วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
PetCare : ขนแมวเข้าไปในทางเดินหายใจได้จริงหรือ
วันนี้ขอนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องขนแมวมาฝากกันครับ เพราะหมอไปออกตรวจแล้วมีคุณพ่อคุณแม่สอบถามและกังวลเกี่ยวกับเรื่องแมว ว่ามีโอกาสเข้าไปในระบบทางเดินหายใจได้หรือไม่ เพราะในปัจจุบันคนเลี้ยงสัตว์อยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงใกล้ชิดกันมาก โดยเฉพาะแมวและสุนัข
อย่างไรก็ตาม ประเด็นด้านสุขภาพที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาคือการสัมผัสขนแมว และผลต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะข้อสงสัยว่าขนแมวสามารถเข้าไปในรูจมูกของมนุษย์ได้หรือไม่ และหากเกิดขึ้นจะก่อให้เกิดอันตราย หรือโรคภัยต่าง ๆ หรือไม่
ต้องบอกก่อนว่า ระบบทางเดินหายใจส่วนต้นของมนุษย์ ประกอบด้วยโพรงจมูก คอหอย และกล่องเสียง โดยโพรงจมูกมีบทบาทสำคัญในการกรองอากาศ อุ่นอากาศ และเพิ่มความชื้นก่อนเข้าสู่ปอด ภายในโพรงจมูกมีโครงสร้างป้องกันหลายระดับ คือ
- ขนอ่อนในจมูก ทำหน้าที่ดักจับอนุภาคขนาดใหญ่
- เยื่อบุโพรงจมูกและเมือก ซึ่งสามารถจับฝุ่น เส้นใย และจุลชีพ
- ระบบ ciliary escalator ซึ่งเป็นขนกวัดขนาดเล็กที่โบกพาเมือกและสิ่งแปลกปลอมออกสู่ด้านนอก
กลไกเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง
ส่วนความเป็นไปได้ของการที่ขนแมวเข้าสู่โพรงจมูกของคนก็มีอยู่บ้าง โดยเฉพาะในที่ปิด คือในบ้านหรือห้องที่มีการเลี้ยงแมว แต่อย่างไรก็ตาม เส้นขนแมวมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับอนุภาคฝุ่นหรือสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ จึงมักถูกดักจับไว้ที่บริเวณปากจมูกหรือโพรงจมูกส่วนหน้า และถูกกำจัดออกโดยการจามหรือการไหลของเมือก
ดังนั้น โอกาสที่เส้นขนแมวจะเข้าสู่หลอดลมหรือถุงลมปอดในบุคคลที่มีสุขภาพปกตินั้นต่ำมาก แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เลย และไม่ถือเป็นสาเหตุสำคัญของโรคปอดหรือการอุดกั้นทางเดินหายใจ
แต่บ่อยครั้งที่เรามีความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ คือเชื่อว่าอาการแพ้เกิดจากเส้นขนแมวโดยตรง
มีงานวิจัยทางภูมิแพ้ยืนยันว่า ต้นเหตุที่แท้จริงคือสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะโปรตีน Fel d 1 (90-95%) ไม่ใช่ตัวเส้นขน
ตัว Fel d1 เป็นโปรตีนที่ผลิตจากต่อมไขมัน ต่อมน้ำลาย และผิวหนังของแมว เมื่อแมวเลียขนหรือมีการผลัดผิวหนัง โปรตีนนี้จะติดอยู่บนขนและเศษผิวหนัง (dander) แล้วกระจายไปในสิ่งแวดล้อม งานวิจัยพบว่า Fel d1 สามารถลอยอยู่ในอากาศและคงอยู่ในฝุ่นภายในอาคารได้นาน แม้ในสถานที่ที่ไม่มีแมวเลี้ยงอยู่โดยตรง
การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อ Fel d 1 พบว่าในคนที่มีภาวะแพ้แมว ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองต่อ Fel d1 ผ่านกลไกแบบ IgE-mediated hypersensitivity เมื่อมีการสัมผัสสารนี้ ร่างกายจะหลั่งฮีสตามีนและสารก่อการอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการทางคลินิก เช่น จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา และในบางรายอาจกระตุ้นโรคหอบหืด
มีการศึกษาเรื่องการสัมผัส Fel d 1 เพียงปริมาณเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก และการเปลี่ยนแปลงของตัวชี้วัดทางภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ
ถึงแม้เส้นขนแมวจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของโรค แต่การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จากแมวมีความสำคัญทางคลินิก โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคภูมิแพ้จมูกอักเสบหรือโรคหอบหืด งานวิจัยชี้ว่าการลดปริมาณ Fel d1 ในสิ่งแวดล้อม เช่น การทำความสะอาดบ้านและการจัดการสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยง สามารถลดอาการแพ้ได้จริง
โดยสรุปขนแมวสามารถเข้าสู่โพรงจมูกของมนุษย์ได้ในเชิงกายภาพ แต่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์มีประสิทธิภาพสูงในการดักจับและกำจัดสิ่งแปลกปลอม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับแมวส่วนใหญ่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ Fel d 1 ซึ่งติดอยู่บนขนและเศษผิวหนังของแมว จากสิ่งที่เจ้าของสัตว์ถาม ก็ทำให้สัตวแพทย์ต้องไปหาข้อมูลเพื่อมาตอบเจ้าของสัตว์ในเชิงวิชาการให้ได้ เพื่อความรู้และความเข้าใจที่แท้จริง
น.สพ. นนทษิต ชุติญาณวัฒน์
โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

ประเดิมคนแรก เสรีพิศุทธ์ สมัคร สส บัญชีรายชื่อ แคนดิเดตนายก ชูนโยบายปฏิรูปตำรวจ
3 แคนดิเดตนายก เพื่อไทย นำทีม สส บัญชีรายชื่อ สมัครจับเบอร์
ไทยตอนบนสู้หนาว-ระวังอัคคีภัย ภาคใต้เจอมรสุมถล่มฝนตกหนัก-คลื่นสูง3เมตร
ยิปซี 12 นักษัตร : พยากรณ์ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2568 – 3 มกราคม พ.ศ.2569
‘กานต์ ณัฐชา’สุดทึ่งร่วมทริป 'หนุ่มแท่ง อารามทัวร์'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี