ติดใจคำพูดเจื้อยแจ้วของ“แพทองธาร ชินวัตร”ที่กล่าวสดุดีนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร บิดาของเธอในหลายๆ เรื่อง เมื่อทราบข่าวว่าทักษิณจะได้รับการพักโทษ
“ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ทำเพื่อประเทศชาติมาอย่างมากมาย ออกไปนอกประเทศ 17 ปี ทราบดีว่า 17 ปีที่ผ่านมาหลายคนอาจจะไม่รู้จักท่าน แต่หากได้ดูได้ทราบก็จะได้ทราบว่าท่านได้ทำเพื่อประเทศชาติมากมาย ได้รับความยุติธรรมและไม่ยุติธรรมปะปนกันไปตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”
อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เริ่มพูดก็โกหกทันที เพราะ“ทักษิณ ชินวัตร”หนีออกนอกประเทศด้วยการหลอกศาลโดยทำหนังสือขออนุญาตศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเดินทางออกนอกประเทศในวันที่ 31 กรกฎาคม - 10 สิงหาคม 2551 ซึ่งให้เหตุผลว่า ต้องการไปชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ปักกิ่ง ประเทศจีนสรุปก็คือ ทักษิณหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศรวมเวลา 15 ปีกว่าๆ เท่านั้น ไม่ใช่ 17 ปีตามที่อุ๊งอิ๊งต้องการบิดเบือนเพื่อให้เห็นว่าบิดาของตนต้องทนทุกข์อยู่ในต่างแดนยาวนานเกือบ 20 ปี
ประเด็นต่อมา, อุ๊งอิ๊ง หลอกเด็กเหมือนหลอกลูกสาวลูกชายของตนที่ยังเป็นทารกด้วยการกล่าวอ้างว่า “17 ปีที่ผ่านมาหลายคนอาจไม่รู้จักท่าน (ทักษิณ ชินวัตร)แต่หากได้ดูได้ทราบก็จะได้ทราบว่าท่านได้ทำเพื่อประเทศชาติมากมาย”
โดยข้อเท็จจริงนั้น คนที่เติบโตและอยู่ในยุคที่“ทักษิณ ชินวัตร”ครองอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2544-2549 ต่างก็ทราบกันว่าบุคคลผู้นี้ได้ชื่อว่า“โกงโคตร-โคตรโกง”อันเป็นสาเหตุทำให้ต้องหนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเรื่องที่ใหญ่ที่สุดก็คือการฉ้อฉลอำนาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่บริษัทเทมาเส็ก หรือกองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ มูลค่ากว่า 7.3 หมื่นล้านบาท อันเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก่อนจะนำมาสู่การรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549
สิ่งที่ประจักษ์ชัดว่าทำไม“ทักษิณ ชินวัตร” ถึงได้ชื่อว่า“โกงโคตร-โคตรโกง”นั้น ย่อมดูได้จากคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาเด็ดขาดทั้งหมด 4 คดี รวมโทษ12 ปี ไม่รอลงอาญา
1.คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่มีการกล่าวหาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลขณะนั้น) และทักษิณ ชินวัตร ในการซื้อที่ดินจำนวน 33 ไร่ 78 ตารางวา ราคา 772 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ศาลสั่ง
จำคุก ทักษิณ ชินวัตร 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนคุณหญิงพจมานศาลยกฟ้อง และคดีได้หมดอายุความก่อนที่ทักษิณจะกลับเข้ารับมารับโทษ
2.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “คดีหวยบนดิน” โดยศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา (หลัง“ทักษิณ”กลับมารับโทษปรากฏว่าคดีนี้ถูกยกประโยชน์ให้นักโทษโดยไม่ได้นับโทษรวมกับคดีเอ็กซิมแบงก์)
3.คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์-Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4 พันล้านบาทแก่รัฐบาลเมียนมา ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา
4.คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัทชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม โดยศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา
อยากจะถาม“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”ว่านั่นหรือคือคุณงามความดีที่บิดาของเธอ”ได้ทำเพื่อประเทศชาติมากมาย” นอกจากเรื่อง“ขี้โกง”ดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีอีก 3 เรื่องที่แสดงให้เห็นว่า“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นบุคคลที่ไร้เกียรติยศและศักดิ์ศรี
เรื่องแรก, เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2562 คณะกรรมการศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารได้มีมติถอดชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”ออกจากศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนเตรียมทหาร พร้อมเรียกคืนรางวัลเกียรติยศจักรดาว เนื่องจากที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า ทักษิณมีความประพฤติตนเสื่อมเสีย เสียหายต่อสังคม ต่อสถาบัน เหตุอันเนื่องจากเป็นนักโทษหนีคดีทุจริตประพฤติมิชอบต่อบ้านเมือง
เรื่องที่สอง, เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2558 “ทักษิณ ชินวัตร”ถูกถอดยศ“พันตำรวจโท”ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 อันเนื่องมากจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2551 สั่งจำคุกทักษิณ 2 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีทุจริตประพฤติมิชอบการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และเรื่องที่สาม, ถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง
“เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์” โดยมีรายละเอียดว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายหน้า และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่น เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาคดีถึงที่สุดลงโทษจำคุก และยังมีข้อหาฐานอื่นๆ อีกหลายคดี อีกทั้งได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งถือว่าเป็นพฤติการณ์การกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ขอจบเรื่องของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรด้วยคำพูดของ“มงแต็สกีเยอ”(Montesquieu) นักปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่เคยกล่าวไว้ว่า “ไม่มีความเลวร้ายใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามกระบวนการยุติธรรม”
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี