ประเด็น “หมุดคณะราษฎร” ยังมีเงื่อนงำ ปมลับ
สมควรใจเย็นๆ ก่อนจะถูกนำไปขยายเกินเลย
1.หมุดคณะราษฎรเดิม ถูกฝังไว้ตรงลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2479 ณ จุดที่พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ยืนอ่านประกาศยึดอำนาจ 24 มิ.ย. 2475
บนหมุดทองเหลือง มีข้อความว่า “ณ ที่นี้ 24 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง คณะราษฎรได้ก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ เพื่อความเจริญของชาติ”
ชัดเจนว่า เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์เชิงสัญลักษณ์ โดยคณะราษฎร ซึ่งเป็นฝ่ายที่ประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเกิดขึ้นแล้วกว่า 4 ปี จึงได้จารึกถ้อยคำที่สื่อความหมายทางบวกต่อการอภิวัฒน์สยามของคณะราษฎร เมื่อปี 2475
2.สำหรับหมุดอันใหม่ ที่ถูกนำมาใส่แทนอันเดิม มีข้อความรอบนอกว่า “ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง”
และยังมีข้อความในวงด้านในระบุว่า “ขอประเทศสยามจงเจริญยั่งยืนตลอดไป ประชาชนสุขสันต์ หน้าใส เพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน”
ยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ หรือเจ้าของหมุดอันใหม่นี้แต่อย่างใด
3.ถ้อยคำในหมุดหมายอันใหม่ ปรากฏว่า ความหมายไปพ้องกับคำบาลี
“ติรตเน สกรฏฺเฐจ สมฺพํเส จ มมายนํ
สกราโชชุจิตฺตญฺจ สกรฏฺฐาภิวฑฺฒนํฯ”
แปลว่า “ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง”
4.ถ้อยคำข้างต้น ยังปรากฏอยู่บน “ตรามหาจักรี” ซึ่งเป็นรูปจักร 8 กลีบ ลงยาสีขาว มีรูปตรีศูลเงินระหว่างกลีบจักร พื้นมีอักษรทองเป็นคาถาภาษิตภาษาบาลีว่า “ติรตเนสกรัฏ์เฐจ สัมพํเสจมมายนํ สกราโชชุจิต์ตัญ์จ สกรัฏ์ฐภิวัฑํฒนํ”
แปลความหมายได้ตามที่กล่าวนั้นเอง
แต่นั่นก็ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์แน่ชัดว่าใครเป็นเจ้าของหมุดอันใหม่
5.หลังเกิดเหตุ มีการจัดตั้งแฟนเพจเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องนี้โดยตรง
มีเครือข่ายบุคคลที่ส่วนใหญ่ต่อต้านคสช.เป็นทุนเดิม เล่นมาทุกประเด็น ตีมาทุกเรื่อง ประสานเสียงกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย กดดันให้จัดการกับใครที่เปลี่ยนหมุด แถมยังมีนักศึกษาพุ่งประเด็นกดดันทางการเมืองไปที่พรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทยด้วย
ผู้ที่ไม่เคยแสดงออกว่าต่อต้านคสช. แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่หมุดเดิมถูกทำให้หายไป ก็แสดงความเห็นจุดยืนให้สอบสวนทวนความหาข้อเท็จจริงแต่ดูจะระมัดระวัง เหมือนรู้ว่าเกรงจะตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายต่อต้าน คสช. จึงไม่เล่นใหญ่ถึงขนาดเคลื่อนไหวอะไร
6.อย่างไรก็ตาม มีผู้คนในโลกออนไลน์ไม่น้อย ที่ไม่นิยมชมชอบคณะราษฎร แสดงออกอีกด้านหนึ่ง
อาทิ ในเว็บไซต์ Change.org ได้มีบุคคลริเริ่มแคมเปญรณรงค์สื่อความเห็นไปยังรัฐบาล เรื่อง “ชื่นชมและเห็นด้วยกับการเปลี่ยนหมุดคณะราษฎร” โดยผู้ใช้ชื่อว่า Bowne Tee เมือง Los Angeles ความว่า
“ขอประเทศสยามจงเจริญยั่งยืนตลอดไป ประชาสุขสันต์หน้าใสเพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง”
แม้ว่าหมุดคณะราษฎรจะฝังอยู่ลานพระบรมรูปทรงม้ามานาน แต่ก็ไม่สามารถทำให้ประชาธิปไตยในไทยเจริญ กลับสร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ และถูกคนบางกลุ่มแสวงประโยชน์มาใช้อ้างเป็นสถานที่ทำกิจกรรมแสดงละคร แม้จะเปลี่ยนหมุดคณะราษฎรใหม่ ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงก็ไม่สามารถทำลายหรือเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น จึงไม่ควรยึดติดหรือนำมาเป็นประเด็นเรียกร้องให้เกิดปัญหาในประเทศ”
7.พูดกันตามตรง... หมุดอันเดิมของคณะราษฎร ไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครก็ตาม มันก็คือข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ว่า คนของคณะราษฎรเองได้เคยนิยามการกระทำของตนเองว่าอย่างนี้
ซึ่งผลลัพธ์ หรือการกระทำจริง จะเป็นไปตามที่อ้างไว้บนหมุดหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ดังนั้น การที่ปรากฏว่า มีหมุดอันใหม่มาแทนอันเดิม มีข้อความความหมายแบบใหม่เข้าไปแทน ซึ่งไม่ใช่ข้อความที่คณะราษฎรเดิมเขียนไว้แน่ๆ ย่อมเป็นการพยายามลบทิ้งนิยามความหมายที่ฝ่ายคณะราษฎรเคยเขียนไว้ยกย่องตนเอง จึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้เป็นเบื้องต้น
แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วย หรือเห็นต่างอย่างไร ประเด็นนี้ ก็ไม่สมควรจะนำไปขยายผล จนเพิ่มประเด็นขัดแย้ง สร้างความวุ่นวาย กระทบต่อการเดินหน้าประเทศไทยในเชิงเนื้อหาสาระของการปฏิรูปบ้านเมืองในปัจจุบัน
8.ระยะเวลาไล่ๆ กัน ก่อนจะเกิดเหตุหมุดคณะราษฎรในบ้านเราไม่นาน ปรากฏข่าวเกี่ยวกับการต่อสู้ ขบเหลี่ยม ช่วงชิงการสื่อสัญลักษณ์ที่สหรัฐอเมริกา
เมื่อเจ้าของผลงานรูปปั้น “วัวกระทิงวอลล์สตรีท” ร้องเรียนรูปปั้น “เด็กหญิงผู้กล้าหาญ”
อ้างทำให้ “กระทิง” เสื่อมเสีย!
ขออนุญาตคัดข่าวจากแฟนเพจ “VOA Thai” เล่าข่าวนี้ไว้อย่างสนุกว่า
“ประติมากรเจ้าของผลงาน “Charging Bull” หรือรูปปั้นวัวกระทิงที่ตั้งอยู่ในย่าน Wall Street ของสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวหาเทศบาลนครนิวยอร์กว่า ละเมิดสิทธิทางกฎหมายของตน ด้วยการนำรูปปั้นเด็กผู้หญิงยืนเท้าสะเอว หรือที่เรียกว่า “Fearless Girl” มาตั้งด้านหน้ารูปปั้นวัวกระทิง
ซึ่งทำให้กระทิงของตนกลายเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ไม่ดีและถูกมองในแง่ลบ
นาย Arturo Di Modica เจ้าของผลงาน “Charging Bull” บอกว่า “ตนปั้นวัวกระทิงตัวนี้เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของโลกแห่งเสรีภาพ ความแข็งแกร่ง พลังและความรัก”
ขณะที่ทนายความของนาย Modica กล่าวว่า การนำ “Fearless Girl” มาตั้งหน้าวัวกระทิง มีจุดประสงค์เพื่อการค้าและประชาสัมพันธ์มากกว่า จึงต้องการให้นำออกไป
แต่นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก Bill de Blasio ชี้ว่า ข้อกล่าวหาในลักษณะที่ว่า ผู้หญิงได้เข้ามาแทนที่อาณาเขตของผู้ชาย คือเหตุผลที่จำเป็นต้องมีรูปปั้น “Fearless Girl” หรือ “เด็กผู้หญิงผู้กล้าหาญ” นี้ อยู่ที่นั่นต่อไป
“Fearless Girl” เป็นผลงานของคุณ Kristen Visbal ซึ่งถูกนำมาตั้งอยู่ที่ย่าน Wall Street ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา”
9.เราจะเห็นว่า การสร้างอนุสาวรีย์ หรือประติมากรรมทุกอย่าง นอกจากจะมีความหมายในตัวเอง ผ่านท่าที ลีลาของผลงานชิ้นนั้นๆ แล้ว ยังมีบริบท “สถานที่” และ “สิ่งประดิษฐ์ที่มีอยู่เดิม” ในสถานที่นั้นๆ ด้วย
บางครั้ง อาจทำให้ความหมายของผลงานเดิมถูกทำลาย หรือถูกข่มลง โดยไม่ต้องรื้อถอนทำลายด้วยซ้ำ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี