รพ.สต.ปากกราน มีเขตรับผิดชอบ 14 หมู่ หรือ 1,521 ครัวเรือนมีประชากร 7,699 คน ชาย 3,250 คน หญิง 3,224 คน มีพื้นที่ประมาณ 22.5 ตารางกิโลเมตร หรือ 14,018.75 ไร่ มีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองส่งน้ำ รวม 10 สายไหลผ่าน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม และบางส่วนเป็นพื้นที่พาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย ซึ่งในช่วงฤดูน้ำหลากมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยและน้ำท่วมขังได้ง่าย ทางด้านเศรษฐกิจ ประชาชนจะทำนา ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงโค กระบือ แพะ เป็ด ไก่ มีร้านค้าของชำ ตลาดนัด ร้านอาหารตามสั่ง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เช่น บริษัทเอกชน โรงงานอุตสาหกรรม รับราชการ รัฐวิสาหกิจ
มี รร. 7 รร. และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 5 ศูนย์ มีวัด 4 วัด มีมัสยิดถึง 6 มัสยิด มีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 68 คน อสม.เงา 4 คน กระจายไปทั้ง 14 หมู่บ้าน
5 อันดับโรคผู้ป่วยนอกคือ เยื่อบุจมูกและลำคอ ปวดท้อง กล้ามเนื้ออักเสบ เวียนศีรษะ ไอ และผื่นคัน
ปัญหาอุปสรรค คือ 1) มีรายจ่ายมาก รายรับน้อย ขาดสภาพคล่อง 2) การบริหารงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ พบว่าประชาชนไม่มีเวลาและให้ความสำคัญกับกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ 3) มีผู้ป่วยโรคเรื้อรังมารับบริการใน รพ.สต.มากขึ้น เจ้าหน้าที่อื่นนอกจากพยาบาลยังขาดความมั่นใจในการรักษาพยาบาล พยาบาลมีภาระงานมาก 4) การบริหารงานด้านการควบคุมโรค พบว่าการทำงานด้านควบคุมป้องกันโรคมีทีมงานที่เข้มแข็ง
ปัญหาอื่นๆ คือ การใช้ smart phone ระบบ internet ยังไม่ครอบคลุม อสม.ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
สำหรับผม ระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ ซึ่งมี รพ.สต. เป็นหลักเป็นหัวใจของการมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีความสำคัญมากเพราะจะสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนไป รพ.โดยไม่จำเป็น รพ.สต.ทั้งอยู่ใกล้บ้านและใกล้ใจ รพ.สต.แทบทุกแห่งที่ผมไปดูบรรยากาศดีมาก เป็นกันเอง ร่มรื่น ไม่น่าตื่นเต้น น่ากลัว หรือน่าเกรงขามเหมือนไป รพ.ทั่วไป รพ.ศูนย์ หรือ รร.แพทย์ ซึ่งจะเดินชนกันตาย รพ.ใหญ่โตมากหลงทาง ต้องไปที่โน่น แล้วไปต่อที่นี่ พบหมอ ไปรับยา ไปจ่ายเงิน ไปตรวจเลือดฯ แต่ละที่ห่างกันมาก ใช้เวลาเป็นวันหรือครึ่งวัน แต่ถ้าไปที่ รพ.สต.คิวไม่มาก วันหนึ่งๆ อาจมีประชาชนไปตรวจรักษา 40-50 คน ทุกอย่างอยู่ที่เดียวกัน กันเอง ไม่น่าตื่นเต้น กลัว เหมือนไปหาเพื่อนบ้าน ฯลฯ
สำหรับผม รพ.สต.ก็เหมือน GP (General Practioner หรือแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว) คลินิก ที่อังกฤษ แต่ที่อังกฤษจะมีบุคลากรครบเครื่องกว่านี้ มีอุปกรณ์ตรวจโรคมากกว่านี้ มีที่ตรวจเลือดเอกซเรย์ ทำฟัน และที่สำคัญมีแพทย์ประจำตลอด แต่หลักการคล้ายๆ กัน แต่ไม่เป็นไร เราเริ่มต้นได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว แต่ต้องพยายามพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นทุกๆ ปี
สำหรับผมปัญหาใหญ่ คือ ทำอย่างไรจึงจะมีแพทย์ประจำอยู่ทุก รพ.สต. และควรมีอย่างน้อย 1 คนทุกวัน กลางคืนมีแพทย์อยู่เวร on call จากที่บ้าน เท่าที่ทราบ รพ.สต.ไม่มีแพทย์on call ถ้ามีปัญหาต้องไป รพ.ชุมชน หรือทั่วไป ผมอยากให้ รพ.สต.มีระบบ on call ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ หรืออย่างน้อยเจ้าหน้าที่ (ถ้ายังไม่มี ถ้ามีก็ขออภัย)
ทำไมอังกฤษ และประเทศอื่นๆ จึงมี GP กระจายไปได้ทั่วทั้งประเทศ ความจริงแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว หรือ GP ถือว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาหนึ่ง ที่เมื่อจบ พ.บ.แล้ว ใช้ทุนแล้ว เรียนต่ออีก 3 ปี แล้วสอบเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสาขานี้
แต่แพทย์เอง หรือประชาชน อาจมองว่า GP เป็นแพทย์ทั่วไป ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ผมเองคิดว่า GP คือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเชี่ยวชาญกว่าผมมากในศาสตร์ของวิชาเขา เช่น เขาต้องมีความสามารถในการดูแลประชาชน คือ เกือบทุกสาขาของแพทย์ในระดับหนึ่ง เช่น อายุรศาสตร์ ศัลยศาสตร์ สูตินารี เด็ก กระดูก ฯลฯ ซึ่งผมเองอาจมีความรู้ทางด้านอายุรศาสตร์เท่านั้น หรืออาจจะรู้ทางด้านระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก แต่ไม่มีความรู้เลยทางด้านกุมาร สูตินารีเวชศาสตร์ ฯลฯ
ฉะนั้นระบบสาธารณสุข แพทย์ ประชาชน ต้องยกย่องให้เกียรติ GP ต้องกระตุ้น สนับสนุนเขาให้ค่าตอบแทนให้พอ เพราะเขาจะมาอยู่ที่ตำบล เขาจะเปิดร้านส่วนตัวหาเงินจากใครในตำบล ต้องยกย่อง ยอมรับเขา เงินเดือนต้องพอ ต้องมีระบบเลื่อนขั้นที่ยุติธรรม โปร่งใส มีวันหยุด มีการให้ลาไปประชุมวิชาการได้ ต้องดูแล GP ให้สมเกียรติ ศักดิ์ศรี รวมทั้งเงินค่าตอบแทนอย่างเพียงพอ ฯลฯ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี