ประเทศไทยเคยมีนายกฯ นอมินีของนักโทษหนีคดีทุจริตมาแล้ว 3 คน
คนล่าสุด พยายามออกผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ล้างผิดคนโกง แต่สุดท้าย ผลกรรมเป็นอย่างไรคงได้ทราบกันแล้ว
แต่ความล้มเหลวของนายกฯ นอมินี โดยเฉพาะการพยายามจะไปรื้อฟื้นล้างผิดคดีทุจริตนั้น ได้ฝากบาดแผล และทิ้งภาระต้นทุนไว้กับประเทศชาติส่วนรวม
สมควรที่ประเทศไทยจะได้ตระหนัก เรียนรู้ที่จะไม่ผลิตซ้ำ
ล่าสุด ปรากฏว่า มีการแสดงจุดยืนของพรรคการเมืองที่อยู่ในข่ายเป็นตัวแปรทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ที่มีนัยและท่าทีต่อคนทุจริต-นายกฯ นอมินี-การลบล้างคดีทุจริต
1. พรรคอนาคตใหม่ โดยหัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจได้แสดงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่
เพจ พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party ได้นำมาเผยแพร่ไว้ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ระบุว่า
“พรรคอนาคตใหม่ยืนยันในข้อเสนอทางการเมือง 4 ข้อ ได้แก่
1. ไม่สนับสนุนนายกฯ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2. หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.
3. แก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ทั้งฉบับ
4. ลบล้างผลพวงรัฐประหาร
จากจุดยืนข้างต้น ไม่สามารถกล่าวได้ว่า พรรคอนาคตใหม่ หรือหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ นำพาประเทศไทยก้าวข้ามความขัดแย้งไปสู่อนาคตใหม่
ตรงกันข้าม กำลังจะนำพาประเทศไทยกลับไปสู่อนาคตความขัดแย้งเก่าๆ อีกครั้ง
โดยเฉพาะข้อ 3 และข้อ 4
กล่าวเฉพาะข้อ 4 เมื่อพิจารณาประกอบคำให้สัมภาษณ์ในหลายวาระ กล่าวได้ว่า นี่คือการเปิดประตูให้ลบล้างความผิด-ทบทวน-สอบสวนใหม่ ในคดีทุจริตของนายทักษิณ ชินวัตร โดยรวมไปถึงคดีที่ศาลฎีกาฯ เคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว และคดีทุจริตที่อยู่ในชั้นศาลฎีกาฯ ปัจจุบัน
อ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งของผลพวงรัฐประหาร
จะเห็นได้ว่า นี่คือการเปิดประตูกลับไปสู่ความขัดแย้งเดิมๆ อีกครั้ง
เป็นข้อเสนอที่ “ถูกใจทักษิณ” และดูแทบไม่ต่างอะไรกับข้อเสนอของ “นอมินีทักษิณ” คนก่อนๆ หน้านี้
2. พรรคประชาธิปัตย์ จัดให้มีการปราศรัยใหญ่ในหัวข้อปฏิญญาทุ่งสง โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐานและนายชวน หลีกภัย ขึ้นเวทีปราศรัย
นายจุรินทร์ได้ประกาศจุดยืนต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ 3 ข้อ คือ
“ข้อ 1 การแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนต้องมาก่อน และจะลงมือทำทันทีที่เป็นรัฐบาล นั่นคือยางพาราต้องได้ กก.ละ 60 บาท ปาล์ม กก.ละ4 บาท 25 ไร่ได้ทุกคน ทั้งสวนยางสวนปาล์มที่มีเอกสารสิทธิและไม่มี ประมงต้องอยู่ได้ทั้งประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์
ข้อ 2 ประชาธิปัตย์มีจุดยืนที่ชัดเจน เรื่องประชาธิปไตย นั่นคือประชาธิปไตยของประชาธิปัตย์ต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ และที่ต้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้า อะไรไม่บังควร ประชาธิปัตย์ไม่ทำ
ไม่บังคับคนเลือกข้าง เพราะข้างชนะจะเอาอำนาจ ข้างแพ้ก็จะไม่ยอมรับ นำไปสู่ความขัดแย้งไม่สิ้นสุด แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ที่ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน
ที่สำคัญ คือ จุดยืนประชาธิปไตยสุจริต เพราะการทุจริตคือต้นเหตุแห่งการยึดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นปี 2549 หรือปี 2557
และข้อ 3 พรรคประชาธิปัตย์ มีจุดยืนชัดเจนที่จะเป็นแกนตั้งรัฐบาลโดยหลังเลือกตั้งไม่ต้องถามว่าเราจะร่วมรัฐบาลกับใคร แต่ให้ถามว่าหลังเลือกตั้งใครจะมาร่วมรัฐบาลกับเรา
เลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนมี 3 ทางเลือก ทางเลือกที่หนึ่ง คือ “ประชาธิปไตยทุจริต” ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นต้นเหตุแห่งการยึดอำนาจนำไปสู่ความยากจนข้นแค้น, ทางเลือกที่สอง คือ “ประชาธิปไตยวิปริต” ที่คนไทยทั้งประเทศเลือกผู้แทนได้ 500 คน แต่คนไม่กี่คนกลับเลือกผู้แทนอีกประเภทที่เรียกว่า สว. ได้ 250 คนและมีสิทธิ์มาเลือกนายกฯร่วมกับ สส. 500 คนที่ประชาชนเลือก มีบทเฉพาะกาลอายุ 5 ปีไว้คุมอำนาจอีก 2 สมัย กับทางเลือกที่สามที่เป็นทางหลักของประเทศ คือ “ประชาธิปไตยสุจริต” ที่จะพาประชาชนพ้นจากความยากจนและพ้นจากวังวนยึดอำนาจได้ ซึ่งผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรก็ต้องขึ้นกับประชาชน”นายจุรินทร์กล่าว
จากจุดยืนข้างต้น ชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้สรุปบทเรียนจากประชาธิปไตยทุจริต ว่าคือต้นเหตุของการยึดอำนาจ ทั้งในปี 2549 และปี 2557 โดยประกาศเป็นส่วนหนึ่งบนเวทีปฏิญญาทุ่งสง ว่าคือจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไม่ทำสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน
สังคมก็ต้องกลับไปดูว่า พรรคไหน พวกไหน เคยกระทำสิ่งเหล่านี้ นั่นหมายความว่า หลังการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็คงจะไม่สามารถร่วมงานได้กับคนพวกนั้น ถ้ากลับคำไปจับมือ ย่อมถูกมองว่าตระบัดสัตย์ครั้งใหญ่
3. พรรคพลังประชารัฐ โดยรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดร.สุวิทย์เมษินทรีย์ โพสต์เฟซบุ๊คประกาศชัด
“เลือกพลเอกประยุทธ์ หยุดการเมืองนอมินี
ผมในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อหยุดยั้ง “วงจรการเมืองนอมินี” ที่สร้างปัญหาและความเสียหายให้กับประเทศ ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ เป็นอดีตผบ.ทบ. เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นตัวจริง เสียงจริง มีภาวะผู้นำสูง มีการตัดสินใจบริหารราชการเพื่อประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ต้องรับใช้ใครที่อยู่หลังฉากจากแดนไกล
สถานการณ์การเมืองล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงความเลวร้ายของการเมือง “ระบบนอมินี” ที่จะทำลายระบบการเมืองไทย สร้างความเสียหายที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติ โดยทั้งหมดนี้มาจากการเมืองนอมินีทั้งสิ้น
ผม.. ขอเรียกร้อง..ให้คนไทยผู้รักชาติ....ช่วยกันหยุดระบบนอมินีให้หมดจากประเทศไทย ซึ่งจะเป็นภารกิจสำคัญลำดับแรกของพลเอกประยุทธ์ ขอให้เชื่อใจไว้ใจ มั่นใจเลือกพรรคพลังประชารัฐ เลือกพลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ขจัด “ระบบนอมินี” ให้สิ้นด้วยกันครับ”
พิจารณาได้ว่า สถานการณ์ล่าสุดที่ว่านั้น ก็คงหมายถึงการที่มีพรรคการเมืองหนึ่ง ถูกบงการให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีโดยมิชอบ มิบังควร ก่อให้เกิดความเสียหายและระคายเคืองสถาบันเบื้องสูงที่เป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ หากกลุ่มการเมืองดังกล่าวได้อำนาจรัฐ ก็ย่อมจะรับใช้ผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้มีอำนาจตัวจริงที่กดปุ่มจากแดนไกล ซึ่งจะนำพาประเทศชาติกลับไปสู่วังวนความขัดแย้งซ้ำซากต่อไปอีกอย่างแน่นอน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี