Peppe เจ้าของร้านเป็นชาวนาโปลี (อิตาลี: Napoli) มีชื่อเสียงในด้านความร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์แห่งการครัว เป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองทางตอนใต้ของอิตาลี มาหลงเสน่ห์วิศวกรสาวไทย หลังจากแต่งงานกันจึงเปิดร้านอาหารอิตาเลียนเล็กๆ เมื่อ 7 ปีก่อน โดยคุณ Peppe เป็นเชฟยืนหน้าเตาด้วยตนเอง นำเข้าส่วนประกอบชั้นดีโดยตรงจากอิตาลี อบขนมปังสูตรเหมือนครอบครัวเขาทำกินกันเอง
Ciabatta และมะกอกดำดอง
เป็นขนมปังเรียกว่าเป็นบาแกตต์ของชาวอิตาลีก็ไม่ผิดนัก ‘เซียบัตตา’ เกิดขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับบาแกตต์ในยุคที่ขนมปังฝรั่งเศสเฟื่องฟูขงอิตาลี นักอบขนมปังเจ้าถิ่นจึงประดิษฐ์ขนมปังที่มีส่วนผสมหลักคือแป้งสาลี น้ำ ยีสต์ และเกลือ บางสูตรมีการใช้น้ำมันมะกอกร่วมด้วย เนื้อของเซียบัตตาจะมีความชื้นกว่าบาแกตต์ที่นุ่มกว่า เมื่อหั่นบางเปลือกกรอบเกิดฟองอากาศขนาดรูพรุนใหญ่น้อย ทำให้ได้ความอ่อนโยนแต่โปร่งเบา บิขนมปังเซียบัตตาออกมาจิ้มกับน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชูบัลซามิก (balsamic vinegar) เพื่อกินเล่นหรือเรียกน้ำย่อยก็ได้ บางคนก็เรียกชื่อว่า ขนมปัง "อากาศ"
นั่งสักพักบริกรนำเซียบัตตาที่มาในตะกร้าหวายใบจิ๋ว เสิร์ฟคู่กับมะกอกดำดองเป็นอภินันทนาการให้เรียกน้ำย่อย เมื่อราดด้วยน้ำมันมะกอก Extra Virgin ให้ความหอมกรอบอร่อยจนต้องขอเพิ่มอีก
Parma ham and garden salad
นานาผักสดเคล้าน้ำส้มบัลซามิค โปะหน้าด้วยพามาแฮมเฉือนบางแผ่นใหญ่บังผักสลัดจนมิด เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
Cold Cut Plate
รวมมิตรแฮม 3 ชนิดจนล้นในจานเดียว อันได้แก่ พามาแฮม สลามี่ และ speck (หมูชิ้นที่บางที่สุดของแฮมเนื้อแน่นที่แดงก่ำนี้ เลาะกระดูกออกก่อนที่จะถูกหมักด้วยเครื่องเทศ เช่น ใบสนชนิดหนึ่งและใบกระวาน จากนั้นก็จะรมควันและเคล้าเครื่องเทศให้รสชาติที่ลึกล้ำและเข้มข้นกว่า prosciutto di Parma จุดเด่นของเนื้อทั้งสามชนิดนี้ไม่เค็มจัด สามารถกลั้วไวน์ตามได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Puttanesca
เพนเน่ในซอสมะเขือเทศ ลักษณะของพาสต้าเพนเน่เป็นหลอดมีรูตรงกลาง ผิวมีรอยขีดเป็นทางยาวโดยรอบ เพื่อให้ซอสได้เคลือบซึมซับทุกอณูของเส้นทั้งภายในภายนอก เชฟผัดแบบมีรสจัดครบรสทั้งเปรี้ยวมะกอกและใส่พริกเผ็ดจัดเพื่อเอาใจลูกค้าคนไทย ให้ได้ซี้ดซ้าดสะใจ
Italian Sausages in white wine sauce
ให้ไส้กรอกเนื้อหมูล้วนที่บดละเอียดกับเครื่องเทศ ไร้มัน ทำให้กินได้สนิทปาก รองด้วยมันบดที่สุดเนียน ไส้กรอกแท่งยาวประมาณฝ่ามือผู้ชาย ทอดแล้วโรยพริกไทยกระเทียม ให้ไม่รู้สึกเลี่ยน
ลาซานญ่า
แค่เห็นหน้าค่าตาก็เป็นตัวแทนบอกเล่าได้ถึงรสชาติอาหารของร้านนี้ว่าต้องไม่ใช่ธรรมดา แม้ว่าชั้นแป้งใช้ซอสมะเขือเทศผสมเนื้อหมูหรือเนื้อวัวบด สลับด้วยครีมซอสขาวสลับชั้นกับเนยแข็ง สุกแล้วโรยหน้าด้วยมอซซาเรลล่าชีสขูด อบจนหน้าเนยแข็งละลายเยิ้ม แต่งด้วยใบโหระพา ตักเป็นชิ้นเหมือนขนมหม้อแกง จิบไวน์พอหอมปากหอมคอ ตักลาซานญ่าตรงหน้าเข้าปาก จนวิญญาณแทบจะลอยละล่องสู่นทีสีทันดอน
สเต๊กเนื้อ
ชิ้นเนื้อที่ย่างโดยชำนาญ เป็นที่ถูกใจของขานักกินเนื้อ ที่ย่างสุกประมาณมีเดียมแรร์ โรยเพียงเกลือกับพริกไทยก็เฮฮาแล้ว
ซี่โครงแกะ
วิธีการแล่แกะนั้นแทบจะเป็นลักษณะเป็นแท่งติดเนื้อสัน อบเพียงแค่เลือดออกซิบๆ เนื้อก็นุ่มแทบจะกลืนได้ โดยไร้กลิ่นสาบด้วยสมุนไพรบางตัว เช่น พริกไทย โรสเมรี่
พิซซ่า
ครั้งหนึ่งเมื่อปีค.ศ. 1895 ชาวนาโปลีผู้อพยพมาอยู่ที่นิวยอร์คเกิดคิดถึงบ้านอย่างแรง จึงได้เปิดร้านพิซซ่าเป็นแห่งแรกในอเมริกา โดยที่เขาไม่เคยนึกว่าแผ่นแป้งผสมยีสต์แผ่เป็นแผ่นกลมบางนี้จะพิชิตไปทั่วสากลโลก โดยที่ชาวอิตาเลียนเองก็เพิ่งมาตื่นตัวนิยมกระจายไปทั้งประเทศเมื่อปี ค.ศ. 1970 นี้เอง
เมืองนาโปลีได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ริเริ่มการทำพิซซาขึ้นเป็นเมืองแรก โดยในชั้นแรกเริ่มใช้วิธีการทอดก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการอบในภายหลัง เริ่มด้วยการอบไฟแรง แต่งหน้าค่าตาเป็นหน้าต่างๆ ดังที่เรารู้จักกันดี ทั้งนี้จะขาดมอซซาเรลล่าชีสที่อบแล้วยืดเป็นหมากฝรั่งไม่ได้เป็นอันขาด ช่วงหน้าหนาวนี้เป็นฤดูเห็ดทรัฟเฟิล มาที่ร้านนี้ให้ถามเชฟก่อนว่ายังมีทรัฟเฟิลไหม ขูดใส่หน้าสดๆ รับรองว่าหากได้กัดเพียงคำเดียวก็จะแทบจะบรรลุนิพพานเลยทีเดียว ไม่นานมานี้ พิซซ่า ได้ขึ้นทะเบียนให้พิซซ่าต้นตำรับแบบเนเปิลเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
ทีรามิสุ
หนแรกเมื่อได้ยินชื่อของหวานนี้ ยังงงนึกว่าเป็นเค้กของญี่ปุ่น ปรากฏว่าดันกลายเป็นของหวานอิตาเลียนแสนอร่อย ทั้งที่เป็นการจับแพะชนแกะมาประดิดประดอย ประกอบด้วย ครีมข้น ไข่แดง น้ำตาล เนย Mascarpone ตีผสมให้เข้ากันจนข้น วางแท่งบิสกิตอยู่ข้างใต้ภาชนะ แยกผสมกาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้นให้เข้ากัน จึงตักครีมข้นเป็นหน้า แล้วเรียงบิสกิตอีกชั้นหนึ่งซ้อนบนครีม ผสมกาแฟเอสเปรสโซ่กับเหล้า Amaretto เทบนครีมชั้นบน โรยหน้าด้วยผงโกโก้ เอาเข้าแช่ในตู้เย็นอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงจึงพร้อมเสิร์ฟได้
ซอร์เบต์มะนาว
ก่อนจ่ายบิลบริกรยกแก้วซอร์เบต์เป็นเกล็ดขาวอภินันทนาการให้ล้างปากรสจี๊ดจ๊าดให้ละเลียดคลายความเลี่ยนและความอิ่มจากอาหารทั้งหลาย ทำให้เกือบหิวอยากย้อนไปกินอีกครั้ง
เมนูอาหารมีเพียง 2 หน้า ไม่ได้ขุดมาเป็นร้อยอย่างเหมือนสวนอาหารทั่วไป
แสดงให้รู้ว่าไม่ต้องมีรายการมากมาย เพราะเลือกมาเฉพาะรายการที่มั่นใจว่าอร่อย
เช่นเดียวกับไวน์ ไม่ได้มีเป็นร้อยเป็นพันขวด Peppe ได้คัดเลือกอย่างพิถีพิถันว่าเป็นไวน์ที่ควรเป็นคู่ตุนาหงันของอาหารในเมนู
PEPPE ITALIAN FOOD & WINE
1954/3 ซอย 60 ถนนสุขุมวิท บางจาก พระโขนง กทม. 10260
โทร.084-3975-69 , 02-741-4798
FB: Peppe Italian Food & Wine
Instargram : peppeitalianfoodandwine
เปิด มื้อเที่ยง 11:30 - 14:30 น.
มื้อค่ำ 17:30 - 22:30 น.
ถ่ายภาพโดย แพรไพลิน ศุกลรัตนเมธี และจาก FB.ของร้าน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี