ทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทยปี 2561 ซึ่งอยู่ในช่วงที่เรียกว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างรัฐบาลคณะรัฐประหารของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับรัฐบาลที่จะมีขึ้นภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หลายๆ องค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะมีการขยายตัวได้ในอัตราร้อยละ 4 จนถึงร้อยละ 5 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีมากกว่าปี 2560 ที่ผ่านพ้นไปแล้ว
รายได้ประชาชาติในปี 2561 คาดว่าจะมาจากส่วนประกอบต่างๆ รวม 7 ส่วน คือ การเกษตรกรรมมีการขยายตัวในปี 2561 ประมาณร้อยละ 6-7 อุตสาหกรรมมีการขยายตัวจากปี 2560 ประมาณร้อยละ 4-5 การท่องเที่ยวมีการขยายตัวร้อยละ 6-8 การค้าส่งและการค้าปลีกมีการขยายตัวร้อยละ 7 การขนส่ง การคมนาคม การสื่อสารขยายตัวร้อยละ 8-9 การก่อสร้างมีการขยายตัวร้อยละ 8อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและภัตตาคารขยายตัวร้อยละ 9
อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ จากการประมาณการของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในระยะ 3 ปีระหว่างปี 2559 ถึงปี 2561 ดังนี้ภาพรวมปี 2559 มีการขยายตัวร้อยละ 3.2 ปี 2560 มีการขยายตัวร้อยละ 3.9 และปี 2561 มีการขยายตัวร้อยละ 4 ถึง 4.5
การบริโภคภาคเอกชนปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 3.1 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 3.2 ปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.5 การบริโภคภาครัฐปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 1.7 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 0.5 ปี 2561 จะขยายตัวร้อยละ 3 การลงทุนภาคเอกชนปี 2559 ขยายตัวร้อยละ0.4 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 1.7 ปี 2561 จะขยายตัวร้อยละ 3 ถึง 5 การลงทุนภาครัฐปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 9-10 ปี 2560 มีการขยายตัวร้อยละ 8 ปี 2561 มีการขยายตัวร้อยละ 11
การส่งสินค้าออกในรอบ 3 ปี มีการขยายตัวดังนี้ ปี 2559 มีการขยายตัวร้อยละ 5 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 9 และปี 2561 มีการขยายตัวร้อยละ 7 ส่วนการนำสินค้าเข้านั้นปี 2559 มีลักษณะติดลบร้อยละ 4.2 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 14 และปี 2561 คาดว่าจะนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในระยะ 3 ปี ถือว่าต่ำปี 2559 มีอัตราแค่ร้อยละ 0.2 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 0.7ปี 2561 ขยายตัวแค่ร้อยละ 1.5
ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของพลังงานหลักของประเทศไทยนั่นคือ น้ำมันดิบที่นำเข้ามากลั่นจากนครรัฐดูไบ และประเทศโอมาน ในรอบ 3 ปี ระหว่างปี 2559 ถึง 2561 ยังคงมีแนวโน้มที่มีราคาต่ำปี 2559 ราคาเฉลี่ยตลอดปีบาร์เรลละ 41-42 เหรียญสหรัฐ ปี 2560 มีราคาเฉลี่ยบาร์เรลละ 52 ถึง 55 เหรียญสหรัฐ ปี 2561 มีราคาระหว่าง 52 ถึง 62 เหรียญสหรัฐ
กล่าวโดยภาพรวมแล้วจะพบว่าไทยแทบจะไม่มีปัญหาเศรษฐกิจที่น่าเป็นห่วงในปีนี้ คือ ปี 2561 ไม่ว่าจะเป็นการว่าจ้างงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มีอย่างต่อเนื่อง ปัญหาการว่างงานของแรงงานมีน้อย ปัญหาที่น่าห่วงคือการต้องพึ่งแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นมากกว่าเศรษฐกิจของไทยน่าจะเติบโตอย่างมั่นคงและมั่งคั่งอย่างแน่นอน ภาพรวมถือได้ว่าไม่น่าจะห่วงอะไรมากนัก อาจจะดีกว่าที่มีการประมาณการไว้เสียด้วยซ้ำไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี