เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2560 เป็นวันประเดิมการใช้บัตรสวัสดิการรัฐ หรือบัตรช่วยเหลือค่าครองชีพคนจน นโยบายสำคัญอันหนึ่งของรัฐบาล
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
คนต่างจังหวัด ทยอยรับบัตรกันไปแล้ว ตั้งแต่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
รับบัตรไปแล้วราวๆ 3 ล้านคน
ปรากฏว่า วันแรก ออกมาใช้จ่ายผ่านบัตรกันคึกคัก
1. ชาวบ้านที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ 11.67 ล้านคน
ส่วนที่อยู่ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร จำนวน 1.3 ล้านคน (จะได้รับบัตร 17 ต.ค.) ส่วนที่เหลืออยู่ต่างจังหวัดอีกราว 11 ล้านคน ทยอยรับบัตรไปแล้ว
ทยอยใช้สิทธิตามวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซื้อสินค้าและบริการ ผ่านเครื่องรับชำระเงิน
มีวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยผู้มีรายได้สูงกว่า 30,000-100,000 บาทต่อปี จะได้วงเงินคนละ 200 บาทต่อเดือน และผู้ที่รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้วงเงินคนละ 300 บาทต่อเดือน
มีวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
มีวงเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก.และรถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน รถโดยสาร บขส. 500 บาทต่อเดือน และค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
วงเงินของแต่ละส่วน หมดแล้วหมดกันไป จะโยกข้ามรายการไม่ได้
ถ้าใช้เต็มวงเงินแล้ว ในเดือนนั้นก็จะใช้ไม่ได้อีก
ถ้าใช้ไม่เต็มวงเงินเดือนนั้น จะนำไปสมทบกับเดือนต่อไปไม่ได้
พูดง่ายๆ ว่า เมื่อขึ้นวันที่ 1 ของเดือนใหม่ รัฐบาลลุงตู่จะเติมเงินเข้ามาให้ใหม่ทุกๆ เดือน
2. วันแรก พบปัญหาการใช้งานอยู่บ้างเป็นธรรมดา เช่น Internet ไม่แรง ทำรายการล่าช้า หรือบางส่วนก็ไม่คุ้นกับการใช้งานเครื่อง EDC บางพื้นที่ยังไม่มีร้านที่มีเครื่องรับชำระเงิน ฯลฯ
ตอนนี้ มีการติดตั้งเครื่อง EDC ทั่วประเทศแล้ว 5.000 เครื่อง ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งทราบว่า ภายในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม 2560 ทางรัฐบาลกำลังเร่งติดตั้งเพิ่มเป็น 8,000 เครื่อง ให้ครบทุกตำบล และจะทยอยติดตั้งเครื่อง EDC ให้เพียงพอเพื่ออำนวยความสะดวกต่อไป
มีหลายพื้นที่ ใช้รถขายสินค้าเคลื่อนที่เข้าไปบริการเสริม
ปรากฏว่า เดือนแรก รัฐบาลใจดีอีก เห็นว่า ช่วงแรกอาจยังไม่ได้รับความสะดวก ไม่สามารถใช้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างเต็มที่ กรมบัญชีกลางยกยอดวงเงินคงเหลือจากการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าประชารัฐและสวัสดิการทุกประเภทของเดือนตุลาคม ให้ไปใช้ต่อได้ในเดือนพฤศจิกายนอีกหนึ่งเดือน
ย้ำ.. เฉพาะที่คงเหลือ ส่วนใครใช้แล้ว หมดแล้วก็หมดกันไป รอใช้ของเดือน พ.ย. ก็แล้วกัน
จะซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมันพืช ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สบู่ ยาสีฟัน ฯลฯ ก็ตามใจ
ชาวบ้านบางคน บอกว่า ดีใจที่ได้รับบัตรจากรัฐบาล ช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้าน ไม่ต้องถือเงินสดไปซื้อของ
โดยมีบางร้าน จัดแถมไข่ไก่ 1 ฟองต่อการซื้อของ 100 บาท
3. มองในภาพรวมของการใช้เงินแผ่นดิน โครงการนี้ ใช้เงินแผ่นดินเดือนละ 3,495 ล้านบาท
หรือปีละ 41,940 ล้านบาท
เป็นการยิงค่าใช้จ่ายตรงลงไปที่กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีรายได้น้อย 12 ล้านคน
และทำให้รัฐมีข้อมูล สามารถติดตามประเมินผลการให้สวัสดิการในแต่ละประเภท และนำมาปรับปรุงการให้สวัสดิการให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีผลในทางส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนในการใช้จ่ายชำระค่าสินค้าและบริการด้วยเงินสด ไปสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้
ในอนาคต ถ้าจะมีมาตรการช่วยเหลือ หรือต้องการส่งเสริมพฤติกรมด้านใด เช่น ให้รางวัลจูงใจเพื่อปรับเปลี่ยนกิจกรรมในชีวิตของประชาชน ก็อาจใช้การใช้จ่ายผ่านบัตรนี้เป็นเครื่องมือด้วยก็ได้
4. ลองเปรียบเทียบกับอดีต ยุคทักษิณ ก่อนเลือกตั้งใหม่ เคยให้ชาวบ้านมาลงทะเบียนคนจน
ปรากฏว่า ได้คะแนนนิยมเสร็จ เลือกตั้งจบ หายต๋อม
นายเสนาะ เทียนทอง อดีตแกนนำรัฐบาลทักษิณ เคยแฉในหนังสือรู้ทันทักษิณ 4 ระบุว่า
“...การจดทะเบียนคนจนนั้น ผมเคยแนะนำว่ามันทำไม่ได้ ไปประกาศเฉยๆ ไม่ได้ เอามาขึ้นทะเบียนเฉยๆ คนที่เป็นหนี้สินอยู่ที่ไม่ใช่คนจนก็ไปจดทะเบียนด้วย มันจะบานปลายไปใหญ่ พี่ไม่เห็นด้วย มองด้วยจิตสำนึกมันปฏิบัติไม่ได้ มันได้แค่โชว์ตัวเลขตอนเลือกตั้งจากนั้นไม่มีผลจริง
แต่ทักษิณตอบว่า โธ่...พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงเหรอ
เขาพูดอย่างนี้ แสดงว่าไม่ได้จริงใจกับนโยบาย ประกาศไปก่อนค่อยหาวิธีการทำการตลาดทีหลัง ไปเสี่ยงเอาข้างหน้า ขอให้ได้คะแนนเสียงไว้ก่อน ไม่สน วิธีปฏิบัติราชการ...”
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี