วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
หากใครติดตามข่าวสาร กรณีตรวจสอบการทุจริตในโครงการบ้านเอื้ออาทร มาตั้งแต่สมัยยุครัฐบาลทักษิณ จะไม่แปลกใจเลยกับข่าวคราวว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร
ตรงกันข้าม จะแปลกใจเสียอีกว่า ทำไมคดียังไปไม่ถึงชั้นศาลเสียที เพราะเวลาล่วงมากว่า 10 ปีแล้ว
1.คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร มีการสอบสวนโดย ป.ป.ช. หลายคดี หลายกรณี หลายโครงการย่อย
อาทิ กรณีกล่าวหาอดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ กรณีอนุมัติให้จัดซื้อที่ดินโครงการบ้านเอื้ออาทรหาดใหญ่ (การนิคมอุตสาหกรรมฉลุง) จ.สงขลา ในราคาสูงเกินจริง
กรณีกล่าวหาอดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ทุจริตบ้านเอื้ออาทร จ.กำแพงเพชร (พรานกระต่าย) โครงการบ้านเอื้ออาทร จ.อุทัยธานี (สะแกกรัง) และโครงการบ้านเอื้ออาทร จ.บุรีรัมย์ (ลำปลายมาศ) ละเลยการตรวจสอบบริษัทผู้รับเหมาร่วมดำเนินกิจการไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการควบคุมงานก่อสร้างโดยที่ปรึกษา การซื้อที่ดินราคาสูงกว่าความเป็นจริง ทั้ง 3 โครงการได้ถูกบอกเลิกสัญญาโดยการเคหะฯ แต่กลับไม่เรียกร้องค่าเสียหายจากคู่สัญญา
กรณีกล่าวหาอดีตรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ เรียกรับสินบนแลกโควตาบ้านเอื้ออาทร โดยจ่ายสินบนให้แก่นักการเมืองผ่านบริษัทของพ่อค้าข้าวชื่อดัง คนขับรถ แม่บ้าน และพนักงานพิมพ์ดีดของบริษัท 82 ล้านบาท มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมที่จะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 และ 149 เป็นต้น
2.ปัญหาทุจริตเน่าเฟะในโครงการบ้านเอื้ออาทรของระบอบทักษิณ มันจึงไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ ก็จะมีใครมาเสกข้อหาลอยๆ
ยิ่งกว่านั้น เป็นเรื่องที่ถูกตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณแล้วด้วยซ้ำ
เพียงแต่ขณะนั้น ระบอบทักษิณยึดกุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จ แทรกแซงยึดครององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
รูปแบบและพฤติกรรมโกงในโครงการนี้ หากระบอบทักษิณยังเรืองอำนาจต่อไปในขณะนั้น เชื่อแน่ว่ามูลค่าผลประโยชน์จะมากมายมหาศาล หลักแสนล้านบาทแน่นอน
นายเสนาะ สุขเจริญ เป็นอดีตนักข่าวมือสอบสวนของประชาชาติธุรกิจขณะนั้น ได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถึงแก่น ปัจจุบัน เป็นบรรณาธิการสำนักข่าวอิศรา ล่าสุด ได้เขียนบทความลงในเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา เรื่อง “ฉากหลัง คดีบ้านเอื้ออาทร ผลประโยชน์ทับซ้อน-หัวคิวหลังละหมื่น” ขออนุญาตสรุปความบางส่วนมาเล่าต่อ
ประเด็นปัญหาในโครงการ อาทิ
2.1 โครงการบ้านเอื้ออาทรเป็นโครงการประชานิยม ยุครัฐบาลปี 2544 อยู่ในความรับผิดชอบของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) การกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป้าหมายสร้างบ้านราคาถูกให้ผู้มีรายได้น้อย 6 แสนหน่วย ภายใน 5 ปี (2546-2550) มูลค่าเงินลงทุน 2.86 แสนล้านบาท ก่อนถูกรัฐประหาร 2549
2.2 ดำเนินการใน 2 รูปแบบ คือ 1.การเคหะฯ จ้างผู้รับเหมามาก่อสร้างในที่ดินของการเคหะฯ (ใช้ในช่วงแรก 1-2 ปี) และ 2.ก่อสร้างแบบระบบเทิร์นคีย์ คือ การเคหะฯ ซื้อโครงการจากเอกชน มี 2 แบบ ได้แก่ ระบบเทิร์นคีย์เฉพาะโครงการ คือการเคหะรับซื้อโครงการจากเอกชน (ใช้ในช่วงปี 3-4 หรือปี 2547-2548) และระบบเทิร์นคีย์แบบเหมาโควตา หรือบิ๊กลอต ซึ่งเกิดขึ้นในยุคหลัง
2.3 ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interests) บริษัทของนักการเมืองและเครือญาติเป็นคู่สัญญารับเหมาหลายโครงการ อาทิ โครงการบ้านเอื้ออาทรขอนแก่น หนองคาย นครราชสีมา ปราจีนบุรี สมุทรปราการ ส่วนใหญ่ เป็น สส. รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท
2.4 ปัญหาการ “พอกส่วนต่าง”ในการจัดซื้อที่ดิน เช่น โครงการรังสิตคลอง 2 เนื้อที่ 42 ไร่ เดิมราคาประเมิน 55 ล้านบาท กลุ่มนายหน้านำไปเสนอขายให้แก่บริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนจิเนียริง จำกัด 89.25 ล้านบาท ต่อมาได้นำไปเสนอขายให้การเคหะฯ ในราคา 97.75 ล้านบาท หรือไร่ละ 2.3 ล้านบาท เกิดกำไรส่วนต่างประมาณ 40 ล้านบาท เป็นต้น
2.5 ปัญหาการเบิกเงินล่วงหน้า กินเปล่า แล้วทิ้งงาน อาทิ ผู้รับเหมารายหนึ่ง เป็นแค่ หจก. มีสำนักงานที่ตั้งเป็นเพียงห้องแถวซอยลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ บัญชีงบดุล มีรายได้ไม่กี่แสนบาท เป็นคู่สัญญากับการเคหะฯกว่า 40 สัญญา รวมมูลค่านับหมื่นล้านบาท บางโครงการมีการจ่าย “เงินล่วงหน้า” ให้แก่ผู้รับเหมารายนี้ไปแล้ว 119 ล้านบาท ทิ้งร้างโครงการ
2.6 ปัญหาเรียกรับหัวคิว “นายหน้าซื้อขายที่ดิน” แฉว่า ทำเป็นขบวนการ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดหา จัดซื้อที่ดิน การอนุมัติ มีการเรียกเก็บ ค่าหัวคิว หน่วยละ 10,000 บาท ผ่าน “พ่อค้า” คนใกล้ชิด
สมมุติว่า ถ้า บริษัท ก.ได้รับโควตา 10,000 หน่วย จะต้องจ่ายเงินสด 100 ล้านบาท
นายหน้าคนนี้ต่อมาเป็นพยานปากสำคัญของอนุกรรมการตรวจสอบทุจริตของ คตส.
2.7 โครงการระบบเทิร์นคีย์จัดแบ่งโควตาให้ผู้รับเหมารายใหญ่เพียง 6-7 กลุ่ม ผู้รับเหมารายหนึ่งก่อตั้งวันที่ 19 ก.ค. 2547 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ในปีเดียวกันได้โควตาถึง 6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท (บริษัทนี้ได้ทั้งหมด 10 โครงการ 7.2 พันล้านบาท) ต่อมา บริษัทนี้ถูก คตส.ตรวจพบว่าจ่ายสินบนให้นักการเมืองรายหนึ่ง 82.6 ล้านบาท ผ่านเจ้าของบริษัทค้าข้าวผู้อื้อฉาวและคนขับรถ (เป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคการเมืองใหญ่แห่งหนึ่งด้วย)

3. บางโครงการ วิธีจ่ายเงินค่าหัวคิวโควตา แสนพิสดาร
คตส. ไต่สวน คดีถูกส่งต่อมาที่ ป.ป.ช. ก่อนจะสอบต่อ สรุปสำนวน ชี้มูลความผิด
ทราบว่า โครงการบ้านเอื้ออาทรที่ก่อสร้างโดยบริษัทแห่งหนึ่ง มีการจัดซื้อราคาที่ดินแพงเกินจริง
มีการเรียกค่าหัวคิว 82 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายให้กับนักการเมือง
มีการโอนเข้าบัญชีของคนขับรถ แม่บ้าน และพนักงานพิมพ์ดีด
นักการเมืองผลักดันระบบดำเนินโครงการ ว่าจะต้องมีคณะกรรมการกลั่นกรองอย่างไร
แล้วแต่งตั้งคนของตน เข้าไปดำเนินการจัดสรรโควตาตามระบบที่ตนผลักดัน
คณะกรรมการกลั่นกรอง นำข้อเสนอของบริษัทเอกชนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการ โดยไม่ผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอน
ปรากฏว่า เงินล่วงหน้าจากสัญญานี้ ถูกนำเข้าบัญชี จัดไว้เป็นรายการค่าตอบแทนข้าราชการ
จำนวนเงินที่ไหลไปเข้าเครือข่ายบริษัทค้าข้าวที่ใกล้ชิดนักการเมือง 82.5 ล้านบาท สอดคล้องกับจำนวนที่พยานยืนยันว่า มีการเรียกรับเงินหน่วยละ 11,000 บาท จำนวน 7,500 หน่วย
สำนวนสอบสวน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปแล้ว ขณะนี้ ค้างอยู่ในชั้นคณะกรรมการร่วมกับอัยการ
ประเด็นที่เห็นต่าง เป็นเรื่องข้อกฎหมาย
ส่วนเรื่องข้อเท็จจริง เงินไหลไปไหนอย่างไร ไม่มีการคัดง้าง
ไม่มีการใช้ข้อมูลเท็จในการใส่ร้ายใครอะไรเลย
ขบวนการทุจริตบ้านเอื้ออาทร มันไม่เอื้ออาทรเงินภาษีแผ่นดินเอาเสียเลย
สารส้ม

ด่วน!ประกาศ‘เคอร์ฟิว’ 5 อำเภอ‘ตราด’ หลัง‘บก ฉก.นย.’ถูก M79 ยิงถล่ม พบพิกัดจากในประเทศ
พบโดรนปริศนาบินว่อนทั่วเมืองตราด ไทย-เขมรปะทะเดือดกลางดึก แนวรบบ้านชำราก
‘ทภ.2’รายงานแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ‘ศึกตาควาย’ยังไม่จบ ต้องรบต่อ
เจอจะๆหลักฐานมัด‘กัมพูชา’ พบขุดคูเลต-สร้างบังเกอร์-ฐานยิงปืนใหญ่รอบ‘ปราสาทคนา’
‘นิพิฏฐ์’เสียดาย‘สส.พัทลุง’ทิ้ง‘ปชป.’ ย้อนอดีตเป็นผู้ตัดสายสะดือ วันนี้ยืนอย่างเดียวดาย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี