4 เรียกว่า ดิวาลี พัดวา (DIWALI PADWA)   และ วันที่ 5 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย  เรียกว่า  ไบ ดุจ(BHAI DOOJ)

                วันตรงกลาง  หรือ  วันลักษมี บูชา จะตรงกับวันแรม 15 ค่ำพอดี  ดังนั้น  วันดานเทอราส ก็จะเป็นวันแรม 13 ค่ำ  และ วัน ดิวาลี พัดวา ก็จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ

                ดิวาลี  เป็นเทศกาลที่เก่าแก่มาก  มีบันทึกที่กล่าวถึงชื่อ “เทศกาลดิวาลี” ไว้ในคัมภีร์พัดมา ปุราณะ(PADMA PURANA) และ คัมภีร์ สกานดา ปุราณะ(SKANDA PURANA)  คัมภีร์ทั้งสองเขียนขึ้นในช่วงประมาณ ปีค.ศ. 500

                นั่นก็หมายความว่า   มีการเฉลิมฉลอง เทศกาลดิวาลี มานานอย่างน้อย 1500 ปีแล้ว

                ในวันที่พระราม เดินทางเข้าเมืองอโยธยา  ชาวเมืองที่รอต้อนรับจะจุดตะเกียงดวงเล็กๆทำด้วยดินเผาที่เรียกว่า  ดิยา  ประดับประดาไปตามทางเดินที่พระรามจะเดินเข้ามา  

(ตะเกียงดินเผา ที่เรียกว่า DIYA ต่อไส้ใช้น้ำมัน หรือ น้ำมันเนยที่เรียกว่า กี(GHEE) เป็นเชื้อเพลิง)

                ต่อมา  จึงเรียกวันนี้ว่า ดีพปะวารี (DEEPAWALI) ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า  แถวของตะเกียง   ต่อมาภายหลัง  คำนี้เพี้ยนไปกลายเป็นคำว่า ดิวาลี(DIWALI)

                จนกลายเป็นเทศกาลแห่งตะเกียงไฟ จนทุกวันนี้

สัปดาห์หน้า  ผมจะเล่าถึงรายละเอียดของการเฉลิมฉลองของแต่ละวันครับ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:28 น. กทม.จัดติวเข้มนักอนุรักษ์พันธุกรรมทรัพยากร ผลักดันงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น
13:16 น. 'SONG RIDER CONCERT'รวมทุกดวงใจคนดูสุดฟินกองทัพศิลปินอิน ทุกบทเพลง
13:15 น. 'เรือใบ'จ่ายแล้ว!คว้าแบ๊กหมาป่าทวงบัลลังก์แชมป์
13:13 น. แรงตั้งแต่ยังไม่เข้าฉาย!'28 Years Later'ทุบสถิติหนังสยองขวัญยอดขายตั๋วล่วงหน้าวันแรกสูงสุดแห่งปี
13:10 น. ยืนหนึ่งเจ้าแม่แคปชั่น!'เจี๊ยบ'ลงภาพความน่ารักเจอ'บอย'สามีรีบเข้ามาคอมเมนต์แซว
ดูทั้งหมด
'อ.จุฬาฯ'เตือนหยุดคลั่งชาติ ชื่นชม'กัมพูชา'ฉลาดใช้'การทูต'
'สาธิต' ขอบคุณ 'กัมพูชา-ฮุนเซ็น' ที่ทำให้กองทัพไทยได้ตื่นตัว
ทั่วโลกยลโฉมครั้งแรก! 'ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์'โพสต์ภาพอบอุ่นคู่'เจ้าหญิงลิลิเบต'พระธิดาองค์น้อย
'ปองพล'เสนอไทยดัน'ปราสาทตาเมือนธม-ตาเมือนโต๊ด-ตาควาย' ขึ้นบัญชีเบื้องต้นมรดกโลก
ตรรกะวิบัติ!? ทัวร์ลงถล่มยับ‘สส.จิรัฏฐ์’โพสต์แซะ‘กองทัพ’ ถามแรงเคยช่วยอะไรบ้าง
ดูทั้งหมด
ยิ่งหนาว..ยิ่งโหด
สงคราม‘ไทย-เขมร’ยังไม่จบ
เดี๋ยวมันก็มาอีก
มันจบแล้วครับนาย (1)
พลังแผ่นดินไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เรือใบ'จ่ายแล้ว!คว้าแบ๊กหมาป่าทวงบัลลังก์แชมป์

หนุ่มเจ้าของร้านอาหาร บุกแทงนักร้องสาว 31 แผล อ้างผิดหวังคบ3ปีเพิ่งรู้มีผัวแล้ว

'เอกนัฏ'เผย 21 สส.ทยอยปฏิเสธ ฮึ่ม'สุชาติ' บอกข้อบังคับพรรค ใครทำผิดอาจหมดสมาชิกภาพ

เชื้อเพลิงฟอสซิล vs พลังงานสะอาด อะไรคือความสมดุลด้านพลังงาน ?

'ฮุน มาเนต'โพสต์ปรัชญาจีน 'นักสู้ที่ดีต้องไม่โกรธเคือง'

หนาวทั้งบาง! จับตาสิ้นเดือนกรกฎาคม‘ล้างบางการเมืองสีเทา’ เขย่า‘ทำเนียบฯ-รัฐสภา’

  • Breaking News
  • กทม.จัดติวเข้มนักอนุรักษ์พันธุกรรมทรัพยากร ผลักดันงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น กทม.จัดติวเข้มนักอนุรักษ์พันธุกรรมทรัพยากร ผลักดันงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น
  • \'SONG RIDER CONCERT\'รวมทุกดวงใจคนดูสุดฟินกองทัพศิลปินอิน ทุกบทเพลง 'SONG RIDER CONCERT'รวมทุกดวงใจคนดูสุดฟินกองทัพศิลปินอิน ทุกบทเพลง
  • \'เรือใบ\'จ่ายแล้ว!คว้าแบ๊กหมาป่าทวงบัลลังก์แชมป์ 'เรือใบ'จ่ายแล้ว!คว้าแบ๊กหมาป่าทวงบัลลังก์แชมป์
  • แรงตั้งแต่ยังไม่เข้าฉาย!\'28 Years Later\'ทุบสถิติหนังสยองขวัญยอดขายตั๋วล่วงหน้าวันแรกสูงสุดแห่งปี แรงตั้งแต่ยังไม่เข้าฉาย!'28 Years Later'ทุบสถิติหนังสยองขวัญยอดขายตั๋วล่วงหน้าวันแรกสูงสุดแห่งปี
  • ยืนหนึ่งเจ้าแม่แคปชั่น!\'เจี๊ยบ\'ลงภาพความน่ารักเจอ\'บอย\'สามีรีบเข้ามาคอมเมนต์แซว ยืนหนึ่งเจ้าแม่แคปชั่น!'เจี๊ยบ'ลงภาพความน่ารักเจอ'บอย'สามีรีบเข้ามาคอมเมนต์แซว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน43) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน43) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

8 มิ.ย. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน42) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน42) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

1 มิ.ย. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน41) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน41) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

25 พ.ค. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

11 พ.ค. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน39)  หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน39) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

4 พ.ค. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน38) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ (ตอน38) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

27 เม.ย. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน37) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน37) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

20 เม.ย. 2568

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน36)  หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน36) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ

13 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved