ช่วงล็อกดาวน์หนล่าสุดจากโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องอยู่กับเหย้าเฝ้าเรือนนานหลายเดือน คนที่ชีพจรลงเท้าคงอึดอัดใจไม่กล้าไปหาร้านอร่อยตามต่างจังหวัด จึงได้แต่ค้นดูภาพที่ถ่ายไว้ก่อนโควิด-19 รอบที่ 3 เพื่อเตรียมรอไว้เมื่อถึงวันที่โรคระบาดซาลงจนหายวิตก จะได้ล้างแค้นตะลุยกินอาหารตามชนบทให้สาแก่ใจ
เจริญหูเจริญตาด้วยต้นไม้ระหว่างเดินทาง
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเมืองราชธานีของเรามายาวนาน เมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ มีแม่น้ำหลายสายโอบล้อมเมืองเป็นตัวเกาะ อดีตเมื่อไม่นานมานี้เคยเป็นจังหวัดที่ปลูกข้าวมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ปัจจุบันยังเป็นแหล่งชุมนุมของโรงงานอุตสาหกรรมอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงสีข้าวขนาดใหญ่
ความที่เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำสัตว์บก อีกทั้งได้สั่งสมวัฒนธรรมอาหารสืบเนื่องมายาวนานโดยเฉพาะอาหารพื้นบ้าน และผสมอิทธิพลของอาหารจีนและฝรั่งตั้งแต่ยุคก่อนกรุงแตก จึงกล่าวได้ว่าเป็นต้นแบบของอาหารไทยที่ถ่ายทอดมาถึงปัจจุบัน
นอกจากปลาต่างๆ คนกรุงเก่ามีวิธีเผากุ้งผ่าครึ่งตลอดตัวมันที่หัวมันเยิ้ม หอยน้ำจืดหลายชนิดเช่นหอยขมก็เอามาผัดมาแกง เต่าและตะพาบมีวิธีปรุงแล้วไม่ขยะแขยง บรรดานกหลายชนิดหรือไก่บ้านไก่ป่าล้วนโอชะ กบนา หนู งู ปลาหลด ปลาไหล เอามาทำอาหารได้เฉียบขาด
บรรยากาศใต้ถุนบ้าน
ร้านอาหารแยกเจ้าปลุก ใต้ถุนบ้านทรงไทย อยู่อำเภอมหาราช พระนครศรีอยุธยา ใช้ใต้ถุนดัดแปลงเป็นร้านอาหารแบบบ้านๆ
น้ำพริกแกง
ทางร้านไม่ได้ใช้พริกแกงสำเร็จรูปจากตลาด โขลกใหม่ทุกวันไม่มีสารกันบูด โดยเฉพาะหัวหอมแดงนั้นถ้าเก็บไว้นานวันจะบูดทำให้กลิ่นไม่ดี แต่มีน้ำพริกสำเร็จรูปจำหน่ายให้ไปแกงเองที่บ้าน
ต้มยำปลายี่สก (80-140 บาท)
เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียนแต่ตัวใหญ่กว่ามาก เคยพบหนักตัวละ 40 กิโลกรัม เนื้อรสชาติมันละเอียด ระยะหนึ่งนิยมกันมาก ถูกจับจนกลายเป็นปลาที่อยู่สถานะใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ แต่กรมประมงสามารถเพาะพันธุ์ด้วยการผสมเทียมได้สำเร็จตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 และสนับสนุนให้เลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเลี้ยงเป็นปลาสวยงามได้ด้วย
ทำต้มยำรสจัดกำลังดีเนื้อปลาสด เครื่องปรุงต่างๆ ยังเป็นการปลูกตามบ้านที่ปลอดสารเคมี
ปลายี่สก
สมัยหนึ่งปลายี่สกจับกันมากจนกรมประมงเกรงจะสูญพันธุ์ ได้ประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์ปล่อยลงตามแหล่งน้ำธรรมชาติและเขื่อนทั่วประเทศ จนประชาชนรู้จักมีให้กินอย่างทั่วถึง
ปลาช่อนเผา (220 บาท)
ปลาช่อนนาตัวโต ย่างได้กำลังพอดี ลอกหนังเห็นลั่งเนื้อขาวฟู ให้น้ำจิ้มมา 3 อย่าง คือน้ำปลาหวาน น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเค็มนำหวานเผ็ดเล็กน้อย น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแรงสาแก่ใจ แนมผักตามฤดู เช่น สะเดาลวก ดอกแคลวก แตงไทยอ่อน
ห่อหมกปลากราย
ห่อหมกห่อใหญ่ แกะห่อเนื้อแน่นละเมียดรสกลางๆ ไม่เผ็ดมาก ถ้าต้องการไข่ หัว พุง ต้องโทรศัพท์สั่งล่วงหน้า เพราะหมดเร็ว ห่อหมกแบบดั้งเดิมมักจะกวนเนื้อปลากับเครื่องแกงในอ่างดินเผาด้วยมือจนเหนียวได้ที่ ห่อใบตองหรือใส่กระทงใบตอง รองด้วยใบยอ ใบกระเพรา หรือผักกาด เมื่อนึ่งแล้วกลิ่นใบตองหอมแซมช่วยให้น้ำลายสอ
ยำสะเดาปลาดุกฟู (50 บาท)
สะเดารูดเอาแต่ใบรองจานเคล้าน้ำปลาหวาน ยีปลาดุกฟูทอดกรอบโปรยทั่วจาน แต่งหน้าด้วยหอมแดงเจียวให้ได้กลิ่นอายช่วยแก้คาว
ผัดเผ็ดลูกชิ้นปลากราย (60 บาท)
เนื้อปลากรายนวดกำลังกิน ไม่เด้งเกินเหมือนเคี้ยวยาง ปั้นลูกใหญ่อย่างไม่ขี้เหนียว ผัดสีสวยกับเหล่าสมุนไพร พริกไทยอ่อน กระชาย ใบกะเพรา พริกซอย รสชาติไม่เผ็ดจัด คลุกข้าวกินสบาย
ผัดขี้เมาปลาไหล (80 บาท)
หลายคนไม่กล้ากินปลาไหลเพราะเห็นรูปร่างคล้ายงู หารู้ไม่ว่าเนื้อปลาไหลที่หั่นแว่นติดหนังนั้นเนื้อปลาจะละเมียดหนังหนึบหนับ ขนาดปลาตัวใหญ่พอตัวกำลังกิน บวกกับฝีมือผัดฉ่าของแม่ครัวมือเอก ยากจะหาที่ฝีมือระดับนี้
เชิงปลากรายทอดกระเทียมพริกไทย (60 บาท)
ส่วนที่กินอร่อยตลอดตัวปลากรายนั้นอยู่ตรงเชิงปลาติดกระดูกกรุบ หากแต่ต้องเป็นปลากรายตัวโตสักหน่อย จึงจะได้เนื้อหนัง ยกมาตั้งไม่ทันไรแย่งกันหยิบจิ้มซอสศรีราชาหมดจนต้องสั่งเพิ่มอีกจาน
ต้มยำปลากดคัง (80 บาท)
ปลากดเป็นปลาหนัง ปลาหั่นชิ้นติดหนังพอดีคำ ต้มแซ่บกึ่งต้มยำง่ายๆ หนักไปทางเครื่องสมุนไพรครบเครื่องหอมพริกเผา หอมเผา โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง (ผักชีใบดาบ) ปรุงรสชาติได้กลมกล่อม
ทอดมันปลกราย (60 บาท)
ขูดเนื้อปลากรายขนาดใหญ่ เมื่อนวดและทอดแล้วจะไม่มีเศษก้างฝอยให้รำคาญ นวดได้เหนียวปานกลางด้วยความชำนาญ โรยหน้าใบกะเพราทอด ติงอยู่หน่อยหนึ่งถ้าหากสะเด็ดน้ำมันหรือซับมันที่เยิ้มอีกหน่อยจะยกให้เป็นทอดมันอันดับต้นๆ
แกงคั่วหอยขม
ปัจจุบันหอยขมอาจจะหากินได้ทั่วไปไม่ยาก ต่างกันตรงความสดของหอยที่ทุบหมดเปลือก แกงใส่หน่อไม้ซอยแล้วรูดใบชะอมใส่ให้ได้รับกลิ่นอายของแกงคั่ว
แกงอ่อมอีสานกบ (60 บาท)
นอกจากอาหารภาคกลางแล้วยังบริการอาหารอีสานอีกหลายอย่าง เช่น ลาบ น้ำตก พล่า ส้มตำ แกงอ่อม ฝีมือไม่แพ้ไปกินที่อีสาน แกงถ้วยนี้สับเนื้อกบติดหนัง รสที่คนทุกภาครับได้สบาย
ร้านขายของฝาก
ที่นี่ยังมีร้านขายของชาวบ้านที่อยู่ด้านหน้าร้านและข้างในร้านโดยมากจะเป็นของกินพื้นบ้านทั้งคาวหวาน เช่น มะตูมเชื่อม ส้มลิ้ม พุทราเชื่อม และอื่นๆ อีกมากมาย อร่อย สะอาด ล้วนแล้วแต่น่าซื้อเป็นของฝาก
บทสรุปสำหรับร้านนี้ อาหารรสภาคกลางที่ได้มาตรฐาน ความสะอาดพอสมควร ราคาอาหารถูกถ้าเทียบกับร้านทั่วไป ปัจจุบันร้านปิดเพราะเป็นช่วงล็อกดาวน์ ร้านจะเปิดช่วงต้นเดือนกันยายน โดยคาดว่าสถานการณ์โรคระบาดจะสร่างซา ถ้าไม่สะดวกเดินทางมาที่ร้าน มีบริการส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ ภายในหนึ่งวัน
ร้านแยกเจ้าปลุก (ใต้ถุนบ้านทรงไทย)
ถนน 3196 ตำบลเจ้าปลุก อำเภอมหาราช พระนครศรีอยุธยา13150
โทร. 0855069838
เปิด 10:00~21:00 น.
ภาพถ่าย มีรัติ รัตติสุวรรณ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี