เมื่อไม่กี่วันมานี้สังคมออนไลน์ได้แชร์ภาพสุนัขที่ถูกวางยาสลบเพื่อสักลายบนผิวหนังทั่วลำตัว ทำให้เกิดคำถามและเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูว่า จะถือเป็นความสวยงาม หรืออันตรายต่อสัตว์ รวมถึงเป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ วันนี้เรามาคุยกันในประเด็นเรื่องนี้กันครับ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสักกันก่อนนะครับ
การสัก (Tattoos) เป็นเทคนิคการใส่เม็ดสี หรือน้ำหมึก คือโลหะหนัก เข้าไปฝังในชั้นใต้ผิวหนัง โดยมีอุปกรณ์เป็นเข็มขนาดเล็ก หรือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะคล้ายปืนยิงที่มีเข็มอยู่ที่ส่วนปลายเจาะให้ผิวหนังเป็นรู โดยที่เม็ดสีจะถูกปลายเข็มเจาะฝังเข้าไปอยู่ใต้ผิวหนัง
ในปัจจุบัน มีผู้คนทั้งชายและหญิงให้ความสนใจกับการสักผิวหนัง ทั้งเพื่อความสวยงาม แฟชั่น และเป็นการตกแต่งให้ดึงดูดผู้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นการสักคิ้ว สักขอบตา สักขอบปาก รวมถึงการเพิ่มสีสันด้วยภาพลงบนผิวหนังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป็นต้น
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการสัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการสักคือ
การสักในสัตว์มีประโยชน์หรือไม่
การสักผิวหนังในด้านการสัตวแพทย์นั้น ก็มีการทำมาตั้งแต่ในอดีตแล้ว โดยทำที่บริเวณใบหู หรือโดยเป็นตำแหน่งเล็กๆ ข้างลำตัวสัตว์ที่สังเกตได้ง่าย แต่วัตถุประสงค์ของการสักในสัตว์นั้น ไม่ได้เพื่อความสวยงาม แต่ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้แก่
เราทราบกันดีว่า การสักในคนนั้น เราทำเพื่อ แฟชั่น และความนิยมในคนกลุ่มหนึ่ง (อันนี้เราจะไม่ไปละเมิดสิทธิและความชอบส่วนบุคคลของเขา) รวมถึงเพื่อความสวยงาม ซึ่งเป็นความสมัครใจของผู้ต้องการทำ แต่ในสุนัขล่ะ นั่นเป็นความสมัครใจของสุนัขหรือ??
การสักแต่ละครั้ง ต้องใช้ระยะเวลานานนับชั่วโมง หลายคนอาจยอมทนความเจ็บเพื่อความสวยงามนั้น แต่สำหรับในสัตว์นั้น สุนัขจะไม่ยอมอยู่นิ่งและไม่สามารถทนเจ็บได้นานขนาดนั้นแน่นอน ดังนั้นกิจกรรมนี้จึงต้องมี “การวางยาสลบ” (ซึ่งการวางยาสลบนั้น ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย)
ดังนั้นนอกจากไม่ได้เกิดจากความเต็มใจกระทำของสุนัขแล้ว ยังมีเรื่องโอกาสเกิดการแพ้ และความไม่ความสะอาดของอุปกรณ์ รวมถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการวางยาสลบอีกด้วย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าการวางยาสลบนั้นอาจมีผลต่อการทำงานของหัวใจและระบบการหายใจ ดังนั้นจะต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์
และที่สำคัญในพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 3 ได้กล่าวถึงการทารุณกรรม ว่า“การทารุณกรรม” หมายความว่า “การกระทำหรืองดเว้นการกระทำใดๆที่ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจ ได้รับความเจ็บปวด ความเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรืออาจมีผลทำให้สัตว์นั้นตาย ...”
โดยที่ ในหมวด 5 เรื่องการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์มาตรา 20 ก็ได้ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร” อีกด้วย
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากมาตราดังกล่าวในพระราชบัญญัตินี้แล้ว คิดว่า ทุกคนคงเห็นพ้องกันว่า การนำสัตว์เลี้ยงมาทำกิจกรรมใดๆโดยที่สัตว์ไม่ได้ยินยอม และทำให้เกิดความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานทางร่างกายและจิตใจ ในมุมมองของสัตวแพทย์และคนรักสัตว์ก็เห็นว่า นั่นคือ“การทรมานสัตว์” อย่างหนึ่งครับ
แต่ทราบภายหลังว่า กรณีการสักดังกล่าวที่แชร์กันนั้น เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ถ้าเกิดในประเทศไทยล่ะก็ องค์กรต่างๆ และกลุ่มคนที่รักสัตว์ คงไม่ยอมและต้องเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอนครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี