บทความนี้ใคร่ขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับองค์กรหนึ่ง ที่เป็นการรวมตัวของนักการเมืองในประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ซึ่งมีชื่อว่า ASEAN Parliamentarians for Human Rights-สมาชิกรัฐสภาแห่ง (ประเทศ) อาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยเรียกย่อๆ ว่า APHR
โดยผู้ร่วมก่อตั้งคนหนึ่งคือ อาจารย์ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ (บุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตสมาชิกวุฒิสภา) กับ นายชาร์ล ซานติอาโก้ ชาวมาเลเซีย (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดฝ่ายค้าน พรรคกิจกรรมประชาธิปไตยมาเลเซีย)
เดิมองค์กรนี้มีชื่อว่า สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนในพม่า แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฝ่ายรัฐบาลทหารได้คืนประชาธิปไตยให้กับสังคมพม่า ส่งผลให้พม่ากลับคืนสู่ประชาธิปไตย องค์กรนี้ก็เลยเปลี่ยนชื่อ และกำหนดจุดมุ่งหมายใหม่ โดยเน้นไปในเรื่องสิทธิมนุษยชน
ซึ่งการจะเข้ามาเป็นสมาชิกนั้น เป็นการสมัครด้วยตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค หรือขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ไม่เป็นไปในนามองค์กรใดๆ กล่าวคือ สามารถเป็นสมาชิกในนามของตัวตนเอง ในฐานะปัจเจกชน และเป็นที่เข้าใจและยอมรับกันว่า แต่ละสมาชิกนั้น เป็นผู้ที่ยึดมั่นในเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย การปกครองด้วยกฎหมาย และธรรมาภิบาล
ผมได้เข้าร่วมในสมาคมนี้ ด้วยการเชิญชวนของอาจารย์ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และก็ได้ร่วมกิจกรรมมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการมีสังคมเปิด โดยมีประชาชนพลเมืองเป็นใหญ่เป็นที่ตั้ง รวมทั้งการรณรงค์ให้เกิดความยุติธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ในสังคมของแต่ละประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน และในประชาคมอาเซียนโดยรวม
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 9-13 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะผู้แทน APHR มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนพบปะกับสมาชิกรัฐสภาสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อไปแนะนำองค์กรของเรา และดำเนินการหาลู่ทางความร่วมมือเกื้อกูลกัน ในการส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชน และสังคมประชาธิปไตย โดยผู้ที่เดินทางไปด้วยกันนั้น ก็มีผู้แทนราษฎรจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และกัมพูชา ผมเองไปในฐานะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย
ระหว่างการพบปะกับสมาชิกรัฐสภาสหภาพยุโรป ทีมเราก็ได้ร่วมกันชี้แจงแถลงไขความเป็นไปทางการเมืองของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน และของประชาคมอาเซียนในภาพรวม โดยสรุปว่า ความเป็นสังคมเปิดนั้นมีความถดถอย มีการทวีขึ้นของการใช้อำนาจประชาชนแบบเผด็จการ สังคมมีแนวโน้มเอียงไปทางด้านชาติพันธุ์นิยม และศาสนานิยมแบบขวาจัด โดยละทิ้งมองข้ามความหลากหลายในสังคม การถ้อยทีถ้อยอาศัย การเอื้ออาทรต่อกัน ขาดการร่วมมือกันเพื่อส่วนรวม และขาดการปรับตัวเข้าหากันอย่างสันติวิธี เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีและสันติสุข
ที่พวกเรามุ่งไปยังรัฐสภาสหภาพยุโรป ก็เพราะเขานั้น เชื่อและยึดถือปฏิบัติในเรื่องความเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งเรื่องที่เป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย นั่นคือ การเคารพ ปฏิบัติในเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังกว้างขวาง ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นประสบการณ์ ซึ่งองค์ความรู้ต่างๆ ของเขาน่าจะนำมาแบ่งปันกันได้ และสามารถร่วมมือกันเป็นเครือข่ายในการส่งเสริม เสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคมประชาธิปไตยที่มีอยู่ รวมถึงการขับเคลื่อนให้มีการเปลี่ยนแปลงในสังคมประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนที่ยังมีความเป็นเผด็จการอยู่ แต่ไม่มีวัตถุประสงค์ให้เป็นการแทรกแซงในกิจการภายใน หากแต่เป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้หลุดพ้นจากห่วงคอเผด็จการเท่านั้น
จากการพบปะ การตอบรับก็ค่อนข้างไปในทางที่ดี อย่างน้อยก็สามารถทำให้รัฐสภาสหภาพยุโรปได้รับทราบ และตระหนักมากขึ้นว่า ยังมีกลุ่มชนในแวดวงประชาคมอาเซียนที่ยังยึดมั่น และจะยืนหยัดขึ้นต่อสู้เพื่อสังคมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอยู่ นำมาซึ่งช่องทางในการติดต่อสื่อสาร และการอธิบายความในสถานการณ์ใดๆ ก่อนที่รัฐสภาสหภาพยุโรปจะตัดสินใจดำเนินนโยบายต่างๆ กับประชาคมอาเซียนในอนาคต
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี